“อนุดิษฐ์” เผย ครม.เห็นชอบหลักการฟื้นฟูประเทศตามสภาพัฒน์เสนอ แต่ยังไม่ลงรายละเอียด รอแต่ละกระทรวงส่งมาตรการก่อน ระบุคุยกรอบเดิม ไม่พูดเรื่อง “นิวไทยแลนด์” ปัดตอบรื้อ “บ้านหลังแรก-รถคันแรก” หรือไม่ ยังเชื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหลังน้ำลด
วันที่ 1 พ.ย. ที่ศูนย์ปฎิบัติช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้ ครม.ได้เห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ได้เสนอมาตรการในการที่จะช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรที่ประสบอุทกภัย ซึ่งมีอยู่หลายเรื่องด้วยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการพูดถึงจำนวนงบประมาณที่จะช่วยเยียวยาให้แก่ประชาชนหรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า ยังไม่ได้ลงในรายละเอียด วันนี้เป็นเพียงกรอบที่ให้ทาง ครม.เห็นชอบ จากนั้นแต่ละกระทรวงกำหนดมาตรการรวมถึงข้อมูลงบประมานตัวเลข เพื่อให้มองเห็นเป็นแผนอย่างชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง เช่นเดียวกับกรอบเวลาที่มีเงื่อนไขอยู่หลายเรื่องด้วยกันว่าแต่ละกระทรวงจะมีเงื่อนไขอย่างไร แต่ในกรอบคิดของวันนี้คงจะมองในเรื่องเฉพาะหน้าระยะสั้น ว่าหลังน้ำลดแล้วจะมีมาตรการเพื่อนำไปสู่การแก้ไขระยะยาวอย่างไร ซึ่งคิดว่ามาตรการที่รัฐบาลได้คิดในวันนี้ จะเป็นมาตราการที่ครบถ้วน อย่างไรก็ดี ช่วงที่เป็นเรื่องของการเตรียมการก็คงจะรับฟังคำแนะนำจากทุกภาคส่วนด้วย
“ในมติ ครม.มีอยู่หลายมุมหลายด้านก็คงจะมองเห็นกรอบภาพรวมว่าในแต่ละด้านที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับประชาชนก็จะมีครบทุกมิติ เช่น ในเรื่องของเกษตรกร อุตสาหกรรม และวิชาชีพในสาขาต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ ตรงนี้จะมีมาตรการที่จะไปกำหนดแผนในการช่วยเหลือ”
เมื่อถามว่า สิ่งเหล่านี้จะทำให้นโยบายหลักของรัฐบาลต้องปรับเปลี่ยนหรือไม่ รมว.ไอซีทีกล่าวว่า ตนคิดว่าในเรื่องของนโยบายคงสามารถที่จะปรับเข้ากระบวนการของการฟื้นฟูได้อย่างลงตัวอยู่แล้ว เพราะว่าทุกเรื่องสิ่งใดก็แล้วแต่ที่เป็นการลงทุนในสภาพของการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นก็ต้องถือว่าเป็นนโยบายที่สามารถดำรงและคงเอาไว้ และในวันนี้ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องโปรเจกต์นิวไทยแลนด์ แต่เป็นสิ่งที่พูดไปแล้วในการประชุม ครม.ครั้งก่อน เมื่อในวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา และสภาพัฒน์ ในฐานะเลขาก็สรุปและขอความเห็นชอบจาก ครม.ตามขั้นตอนเท่านั้น
เมื่อถามว่า นโยบายบ้านหลังแรก รถคันแรกที่มีการวิพากษณ์วิจารณ์จะปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์หรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า คงจะต้องไปพิจารณาในเรื่องของผลกระทบในเรื่องของผลกระทบว่า ยังคงสามารถที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ซึ่งก็ต้องไปดูในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
