รองอธิบดีกรมโรงงานฯ รับประกันพื้นที่น้ำท่วมปลอดสารอันตรายรั่วไหล แต่ห่วงกากของเสียถูกปล่อยออกมาช่วงล้างโรงงาน ด้าน รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษเผย“อีเอ็มบอล”แก้น้ำเสียได้ แต่ต้อง น้ำนิ่งลึกไม่เกิน 1 เมตร และห้ามใช้มาก
วันนี้ (10 พ.ย.) ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายนริศ ขำนุรักษ์ เป็นประธาน กมธ.เป็นประธานในการประชุม และมีวาระการพิจารณาติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหามลพิษ จากขยะมูลฝอย ขยะติดเชื้อ สารเคมี และสารปนเปื้อนที่รั่วไหลจากโรงพยาบาล โรงงาน และนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งที่ประชุมได้เชิญนายพงษ์เทพ จารุพรพันธ์ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และนายวรศาสน์ อภัยพงษ์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ รักษาการอธิบดีกรมควบคุมมลพิษเข้าให้ข้อมูล
นายพงษ์เทพ ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า จากปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้น พบว่าโรงงานอุตสาหกรรมที่ตั้งใน 31 จังหวัดได้รับผลกระทบ โรงงานเสียหายจำนวนกว่า 30,000 - 40,000 แห่ง ซึ่งขณะนี้พื้นที่ที่น้ำลด อาทิ จ.ปทุมธานี และ จ.พระนครศรีอยุธยา มีโรงงานอยู่ระหว่างฟื้นฟูแล้ว มีประมาณ 900 โรง อย่างไรก็ตามเรื่องสารเคมีอันตรายที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะรั่วไหลออกมาจากโรงงานนั้น ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่า ทางผู้ประกอบการได้ทำการย้าย และเก็บสารเคมีอันตรายไว้ในที่ปลอดภัยแล้ว แต่ยังมีสิ่งที่ตนกังวล คือ กากอุตสาหกรรม หรือของเสียอันตรายที่บางโรงงานอาจจะปล่อยออกมาในระหว่างที่ทำความสะอาดโรงงาน หรือ ช่วงที่สูบน้ำออกจากพื้นที่โรงงานได้
ขณะที่ นายวรศาสน์ชี้แจงในประเด็นการใช้น้ำชีวบำบัด (อีเอ็ม) ในการบำบัดน้ำเสียในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม โดยยืนยันว่าสามารถใช้บำบัดน้ำเน่าเสียให้ดีขึ้นได้จริง แต่ต้องใช้ในพื้นที่ที่เหมาะสม คือน้ำนิ่งและไม่ลึกเกิน 1 เมตร แต่หากไปใช้ในพื้นที่น้ำไหลจะไม่เกิดประโยชน์ นอกจากนั้นแล้วหากใช้จำนวนมากเกินไปอาจทำให้พื้นที่ที่ใส่ก้อนจุลินทรีย์หรืออีเอ็มบอลเป็นสาเหตุทำให้น้ำเน่าเสียเพิ่มขึ้นได้
