ทูตสวิสพาคณะผู้เชี่ยวชาญแก้น้ำท่วมเข้าเยี่ยม “ยิ่งลักษณ์” รองโฆษกอ้าง ทูตแดนนาฬิกาชมไทยแก้ปัญหาถูกทางแล้ว ขณะที่ “มิตซูบิชิ” มอบเงิน 12 ล้านบาท พร้อมยืนยันไม่ย้ายฐานการผลิต
วันที่ 10 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางคริสทีเนอ ชราเนอร์ บูรเกเนอร์ เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิส ประจำประเทศไทย ได้นำคณะผู้เชี่ยวชาญเพื่อบรรเทาปัญหาอุทกภัยจากสมาพันธรัฐสวิส เข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสกล่าวว่า เหตุการณ์อุทกภัยในประเทศไทยแม้จะเกิดขี้นครั้งใหญ่ แต่เป็นเรื่องน่าแปลกใจที่รัฐบาลไทยสามารถฟันฝ่าปัญหาและอุปสรรคในการแก้ ปัญหามาได้จนถึงปัจจุบัน และเท่าที่คณะผู้เชี่ยวชาญได้ลงพื้นที่สำรวจทั้งที่เขื่อนภูมิพล จ.ตาก และพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ถือว่าเป็นสิ่งที่ยากมากในการบริหารจัดการ ซึ่งทางสมาพันธรัฐสวิสเห็นใจและแปลกใจที่ยังเห็นว่าคนไทยที่ประสบภัยยังยิ้มได้อยู่ การที่รัฐบาลไทยพยายามระบายน้ำออกไปทางทิศตะวันตกและตะวันออกของ กทม.เพื่อรักษาพื้นที่ กทม.ชั้นในเอาไว้นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว แต่ถ้าจะเกิดน้ำท่วมใน กทม.ชั้นในจริง ระดับน้ำไม่น่าจะเกิน 30 ซม.
น.ส.อนุตตมากล่าวอีกว่า เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสยังได้เสนอแนะเกี่ยวกับการบริหารจัดการและป้องกันไม่ให้เกิดอุทกภัยขึ้นอีก โดยแผนระยะสั้นควรมีการดูแลคันคลองและเพิ่มประสิทธิภาพการสูบระบายน้ำให้มากขึ้น ส่วนระยะกลางนั้น ควรมีการดูแลระบบพยากรณ์อากาศอย่างเป็นองค์รวม และมีการประกาศเตือนก่อน เหมือนกับในสมาพันธรัฐสวิสที่มีองค์กรกลางเกี่ยวกับการเตือนภัย ตั้งอยู่ที่กรุงเบิร์น นอกจากนี้ควรมีการรวบรวมข้อมูลน้ำท่วมครั้งนี้เพื่อใช้เป็นบทเรียนในปีต่อๆ ไป ขณะที่แผนระยะยาว ทุกภาคส่วนควรมีส่วนร่วมในการปกป้องภัยพิบัติครั้งหน้า และสิ่งที่รัฐบาลตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำอย่างถาวร ถือเป็นสิ่งที่เดินมาถูกทางแล้ว อีกทั้งคณะผู้เชี่ยวชาญดังกล่าวยังได้ไปตรวจสอบโรงผลิตน้ำประปาบางเขน ซึ่งพบว่าน้ำประปาของไทยยังปลอดภัยอยู่ แต่ในส่วนของศูนย์พักพิงต่างๆ ควรมีการเติมคลอรีนมากขึ้นเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ส่วนการใช้ก้อนจุลินทรีย์ (อีเอ็มบอล) ในการบำบัดน้ำเสียนั้น ก็ยืนยันว่าวิธีนี้ใช้ได้ผลกับการแก้ปัญหาน้ำเน่าเสีย แต่ไม่สามารถบำบัดน้ำที่ใช้ดื่ม ขณะที่นายกรัฐมนตรีระบุว่ายินดีรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอต่างๆ โดยเฉพาะแผนระยะกลางและยาว อีกทั้งอาจมีการขอความเห็นในเรื่องการรวบรวมข้อมูลเรื่องของน้ำท่วม รวมทั้งการพยากรณ์อากาศและการเตือนภัยล่วงหน้า
น.ส.อนุตตมากล่าวว่า นอกจากนี้ นายโอซามุ มาสุโกะ ประธานกรรมการบริหารบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์เปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) ได้นำคณะเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี และมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 30 ล้านเยน หรือ 12 ล้านบาทไทย พร้อมกับยืนยันว่าทางบริษัท มิตซูบิชิ ยังไม่มีการย้ายฐานการผลิตออกจากไทย