“มาร์ค” ลุย บางระกำ พิษณุโลก เจอข่าวลือเดินสายล่ารายชื่อถอด “ปู” ชาวบ้าน แฉแหลก ไร้เงารัฐบาลมาดูแลหลังประกาศบางระกำโมเดล จวก “ปู” ไม่ระบายน้ำตามคำแนะนำของพ่อหลวงทำบ้านเมือง “ยิ่งเละ” ด้านชาวบ้านบ้านคลองลึก สุดช้ำ ถูกคุกคามไม่เลิกหลังแฉผู้ใหญ่บ้านกินหัวคิวแถมคดีไร้ความคืบหน้า วอน “มาร์ค” ช่วยด่วน
วันนี้ (18 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่วัดท่าโก ตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ในโครงการอาสาคนไทยช่วยน้ำท่วม ร่วมใจฟื้นฟู โดยได้เข้่าร่วมกิจกรรมทาสีกำแพงโรงเรียน และเครื่องเล่นเด็กในสนามเด็กเล่น ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวประสบอุทกภัยนานหลายเดือนน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร และเพิ่งจะกลับสู่ภาวะปกติ จากนั้นได้ไปแลกเปลี่ยนความเห็นและรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับเกษตรกรที่บ้านเลขที่ 111/1 หมู่ 4 ตำบลบางระกำ ซึ่งเป็นบ้านของนางแดง เทพหยด
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการลงพื้นที่ครั้งนี้ ว่า เป็นการแสดงว่าพรรคพร้อมที่จะร่วมกับทุกภาคส่วนในการฟื้นฟูชีวิตประชาชนหลังน้ำลด และเลือกโรงเรียนเป็นสถานที่แรก เพราะเห็นว่าเป็นอนาคตของประเทศ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชน และมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยจะดำเนินการครอบคลุมทุกด้าน ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจ อาชีพ สุขภาพ และการศึกษา ซึ่งจะดูว่าเยาวชนที่ได้รับผลกระทบด้านการเรียนจะต้องเสริมอย่างไร ทั้งนี้ จะประสานงานกับทุกภาคส่วน เพื่อระดมความคิดจากประชาชนทั้งในส่วนกลาง และระดับพื้นที่เกี่ยวกับการเตรียมการป้องกันสำหรับอนาคต โดยอาศัยภูมิปัญญาของชาวบ้านผนวกกับความรู้ของผู้เชี่ยวชาญ และจะจัดเตรียมในเรื่องการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกัน การปฏิบัติตนในภัยพิบัติต่อไป เพื่อทำในพื้นที่ประสบภัยที่มีความพร้อม ซึ่งได้ประสานงานกับทุกภาคส่วนทั้งภาคธุรกิจ เอกชน และประชาชน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การป้องกันภัยพิบัติในอนาคตต้องจัดเวทีเพื่อระดมข้อเสนอแนะสรุปให้คณะกรรมการที่มีหน้าที่ฟื้นฟูต่อไป และที่ตนเลือกพื้นที่บางระกำเป็นจุดเริ่มต้นในการฟื้นฟูก็เพื่อส่งสัญญาณถึงรัฐบาลที่เคยประกาศนโยบายบางระกำโมเดล ว่า อย่าเพิ่งทิ้งพื้นที่นี้ เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่รอรับการฟื้นฟู ทั้งการชดเชยเยียวยา อยากให้รัฐบาลติดตามทำต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการแลกเปลี่ยนความเห็นกับเกษตรกรนั้น มีการแสดงความเป็นห่วงของเกษตรกรหลายราย ว่า จะไม่ได้เงินส่วนต่างจากโครงการประกันรายได้ ในขณะที่รัฐบาลได้ตัดสิทธิ์เกษตรกรที่มีการเพาะปลูกก่อนวันที่ 1 ตุลาคมออกจากโครงการรับจำนำข้าวโดยให้รับสิทธิในการเยียวยาไร่ละ 1,400 บาทแทน และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาแต่อย่างใด โดยเกษตรกรเห็นว่ารัฐบาลควรจะให้สิทธิเกษตรกรที่เพาะปลูกก่อนวันที่ 1 ตุลาคมด้วย เพราะเป็นคนละส่วนกับการเยียวยาเรื่องน้ำท่วม เนื่องจากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมก่อนที่จะทำการเพาะปลูก ซึ่งนายอภิสิทธิ์ รับที่จะสะท้อนปัญหาในสภาเพื่อให้รัฐบาลประกาศมาตรการที่ชัดเจนในการแก้ปัญหา
นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านสะท้อนถึงบางระกำโมเดลของรัฐบาล ว่า ไม่ได้มาจากชาวบ้าน แต่มาจากข้างบน และชาวบ้านไม่รู้จะช่วยแก้ปัญหาอะไร ไม่มีการสอบถามคนในพื้นที่ว่าต้องการตามที่ส่วนกลางกำหนดให้หรือไม่ ซึ่งชาวบ้านไม่ได้กลัวปัญหาเรื่องน้ำท่วม แต่ต้องการให้มีการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับการทำการเกษตร
ขณะที่ นางมณีชน แซ่ด่าน ชาวบ้านบางระกำ ได้กล่าวอย่างอัดอั้นตันใจ ว่า อยากฝากถามถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า เหตุใดจึงไม่มีการระบายน้ำตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงให้คำแนะนำกับรัฐบาล แต่กลับทำตรงกันข้ามจนปัญหาบานปลาย จึงคิดว่าวันนี้นายกรัฐมนตรีไม่ใช่ยิ่งลักษณ์ แต่เป็นยิ่งเละมากกว่า
นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านร้องเรียนเกี่ยวกับการถูกหักค่าหัวคิวเกษตรกรรายละ 2 ไร่ ไร่ละ 2,200 บาท ว่า หลังจากแจ้งความกับตำรวจคดียังไม่คืบหน้า โดย นายสุมาลี กลิ่นจันทร์ และนายเชาว์ พันเปี่ยม ชาวบ้านหมู่ 10 บ้านคลองลึก ตำบลชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เล่าว่า ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ต.ชุมแสงสงคราม ให้ดำเนินคดีกับ นายชวลิต ยังเจริญ ผู้ใหญ่บ้าน และ ส.ต.ณรงค์ฤทธิ์ เพชรพูล และ นายอ๊อด เงินเขียว ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เมื่อเกือบสองเดือนที่ผ่านมา แต่ไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินคดี และยังมีปัญหาชาวบ้านที่น้ำท่วมบ้านไม่ได้เงินชดเชยครัวเรือนละ 5 พันบาท เนื่องจากไม่ใช่พรรคพวกของผู้ใหญ่บ้าน แต่กลับมีการจ่ายเงินให้กับพรรคพวกตัวเองที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยได้นำเอาภาพถ่าย และหลักฐานมาแสดงต่อสื่อมวลชน และ นายอภิสิทธิ์ ด้วย และขอให้ช่วยติดตามความคืบหน้า เนื่องจากเกิดความหวาดกลัวในเรื่องอิทธิพลเพราะมีการขี่มอเตอร์ไซด์ตามข่มขู่คุกคาม ทำให้ไม่กล้าออกจากบ้านไปไหน
ในระหว่างนั้นได้มีชาวบ้านสอบถามว่า มีการปล่อยข่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เดินทางมาบางระกำเพื่อรวบรวมรายชื่อชาวบ้านในการยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งเป็นความจริงหรือไม่ ทำให้ นายอภิสิทธิ์ ถึงกับหัวเราะก่อนจะชี้แจงว่า เดินทางมาเพื่อรับฟังปัญหาและช่วยเหลือประชาชนไม่มีการล่าลายชื่อชาวบ้านตามที่มีข่าวลือแต่อย่างใด ส่วนการยื่นถอดถอนรัฐมนตรี และ ส.ส.รวม 7 คน ของพรรคประชาธิปัตย์นั้น เป็นการทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้านที่รวบรวมรายชื่อของ ส.ส.ดำเนินการตรวจสอบหลังพบว่ามีการกระทำที่ผิดรัฐธรรมนูญ