xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” เผยซักฟอก “ประชา” เหตุความผิดชัด ชี้ “เฉลิม” ไม่แจง พ.ร.ฎ.เท่ากับยอมรับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  (แฟ้มภาพ)
“มาร์ค” ระบุยื่นซักฟอก “ประชา” เหตุทำผิดรัฐธรรมนูญ เข้าข่ายถูกถอดถอน เชื่อประชาชนจะได้เห็นผิดชัด บอก “เฉลิม” ไม่แจง พ.ร.ฎ.อภัยโทษ แสดงว่า ยอมรับมีการแก้หลักเกณฑ์เอื้อ “ทักษิณ” จริง

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ให้สัมภาษณ์  

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ว่า มีความชัดเจนว่าได้มีการทำผิดกฎหมายขัดรัฐธรรมนูญเข้าข่ายที่จะถูกถอดถอน เพราะการกระทำของ พล.ต.อ.ประชา ถือว่าส่งผลกระทบต่อการบริหารงานในสถานการณ์น้ำท่วม โดยเฉพาะการบริหารจัดการที่เกี่ยวกับของบริจาคและเรื่องน้ำท่วมที่ทำให้วิกฤตรุนแรงขึ้น เป็นความเสียหายโดยตรงกับประชาชน และการที่ พล.ต.อ.ประชา ไม่ได้ทำตามกฎหมาย โดยเฉพาะกรณี พ.ร.ฎ.อภัยโทษที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงยุติธรรมด้วย ถือเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะตรวจสอบ

ส่วนกรณีที่พรรคฝ่ายค้านอื่นๆ ไม่ได้ร่วมลงชื่อยื่นถอดถอนอยู่ที่การตัดสินใจของพรรคนั้นๆ แต่พรรคเห็นว่าเป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในการรักษาผลประโยชน์

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ท้วงติงว่า บรรยากาศในขณะนี้ยังไม่เหมาะสมที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนถือว่า เป็นการตรวจสอบซึ่งไม่ได้กระทบเสถียรภาพของรัฐบาล ตนคิดว่า การตรวจสอบครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญให้การบริหารของรัฐบาลดีขึ้น ไม่คิดว่าพรรคประชาธิปัตย์จะถูกลอยแพจากการที่ไม่มีพรรคร่วมฝ่ายค้านมาร่วมลงชื่อ เพราะพรรคร่วมฝ่ายค้านมีสิทธิ์ที่จะอภิปรายหรือไม่ก็ได้ ตนหวังว่า หลังการอภิปรายครั้งนี้ความจริงจะปรากฏให้ประชาชนได้รับรู้ และจะมีผลในการดำเนินการตามกฎหมาย และเห็นว่าเมื่อใดก็ตามที่ฝ่ายการเมืองทำเกินขอบเขตของกฎหมายก็จะต้องถูกตรวจสอบ

ส่วนเรื่อง พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ ที่ตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้ในสภาเป็นการยืนยันสิ่งที่ทุกฝ่ายกำลังตั้งข้อสงสัยว่า หากไม่มีความพยายามแก้ไขหลักเกณฑ์ คำตอบของ ร.ต.อ.เฉลิม ก็คงไม่เป็นอย่างนี้ ถึงแม้จะบอกว่ายังไม่มีข้อสรุปสุดท้ายก็ตาม แต่ข้อเท็จจริงเพียงแค่ออก พ.ร.ฎ.ถวายคำแนะนำอย่างไรก็ได้ โดยไม่คำนึงว่าคนที่จะได้รับการพระราชทานอภัยโทษ ควรเป็นนักโทษชั้นดี สำนึกในความผิดที่เกิดขึ้นเหมือนคนใดคนอื่นๆ การคิดจะตัดตรงนี้ออกไปเท่ากับว่านโยบายที่รัฐบาลเคยพูดว่าต้องการปราบปรามการทุจริตเป็นแค่นโยบายที่เขียนไว้เฉยๆ ดังนั้น คำตอบของ ร.ต.อ.เฉลิม น่าจะเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าสิ่งที่ได้มีรายงานข่าวออกมาน่าจะเป็นจริง

“สิ่งที่อาจจะตามมาก่อนที่เราจะทราบว่าผลจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ คือ ความแตกแยก และการเพิ่มความขัดแย้งใหม่ ด้านหนึ่งรัฐบาลบอกว่าอยากจะปรองดอง แต่กลับสร้างความแตกแยกใหม่ขึ้นมา”

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯเดินทางกลับมาแล้ว ก็ควรแสดงจุดยืนว่าจะหยุดเรื่องนี้หรือไม่ เพราะหากเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไป ก็จะเป็นการทำลายหลักการที่ดีของการบริหารบ้านเมือง ซึ่งนายกฯอ้างว่าไม่ได้มาร่วมประชุมแล้วจะไม่รับรู้นั้น คงจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะการไม่มาประชุมก็ยิ่งเพิ่มความสงสัยว่าพยายามหลีกเลี่ยง และที่อ้างว่า ไม่ได้ทำเพื่อคนๆ เดียว นั้น ตนยืนยันว่า ไม่ได้คัดค้านการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษ แต่ก็ต้องมีหลักเกณฑ์ตามปกติที่มีประชาชนเรือนหมื่นคนได้รับประโยชน์ แต่มีคนกี่คนในประเทศนี้ที่มีคดีการทุจริตและถูกตัดสินแล้วได้ประโยชน์จกการเปลี่ยนเงื่อนไขจากการตรา พ.ร.ฎ.ฉบับนี้ ตนนึกได้แค่คนเดียว

ส่วนที่อ้างเรื่องพระราชอำนาจต้องถามว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะสิ่งที่เราจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ควรจะมีแต่สิ่งที่ดี ทั้งนี้ อยากให้รัฐบาลทำทุกอย่างอยู่ภายในกรอบของรับธรรมนูญ ซึ่งรัฐบาลควรจะตัดไฟเสียแต่ต้นลม เพราะเริ่มจะมีเค้าความขัดแย้งขึ้นมา บวกกับวิกฤตน้ำท่วมในขณะนี้ ดังนั้น อยากให้รัฐบาลเลิกทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ ส่วนที่จะมีการปลุกระดมคนเสื้อแดงออกมา 2 แสนคนนั้น ก็เป็นอีกสวนหนึ่งที่เกิดจากสาเหตุนี้ ที่เรากำลังสร้างความขัดแย้งขึ้นมาใหม่เพื่อคนๆ เดียว อยากถามว่าทำไปทำไม
กำลังโหลดความคิดเห็น