xs
xsm
sm
md
lg

“ยงยุทธ”อ้างฤกษ์เลข 11 วอนทุกฝ่ายร่วมมือ- “สุเทพ”ติงจ่าย 5 พันไร้ความหมาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
มท.1 อ้างฤกษ์ดี อ้อนขอความร่วมมือทุกฝ่ายฝ่าวิกฤตมหาอุทกภัย ชม“มาร์ค”ร่วมมือดี โทร.แจ้งเหตุคลองประปา ด้าน “สุเทพ”จี้รัฐบาลช่วยเหลือผู้เดือดร้อน อย่ารอทีวีมาถ่าย พร้อมแก้ปัญหาการเดินทาง เพราะเอกชนไม่หยุด ต้องลุยน้ำไปทำงาน ติงจ่ายชดเชย 5 พัน ไม่มีความหมาย



การประชุมร่วมกันของรัฐสภา เมื่อเช้าวันที่ 11 พ.ย. ซึ่งมีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม มีวาระพิจารณาคือ การขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 179 กรณีปัญหาภัยพิบัติอันเนื่องมาจากอุทกภัย ประเด็นหลักๆ ที่ ส.ส.ฝ่ายค้านจะหยิบยกมาอภิปรายเป็นเรื่องการบริหารน้ำจากตอนเหนือลงสู่อ่าวไทยที่มีความผิดพลาด การตั้งข้อสังเกตการบริหารน้ำลงอ่าวไทยล่าช้า รวมถึงการเตรียมเปิดข้อมูลหลักฐานการจัดซื้อถุงยังชีพที่แพงเกินจริง และการปล่อยให้สิ่งของบริจาคจมน้ำได้รับความเสียหาย ขณะที่ ส.ว.เตรียมเสนอแนะให้รัฐบาลเข้าไปบริหารจัดงานน้ำฝั่งตะวันตกที่ขณะนี้ยังคงวิกฤติ

นอกจากนี้ ยังมีวาระการพิจารณาการดำเนินการเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งมาตรการชั่วคราวของศาลยุติธรรม ระหว่างประเทศในกรณีปราสาทพระวิหาร ส่วนวันที่ 12 พ.ย. มีวาระการพิจารณากรอบการเจรจาจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียน และการให้ความเห็นชอบในพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่รัฐสภายังไม่ได้ให้ความเห็นชอบ และยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ตามมาตรา 153 วรรคสอง

ทั้งนี้การอภิปรายวาระเรื่องปัญหาน้ำท่วม เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 10.05น. โดยนายสมศักดิ์ได้แจ้งว่ามีการถ่ายทอดสดทางทีวีช่อง 11 และวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ แต่ในช่วงเวลา 10.30-11.30 น.จะมีการตัดสัญญาณไปถ่ายทอด สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีทรงเป็นประธานพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่สามที่ จ.นครพนม โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไปร่วมพิธีด้วยและจะกลับมาร่วมประชุมในช่วง 13.00 น. และจากการหารือของวิป 3 ฝ่ายได้ตกลงกันให้อภิปรายฝ่ายละ 4 ชั่วโมงครึ่ง เลิกประชุมเที่ยงคืนขอให้แต่ละฝ่ายบริหารจัดการเวลากันเอง

จากนั้นนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้ชี้แจงว่า ในนาม ครม.ได้เสนอญัตติต่อประธานรัฐสภาเพื่ออภิปรายทั่วไปถึงการแก้ปัญหาวิกฤตน้ำ ซึ่งวันนี้เป็นวันดี วันที่ 11 เดือน11 ปี 11 ขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันแก้ไขปัญหาสำคัญที่ยิ่งใหญ่คือปัญหาอุทกภัย โดยภาคปฏิบัติได้มีการร่วมมือกับทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายที่ไม่ใช่รัฐบาล ในช่วงเกิดวิกฤตก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่งจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่มีอยู่หลายสถานะ โดยเฉพาะสถานะพลเมือง ได้แจ้งถึงคลองประปาที่กำลังอยู่ในภาวะวิกฤต ขอให้รีบแก้ไขโดยด่วน ไม่เช่นนั้นจะแก้ไขยาก มีผลกระทบต่อประชาชนกว่าสิบล้านคน ตนก็รีบแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขทันที และสามารถแก้ไขได้สำเร็จจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้น ครม.อยากให้ปัญหาดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมแห่งนี้ หากสมาชิกต้องการรับฟังคำตอบจากปากนายกรัฐมนตรี ก็ต้องรอหน่อย

