ชกไอ้เก่งเป็น ฮีโร่ !!

เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด



00 ยังเป็นเรื่องกล่าวถึงกันอย่างต่อเนื่องในสังคมออนไลน์กับข่าวที่มี “หนุ่มดอนเมือง” คนหนึ่งที่ชกหน้า “เจ้าเก่ง” การุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพฯพรรคเพื่อไทยจนปากแตกเย็บ 5 เข็มไปเมื่อสองวันก่อน สาเหตุเป็นเพราะบันดาลโทสะที่ ทั่น ส.ส.ซิ่งเจ็ทสกีด้วยความเร็วทำให้เรือของชาวบ้านกลุ่มนี้ต้องคว่ำลงในน้ำเน่า อย่างไรก็ดีเรื่องราวที่เกิดขึ้นกลายเป็นว่า หนุ่มดอนเมือง คนนั้นกลับกลายเป็น “ฮีโร่” ในสายตาของคนกลุ่มใหญ่ สังเกตได้จากมีคนสนใจคลิ๊กเข้าไปอ่านข่าวดังกล่าวถึงกว่าแสนครั้ง รวมไปถึงข่าวคืบหน้าที่เกี่ยวข้องกันล้วนแล้วแต่มีคนเข้าอ่านหลายหมื่นคนในเวลาอันรวดเร็ว

00 ที่น่าสนใจก็คือในคอมเมนท์ท้ายข่าวนอกจากสรรเสริญเยินยอถึงความกล้าหาญของ หนุ่มดอนเมืองคนนั้นแล้ว ยังมีความพยายามที่จะรวบรวมเงินเพื่อช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่อีกด้วย ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกของคนกลุ่มใหญ่ที่มีต่อ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ก่อนหน้ามีมักมีแต่เรื่องอื้อฉาวตั้งแต่เรื่อง “ปลอมใบปริญญาบัตร” เรื่อง ทำร้ายอดีตภรรยาตัวเองกลางสนามบินดอนเมือง รวมไปถึงพฤติกรรมอื่นๆที่ถูกมองว่าไม่ต่างจาก “กุ๊ย” คนหนึ่ง ซึ่งนี่ก็คือหนึ่งในจำนวน ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย

00 ยังเป็นเรื่องของ เก่ง เจ้าเก่า ครับพี่น้อง ไม่รู้ว่าได้รับมอบหมายให้เป็นเจรจากับพี่น้องชุมชนย่านดอนเมืองกว่า 20 ชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขังสูง และได้รับผลกระทบจากการวางถุงขนาดใหญ่(บิ๊กแบ็ก) เจรจากันไปกันมา เจ้าเก่ง ก็ยอมรับข้อเสนอให้รื้อบิ๊กแบ็ก แต่ยังไม่ทันไรนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ย้ำว่ายังไม่ได้อนุญาตให้รื้อ ขณะที่ตามข่าวระบุก่อนหน้านั้นว่า เก่ง-การุณ ได้รับการประสานจาก ผอ.ศปภ.คือ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ให้ไปพูดคุยกับชาวบ้าน สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความ “ชุ่ย-ห่วยแตก-ไร้การประสานงาน” ซึ่งความสับสนที่ผ่านมาทั้งหมดเป็นเพราะมาจากแบบนี้แหละ

00 ปัญหาความวุ่นวายกระทบกระทั่งระหว่างชาวบ้านด้วยกัน หรือชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่ของรัฐจะไม่เกิดขึ้น หรือมีก็จะน้อยลง หากมีการประสานงาน เจรจากันล่วงหน้า รวมไปถึงเมื่อเกิดเหตุแล้วรีบเข้าไปทำความเข้าใจก่อนที่จะบานปลาย หากสามารถยืนยันบอกกล่าวถึงมาตรการเยียวยาดูแลเอาใจใส่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน แต่นี่อะไรก็ไม่รู้ นึกจะให้ใครก็ได้เข้าไปพูดคุยโดยที่ไม่มีข้อมูล ไม่มีอำนาจ ผลก็คือมั่วและเสียหายอย่างที่เห็น พูดไปพูดมามันก็สะท้อนให้เห็นถึงสติปัญญาของผู้บริหารสูงสุดนั่นแหละ ว่าห่วยแค่ไหน !!