“ยิ่งลักษณ์” อ้างไม่เคยได้ยินกองทัพบ่นนายกฯสอบตกแก้น้ำท่วม 12 จุด ติงหยุดเล่นการเมือง หันแก้ป้ญหาให้ประชาชน โยน กทม.แจงจะระบายน้ำออกจากเมืองหลวงได้หรือไม่ เตือนพวกทุจริตถุงยังชีพเจอเล่นงานแน่ เพราะเป็นการซ้ำเติบประชาชน ปัดจ้างบริษัทพีอาร์สร้างภาพลงพื้นที่ ยินดีหาก กทม.เห็นควรตั้งบิ๊กแบ็กฝั่งตะวันตก ขอแค่ชี้จุด
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ให้สัมภาษณ์
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 7 พ.ย. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวที่ประชุมนายทหารระดับสูงของกองทัพ ได้มีการประเมินการแก้ไขปัญหาน้ำของรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีสอบตกถึง 12 จุด ว่า เราไม่น่าจะมาพูดกันตอนนี้ เพราะวันนี้ต้องทำหน้าที่แก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตาม เราได้ประชุมพร้อมกับกองทัพตลอดก็ไม่ได้ยินคำนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกเป็นการบันทอนการทำงานของรัฐบาลในช่วงเวลาที่วิกฤตตอนนี้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็อดทน และขอความร่วมมือทุกท่าน เราอย่ามาเล่นเกมการเมืองกันเลย เราน่าจะมาร่วมกันทำงานแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน เพราะทุกคนคงจะรอให้พวกเราร่วมมือกันทำงานเพื่อแก้ไขปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากที่ชะลอน้ำจากทางเหนือได้ ยังมีปัญหาและอุปสรรคการทำงานตรงจุดไหนบ้าง นายกฯ กล่าวว่า โดยรวมเราทำหน้าที่ในการช่วยชะลอน้ำทางเหนือ แต่ในส่วนของ กทม.คงเป็นหน้าที่ของ กทม.ที่จะเป็นเจ้าภาพหลัก สำหรับรัฐบาล หรือ ศปภ.พร้อมและยินดีทำตามที่ได้รับการร้องขอในการช่วยกันสนับสนุน เพราะระบบการระบายน้ำของ กทม.มีโครงสร้างคนละส่วนกัน เราเองไม่ทราบ
ต่อข้อถามว่า ทาง กทม.ได้รายงานการระบายน้ำหรือไม่ สามารถระบายน้ำออกไปได้มาก-น้อยแค่ไหน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังไม่มีตัวเลขที่แน่นอน ให้ทีมเทคนิคได้หารือกันจะดีกว่า เมื่อถามต่อว่า จากที่ได้คุยร่วมกับ กทม.มาตลอดถึงการแก้ไขปัญหาน้ำ ยังมั่นใจการระบายน้ำของ กทม.หรือไม่ ที่จะแก้ไขปัญหาใน กทม.ได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ทราบ เพราะช่วงหลังเราอยากจะเห็นทุกส่วนทำงานของตัวเองอย่างเต็มที่ ถามว่ามีความมั่นใจหรือเปล่า อันนี้คงต้องให้เจ้าของเป็นคนตอบ แต่เราต้องตั้งอยู่บนความร่วมมือกัน และทำหน้าที่ให้เต็มที่ในการช่วยเหลือประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีปัญหาในการประสานงานหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็มีบ้าง แต่ไม่ใช่เป็นเรื่องการตัดสินใจ แต่เป็นปัญหาการทำงานทางด้านเทคนิคต่างๆ ที่ไม่เหมือนกัน และระบบต่างๆ ไม่ตรงกันก็ยากที่จะตัดสินใจว่าต้องเปิดระบายน้ำที่เท่าไร มันก็ไม่ใช่ เมื่อถามว่า นายกฯพูดว่าให้ประชาชนอดทนฟันฝ่าวิกฤต 2-3 สัปดาห์แสดงว่า สถานการณ์ทุกอย่างจะดีขึ้นใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า จากที่ประชุมคณะบริหารจัดการน้ำที่คุยกัน ทางทีมงานค่อนข้างจะเห็นว่า 2-3 สัปดาห์น่าจะมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น เราก็พยายามยึดตรงนั้นให้ได้
ต่อข้อถามว่า วันนี้เจ้าภาพหลักในการระบายน้ำเป็นส่วนของ กทม. น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ใช่ การระบายน้ำเป็นของ กทม.และระบบของ กทม.ค่อนข้างใหญ่ และเป็นระบบที่ดี เมื่อถามต่อว่า ชาวบ้านคลอง 9 มองเรื่องการระบายน้ำของ กทม.ยังไม่สามารถทำได้ในขณะที่คนคลอง 9 เองอดทนย่อมให้น้ำท่วมขังในพื้นที่ นายกฯ กล่าวว่า จริงๆ เราได้พยายามขอความร่วมมือมวลชน และข้อเท็จจริงอยากกราบเรียนสื่อมวลชน และทุกท่านให้เข้าใจในส่วนของมวลชนด้วย เพราะความจริงมวลชนทุกคนไม่ได้ตั้งใจที่จะมีเจตนามาขวาง หากถามว่า รัฐคุยกับมวลชนได้ไหม ทุกคนรักประเทศ แต่บางครั้งต้องขอความเห็นใจซึ่งกันและกัน เพราะคนที่รับน้ำเขาต้องทรมาน บางทีน้ำถึงคอแล้วบอกให้เขารับต่อ มันก็อยู่ในภาวะอารมณ์ต่างๆ แต่สุดท้ายเมื่อเราไปเคลียร์ก็เคลียร์ได้ ซึ่งตรงนี้เป็นปัญหาทางเทคนิคที่ต้องทำต่อไป และเราเองก็ต้องไปดูแลเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ในช่วงระหว่างรอน้ำลดเพื่อไม่ให้เขารู้สึกว่า เราทอดทิ้ง หรือทรมานพี่น้องประชาชน
