สร้างอนาคตให้ใครกันแน่ !!

เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด

00 ในที่สุดรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพิ่มเติมอีกสองชุดใหญ่นั่นคือคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ(กยอ.) ที่มี “โกร่ง” วีรพงษ์ รามางกูร เป็นประธาน และคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ(กยน.) มี กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกและรมว.พาณิชย์ เป็นประธาน และยังเสริมสร้างภาพลักษณ์ขึ้นไปอีกด้วยการดึงเอา สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิชัยพัฒนาเข้ามาเป็นที่ปรึกษาอีกแรง มันก็ดูแล้วไม่เบาทีเดียว

00 ทุกอย่างดูแล้วแนบเนียน ฟังดูแล้วชวนเคลิบเคลิ้มคล้อยตาม แต่ขณะเดียวกันก็เตือนไว้ก่อนก็แล้วกันว่าให้จำขึ้นสมองเอาไว้ด้วยว่าเวลานี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมากี่สิบชุดแล้ว และมีการยกเลิกแล้วตั้งเพิ่มขึ้นมาเท่าใด และที่สำคัญได้ทำอะไร ได้ผลไปบ้างแล้วแค่ไหน เพราะเท่าที่ฟังดูแล้วมีร่วมๆยี่สิบชุด ก็ไม่ใช่อะไรกลัว นายกฯจะลืม แต่ไม่เป็นไรถ้าสคริปต์ไม่ตกหล่นหายไปเสียก่อนก็ไม่น่ามีปัญหาสามารถท่องจำได้

00 เมื่อหันมาพิจารณาตัวบุคคล เริ่มจาก “โกร่ง” ก่อน เชื่อว่าหลังจากได้นั่งแท่นเป็นประธาน กยอ.อะไรนั่นดูแล้วโก้หรูเท่ไม่เบา และคง “สมใจอยาก” พิลึก หลังจากก่อนหน้านี้ได้วนเวียนเสนอหน้ากับ “เสี่ยเหลี่ยม” อยู่นาน และไม่ทันได้หย่อนก้นนั่งเก้าอี้ก็เริ่มคุยโวทันทีว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมแบบนี้ในชั่วกัลปาวสาน และที่สะอึกก็คือจะเห็นผลทุกโครงการในเวลา 5-6 ปีข้างหน้า นั่นก็หมายความว่าเราต้องทนอยู่กับรัฐบาลห่วยๆนี่ไปอีกนานอย่างนั้นหรือ โอพระเจ้า !!

00 อย่างไรก็ดีนาทีนี้ไม่อยากขัดคอกับความพยายามสร้างภาพของรัฐบาลที่ขาดความเชื่อถือ เดี๋ยวจะถูกหาว่าเมื่อไม่พายเอาเท้าราน้ำเสียอีก แต่การที่จะพิจารณากำหนดแผนยุทธศาสตร์ในระยะยาวและเยียวยาฟื้นฟูนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครขัดข้อง แต่ในภาวะที่ระดับน้ำยังเพิ่มสูงและขยายวงกว้าง อีกมุมหนึ่งมันดูแล้วมันก็ไม่น่าจะเห็นอนาคตเท่าใดนัก

00 แน่นอนว่าการฟื้นฟูเยียวยาที่กำลังจะเกิดขึ้นทั้งที่น้ำยังไม่ลด และยังไม่มีจุดจบนั้น มันก็ย่อมเกี่ยวข้องกับงบประมาณอันมหาศาล และยิ่งได้ยินคำแถลงของ ดร.โกร่ง ที่บอกว่าจะลงทุนเท่าไหร่ก็ต้องยอม ก็ยิ่งสยอง ส่วนจะเป็นจังหวะและโอกาสอันสำคัญในการ “ถลุง” หรือไม่นั้นอีกไม่นานก็คงโผล่มาให้เห็นแน่นอน เพราะเมื่อน้ำลดตอก็ย่อมผุดมาให้เห็นนั่นแหละ

00 หลังจากเงียบเสียงที่เคยสร้างความรำคาญมานานหลายสัปดาห์ ในที่สุด เมื่อวานนี้(9 พ.ย.)สภาผู้แทนฯก็เปิดการดวลน้ำลายเน่าๆ เพิ่มความเหม็นให้กับชาวบ้านมากขึ้นไปอีก เนื่องจากเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2555 และเป็นไฟล์บังคับที่ต้องเปิดให้มีการประชุมพิจารณางบฯสำหรับใช้ในการบริหารประเทศ ในภาพรวมก็เป็นไปตามคาดนั่นคือเป็นการจ้องฉวยโอกาสใช้เวทีสภาหาประโยชน์หาเสียง แบบไร้สาระ โดยเฉพาะ ประธานสภา สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ ทุด !!