จากนั้นสมาชิกเริ่มทยอยอภิปรายแสดงความเห็น เริ่มจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฏร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่าถ้ารัฐบาลบริหารอย่างเป็นเอกภาพจะไม่เสียหายอย่างนี้ ตนขอเรียกร้องให้รัฐบาลให้ความช่วยเหลือกับทุกครอบครัวที่ได้รับความเดือดร้อน และช่วยตัวเองไม่ได้ ถ้ารัฐบาลช่วยได้ เสียงพึมพำต่อว่ารัฐบาลก็จะเบาลง ขอร้องรองนายกฯ ว่า คนที่จะมาทำโรงครัวต้องมีความเสียสละและอดทนเพราะไม่ใช่เรื่องง่าย และคนที่มากินอาหารก็ไม่ใช่ขอทาน เพียงแต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น ถ้าไม่ใส่ใจ ไม่ดูแลคุณภาพของอาหาร เอาของบูดมาให้อย่างทุกวันนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตได้

นอกจากนี้ยังแนะนำว่า รัฐบาลต้องเข้ามาจัดการเรื่องการคมนาคมโดยเร่งด่วน ก่อนหน้านี้รัฐบาลให้หยุดงาน4-5 วันยังพอทำเนา แต่วันนี้ทุกคนต้องไปทำงาน หลายคนต้องตกงานเพราะมาทำงานไม่ได้จนถูกไล่ออก ซึ่งในความเป็นจริงไม่ได้หมายความว่าจะเดินทางยานพาหะอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วสามารถไปถึงที่ทำงานได้ จะต้องใช้ทั้งรถยนต์และเรือ เป็นช่วงๆ รัฐบาลต้องวางแผนว่าจะเชื่อมโยงอย่างไรเพื่อให้คนสามารถออกไปทำงานได้ ไม่ควรปล่อยให้ลุยน้ำเน่าที่นำมาสารพัดโรค

นายสุเทพกล่าว่า รัฐบาลควรดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชนอย่างจริงจังมากกว่านี้ โดยจัดให้มีหน่วยแพทย์ไปตั้งให้ทั่วทุกจุด และรองนายกฯ ควรให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดรับบริจาคน้ำดื่มขนมาให้คนกรุงเทพ เพราะคน กทม.มีความอดทนน้อย มีความกลัดกลุ้มใจ กรมสุขภาพจิตควรไปนั่งคุยกับเขา อย่าตกใจถ้าเขาจะด่ารัฐบาล และ ส.ส.ทุกพรรค ต้องอดทนอธิบาย ให้กำลังใจ เรื่องปัญหาสุขภาพโดยเฉพาะสุขภาพเด็ก นมผงที่เป็นลูกของผู้ใช้แรงงาน รวมถึงแรงงานต่างด้าวตนทราบมาว่ามีการขอดูบัตรก่อนให้ความช่วยเหลือ ถ้าไม่มีบัตรก็ไม่ให้ ทำอย่างนั้นไม่ได้ ต้องคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนก่อนอย่าแบ่งแยกคน ทุกคนเดือดร้อนเหมือนกันหมด

ส่วนมาตรการการเยียวยา รัฐบาลนี้ทำเรื่องใหญ่ๆ หลายเรื่อง เช่น รถยนต์คันแรก บ้านหลังแรก ต้องใช้เงินหลายแสนล้านบาท ควรให้เงินกับผู้เดือดร้อนเขาเต็มที่ 5,000 บาทไม่มีความหมาย ธุรกิจบางแห่งเสียหายยับเยิน ต้องคิดถึงการให้เงิน 4-5 หมื่นบาท อย่าอยู่เฉยต้องไปสำรวจทุกบ้านให้รู้ว่าแต่ละคนเดือดร้อนอย่างไร แล้วมาคำนวณความเดือดร้อน จะทำให้ประชาชนมีกำลังใจ ตนไม่พูดถึงกิจการขนาดใหญ่ อุตสาหกรรมการค้า ต้องการให้ดูแลคนธรรมดาเดินดินนับล้านคนที่กำลังเดือดร้อนแสนสาหัสเท่านั้น ข้อเสนอทั้งหมดเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า หวังรัฐบาลจะเร่งทำทันทีภายในวันนี้พรุ่งนี้ อย่ารอเรียกให้ทีวีมาถ่ายทำครึ่งค่อนวันแล้วค่อยออกไป
สุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์
กำลังโหลดความคิดเห็น