ส่วนความเป็นไปได้ในการวางบิ๊กแบ็คฝั่บตะวันตกจุดบางกรวย เพื่อกั้นน้ำไม่ให้ท่วมถนนพระราม 2 น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงร่วมมือ คงต้องให้ กทม.ชี้จุด และวันนี้ถ้าคุยกันในห้องประชุมแล้วกำหนดจุดเลย บางครั้งไปลงพื้นที่จะเห็นว่า มันไม่ใช่ ดังนั้นการลงพื้นที่ต้องไปดู ทั้งพื้นที่จริงและการทำต้องคำนึงถึงพื้นที่ที่ไปกั้นมีผลกระทบกับคนที่ถูกั้น ด้านบนและใต้แนวคันกั้นน้ำหรือไม่ ในส่วนการกั้นบิ๊กแบ็กยินดีเข้าไปทำ แต่ กทม.ต้องชี้จุด ซึ่งมีระยะทางที่ยาวหลายกิโลเมตร อย่างบิ๊กแบ็กที่ทำเสร็จมารวมแล้ว 20 กว่ากิโลเมตร ไม่ใช่ 5-6 กิโลเมตรอย่างที่ว่ากัน ซึ่งบิ๊กแบ็กเราทำมานานแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ทำดีถูกด่า ทำพลาดถูกเหยียบซ้ำในสถานการณ์วิกฤตแบบนี้ท้อแท้เหนื่อยหน่ายใจหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขอบคุณสื่อมวลชนที่ถามคำถามนี้ จริงๆ การแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำซึ่งเป็นอุทกภัยธรรมชาติ คงยากที่จะบอกว่า เป็นภาพบวก เพราะน้ำเป็นอุทกภัย การที่ใช้คนห้ามภัยธรรมชาติ มันเป็นเรื่องยาก จะมาบอกว่า การบริหารจัดการ อันนี้อะไรเป็นสิ่งที่ดีดิฉันน้อมรับ และวันนี้เราสู้กับน้ำ เราไม่ได้สู้กับกฎหมายต่างๆ
“ถามว่า ท้อไหมไม่ท้อ เราพยายามที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และขอความร่วมมือทุกคน วันนี้เราควรจะหันหน้ามาอย่ามาเล่นเกมกันเลย เราทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่เถอะ วันนี้ทุกภาคส่วนดิฉันยินดีพร้อมทำงานร่วมมือกับทุกคน”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินตัวเองไว้บ้างหรือไม่ว่า หลังสถานการณ์คลี่คลายตัวเองจะโดนแรง ปะทะอะไรบ้างตามมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ทำหน้าที่อย่างเดียว และทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่ ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็เชื่อว่า ผู้ที่กำลังดูเราทำงานคงจะให้ความยุติธรรมกับตนเองบ้าง เมื่อถามต่อว่า เวลานี้มีข้อสงสัยเรื่องถุงยังชีพราคา 800 บาท น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า จากการสอบถามถุงยังชีพมีหลายประเภททั้งจัดซื้อ และธารน้ำใจจากประชาชน ซึ่งต้องดูในรายละเอียด ตนมองว่า ในสถานการณ์นี้ทุกคนไม่ควรจะเอาเรื่องนี้มาเบียดบังซ้ำเติมประชาชน หากมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น ตนพร้อมที่จะดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบ
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า อาจจะย้าย ศปภ.หนีน้ำอีกครั้งนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เรื่องข่าวลือต่างๆ คงต้องขอความร่วมมือ เพราะวันนี้มีข่าวลือที่ไม่ค่อยเป็นจริง วันนี้ยังยืนยันที่จะอยู่กระทรวงพลังงาน และทางกระทรวงเองก็ยืนยันความปลอดภัยในเรื่องของน้ำที่จะเข้าข้างใน ซึ่งไม่อยากจะวิ่งน้ำไปเฉยๆ เราต้องเรียนรู้อยู่กับน้ำให้ได้ และทำของเราให้ดีที่สุด หากมัวแต่ย้ายศูนย์เดียวจะไม่มีเวลาดูแลประชาชน
เมื่อถามว่า วันนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาก ว่า รัฐบาลจ้างบริษัทโฆษณามาดำเนินการในเรื่องของการลงพื้นที่ให้กับนายกฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่มี เท่าที่ดูจาก ศปภ. ไม่เคยใช้เงินจ้างออแกนไนท์เซอร์เลย เราทำกันเอง ยืนยันได้ทำกันเองทุกอย่าง แม้แต่ตัวเราเองยังไม่มีเวลาที่จะมานั่งพีอาร์แถลงข่าวเลย สื่อมวลชนก็ทราบ วันนี้เราทำงานอย่างเดียว ไม่มีเวลามาแถลงข่าวด้วยซ้ำไป เพราะเราเห็นว่าภารกิจดูแลพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ
ส่วนที่มีข่าวว่า ท้องถิ่นพยายามขัดขวางทหาร และทางการที่เข้าไปดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม โดยการใช้ตะปูเรือใบโรยนั้น นายกฯ กล่าวว่า อันนี้ต้องแก้ปัญหา 2 จุด ไม่ใช่ปัญหาโดยรวม
กรณีที่มีกระแสข่าวว่าสมาชิก 111 พรรคไทยรักไทย จะเสนอเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี โดยจะให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์พร้อมกับรอยยิ้ม ว่า “คงเป็นสีสันมั้งคะ"
