“อนุดิษฐ์” โวย ปชป.เล่นการเมือง-ยันขนถุงยังชีพตามคำสั่งนายกฯ รอแจกชาวบ้าน

รมว.ไอซีที โต้ ปชป.เปิดคลิปขนถุงยังชีพไม่ครบถ้วน ยันไม่ใช่ของบริจาค ศปภ.แล้วนำไปเก็บไว้เอง แต่เป็นถุงยังชีพสำนักนายกฯ ให้ รมต.ที่เกี่ยวข้องนำไปแจกประชาชน พร้อมแสดงหลักฐานคำสั่งนายกฯ โวยอย่าเล่นการเมืองยามประชาชนทุกข์ยาก

เมื่อเวลา 13.20 น.วันที่ 13 พ.ย.ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แถลงตอบโต้กรณีที่ นายวิรัช กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา ในฐานะหัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวหาว่าตนได้นำของบริจาคของ ศปภ.ไปเก็บไว้ที่สำนักงาน และกำลังดำเนินการให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคไปรวบรวมหลักฐาน เพื่อนำมาใช้ประกอบการเขียนคำฟ้องในยื่นการถอดถอน เนื่องจากเข้าข่ายแทรกแซงฝ่ายบริหารตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 265-266 ว่า ในเรื่องนี้ได้รับความเสียหาย เพราะการให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนบางประการเป็นเท็จ เพราะตามข้อเท็จจริงแล้ว ถุงยังชีพที่ปรากฏอยู่ตามคลิปวิดีโอ ไม่ใช่ของบริจาคที่นำไปมอบให้กับ ศปภ.แล้วตนนำมาเก็บไว้ที่สำนักงานแต่อย่างใด แต่เป็นถุงยังชีพที่จัดหามาบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบภัยโดยสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมอบให้กับรัฐมนตรีที่ถูกมอบหมายให้ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆ

น.อ.อุนุดิษฐ์ กล่าวพร้อมกับแสดงหลักฐานเป็นหนังสือที่ นร 0405 (ลน.3)/026 ลงวันที่ 26 ก.ย.54 เรื่อง มอบหมายรัฐมนตรีรับผิดชอบเร่งรัด กำกับติดตามการกูวิกฤติจากภัยธรรมชาติ เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจที่ได้รับมอบ โดยไม่มีสิ่งใดแอบแฝง ที่ได้มีการดำเนินการอย่างเปิดเผยมาตลอด ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของรัฐตลอดจนอาสาสมัคร ช่วยกันนำถุงยังชีพลงพักในที่แห้ง ก่อนจะนำไปส่งมอบให้ประชาชน

“ถ้าผู้ตรวจสอบบริสุทธิ์ใจ และไม่มีเจตนาทำลายชื่อเสียงทางการเมืองของผม ควรจะนำภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอการแจกสิ่งของของผมและรัฐบาล ให้ประชาชนได้เห็นพร้อมกันด้วย ไม่ใช่นำเรื่องมาเสนอแบบไม่ครบถ้วน และให้ข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญอย่างไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามผมขอเรียกร้องให้ใครก็แล้วแต่ ที่เล่นการเมืองในยามที่ประชาชนทุกข์ยากอย่างนี้ ขอให้หยุดเล่นการเมืองและหันมาร่วมมือกันดีกว่า การกระทำแบบนี้ถือเป็นการตีกินทางการเมือง ซึ่งทำให้ผู้ถูกกล่าวหาเสียหาย” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวอีกว่า จะผิดหรือถูกในกรณีนี้ ต้องขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศาลเป็นหลัก ไม่ว่าจะใช้ช่องทางใดกล่าวหาก็ตาม ส่วนการตรวจสอบของฝ่ายค้าน ก็ถือว่าเป็นหน้าที่ที่จะนำข้อมูล หรือหลักฐานมาเปิดเผยได้ แต่ขอให้เป็นข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน