xs
xsm
sm
md
lg

ทัพบกแบ่งกำลังจัดโซนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“กองทัพภาคที่ 1” บูรณาการหน่วยในพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จัดหน่วยสู้น้ำทะลักฝั่งธนฯ เฝ้าระวัง “พระตำหนัก” และเขตรอบนอก “ทุ่งครุ-บางขุนเทียน-บางบอน” เตรียมแผนอพยพทันท่วงที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองทัพภาคที่ 1 โดย พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 ได้มอบหมายให้หน่วยงานภายในกองทัพภาคที่ 1 แบ่งงานรับผิดชอบในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ โดยจัดสรรกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยส่วนของกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.ร.1 รอ.) ได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่เขตบางซื่อ สายไหม สัมพันธวงศ์ บางกอกน้อย หลักสี่ บางเขน และเขตดุสิต โดยแยกให้กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) ดูแลรับผิดชอบพื้นที่เขตบางซื่อ โดยให้จัดตั้งกองบัญชาการควบคุมที่วัดบางโพ พร้อมจัดกำลังพลจำนวน 76 นายและยานพาหนะบรรจุสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ส่วนพื้นที่เขตสายไหมได้มอบหมายให้กองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1พัน.1 รอ.) เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ โดยได้จัดกำลังพลจำนวน 53 นาย เขตสัมพันธวงศ์มอบหมายให้กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1 พัน.3 รอ.) จัดกำลังพล 117 นาย พร้อมยานพาหนะบรรจุสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย และทำการบรรจุกระสอบทรายที่พระที่นั่งอัมพรสถานฯ เขตดุสิต พระที่นั่งอัมพร และโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย 2 เขตสัมพันธวงศ์

เขตบางกอกน้อย มอบหมายให้ กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ( ร.1 พัน.4 รอ.) รับผิดชอบโดยจัดดำลังพล 90 นายพร้อมยานพาหนะบรรจุสิ่งของ และให้ชุดช่างตั้งจุดช่วยเหลือประชาชน ที่โรงพยาบาลศิริราชและแยก อสมท ขณะที่เขตหลัดสี่มอบหมายให้กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 พัน.2 รอ.) รับผิดชอบโดยจัดกำลังพลจำนวน 104 นายพร้อมยานพาหนะช่วยเหลือประชาชนขนย้ายสิ่งของและอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ส่วนเขตบางเขนมอบหมายให้กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 พัน.3 รอ.) รับผิดชอบ โดยจัดกำลังพล 50 นายในการขนย้ายสิ่งของและอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ และเขตดุสิตมอบหมายให้กองพันทหารม้าที่ 4 รักาพระองค์ (ม.พัน.4 รอ.) รับผิดชอบ โดยจัดกำลังพลจำนวน 23 นาย พร้อมยานพาหนะเพื่อช่วยซ่อมผนังกั้นน้ำบริเวณ ถ.สามเสน ซ.21-23 ท่าเรือเกียกกายและชุมชนราชผาทับทิมร่วมใจ

ด้านกองพลทหาราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในพื้นที่เขตมีนบุรี และ อ.ธัญญบุรี จ.ปทุมธานี โดยในเขตมีนบุรีมอบหมายให้กองพันทหารช่างเครื่องมือพิเศษ (พัน.ช.คมศ.) รับผิดชอบสนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ให้กับศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ศบภ.พล.ร.2 รอ.) ในการเสริมแนวคันดินกั้นน้ำตั้งแต่คลอง 1-7 ส่วนบริเวณนิคมอุตสาหกรรมบางชันได้มอบหมายให้กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ (ร.12 รอ.) รับผิดชอบ โดยจัดกำลังพล 325 นายพร้อมยานพาหนะในการกรอกกระสอบทรายเพื่อเสริมแนวคันกั้นน้ำเพิ่มเติม และที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี มอบหมายให้กองพันทหารม้าที่ 30 กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ม.พัน.30 พล.ร.2 รอ.) จัดกำลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์ให้ความช่วยเหลืออพยพประชาชนประมาณ 800-1,000 คนออกจากพื้นที่บริเวณตลาดรังสิต เทศบาลนครรังสิต ไปบริเวณ ถ.วิภาวดีรังสิต (บริเวณห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต) เพื่อส่งต่อให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรับไปช่วยเหลือต่อไป

ส่วนกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในพื้นที่เขตหนองแขม วังทวีวัฒนา ทวีวัฒนา บางบอน หนองแขม ภาษีเจริญ บางแค ทุ่งครุ บางขุนเทียน ตลิ่งชัน พระตำหนัก บ้านสวนปทุม นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง และ อ.บางเลน จ.นครปฐม โดยแบ่งให้กองอำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองพลทหารราบที่ 9 (กอ.ศบภ.พล.ร.9) รับผิดชอบในพื้นที่เขตหนองแขม โดยจัดกำลังพลจำนวน 145 นายพร้อมยุทโธกรณ์อพยพประชาชนในพื้นที่ พร้อมทำการก่อกระสอบทรายเสริมแนวกั้นน้ำเพิ่ม ที่ มหาวิทยาลัยเอเซียอาคเนย์ และจัดกำลังพลบางส่วนไปปฏิบัติภารกิจ ณ พระตำหนักจักรีบงกช

ด้าน เขตทวีวัฒนา มอบหมายให้กองร้อยบรรเทาสาธารณภัย กรมทหารราบที่ 9 (ร้อย.บภ.ร.9) รับผิดชอบ โดยจัดกำลังพลจำนวน 150 นาย พร้อมเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์เพื่อเข้าไปอุดรอยรั่วของน้ำที่ทะลักมาตาม ใต้แนวกำแพงด้านทิศเหนือ พร้อมนำกระสอบทรายวางเสริมเป็นแนวกั้นน้ำบริเวณประตูพระตำหนัก (ประตู 1) และจัดกำลังพลบางส่วนไปเสริมแนวกระสอบทรายบริเวณประตูสถิตพงษ์ ด้านทิศตะวันออกของวังทวีวัฒนา ส่วนเขตทวีวัฒนามอบหมายให้กองร้อยบรรเทาสาธารณภัย กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 19 (ร้อย.บภ.ร.19 พัน.1) รับผิดชอบจัดกำลังพล 150 นายพร้อมยานพาหนะเพื่อรับ-ส่งประชาชนในพื้นที่ จัดส่งอาหารในศูนย์อพยพ จัดเรือลาดตระเวนริมคลองมหาสวัสดิ์และประสาน จส.100 รวมทั้งวิทยุในเครือมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ในการประชาสัมพันธ์ช่วยเหลือผู้ ประสบอุทกภัย

ขณะที่ เขตบางบอน มอบหมายให้กองร้อยบรรเทาสาธารณภัยกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 19 (ร้อย.บภ.ร.19 พัน.2 และกรมทหารปืนใหญ่ที่ 9 (ป.9) รับผิดชอบโดยจัดกำลังพล 158 นายพร้อมยานพาหนะเพื่อเฝ้าระวังในพื้นที่ริมคลองวัฒนาและคลองภาษีเจริญ รวมทั้งประสานการปฏิบัติกับสำนักงานเขตบางบอนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์น้ำ ท่วม รวมทั้งประสานงานเขตเพื่ออำนวยความสะดวกในการอพยพประชาชนจากเขตทวีวัฒนาไป ยังศูนย์พักพิงที่เขตหนองแขมและบางบอน ส่วนเขตภาษีเจริญและเขตบางแคมอบหมายให้กองร้อยบรรเทาสาธารณภัย กรมทหารปืนใหญ่ที่ 9 รับผิดชอบ โดยจัดกำลังพลจำนวน 175 นาย พร้อมยานพาหนะเพื่อพยพประชาชนออกจากหมู่บ้านศิริเกษมไปยังศูนย์พักพิง ที่โรงเรียนบางแคเหนือ โดยจัดรถบริการประชาชนจากต้นทางบริเวณ ถ.เพชรเกษมถึงปลายทางหมู่บ้านเศรษฐกิจ

ขณะที่กองร้อยบรรเทาสาธารณภัยกรมสนับสนุน (ร้อย.บภ.กรม สน.) รับผิดชอบในพื้นที่เขตทุ่งครุ และบางขุนเทียน โดยจัดกำลังพล 175 นายพร้อมยานพาหนะเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในเขตทวีวัฒนา พร้อมกรอกกระสอบทรายเพิ่มเติมเสริมแนวกั้นน้ำที่เขตทุ่งครุและบางขุนเทียน ส่วนเขตตลิ่งชันมอบหมายให้กองร้อยบรรเสาสาธารณภัยที่ 1 และ 2 (ร้อย.บภ.1 และ 2) รับผิดชอบ โดยจัดกำลังพลจำนวน 170 นาย พร้อมเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์เพื่อรับส่งและอพยพประชาชนในพื้นที่บริเวณ ชุมชนสวนผัก ชุมชนทุ่งมังกรและพื้นที่ใกล้เคียงจำนวน 33 เที่ยว อพยพประชาชนได้ 712 คน

ด้านบริเวณพระตำหนักบ้านสวนปทุม มอบหมายให้กองพันทหารราบที่ 19 กรมทหารปืนใหญ่ (ป.พัน.19) รับผิดชอบ โดยจัดกำลังพล 100 นาย พร้อมยุทโธปกรณ์ทำงานร่วมกับกองพันทหารราบ มลฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร.มทบ.11) บริษัทอิตาเลียนไทย กรมชลประทานและกองทัพเรือในการดำเนินการตอกสมอยึดกับพื้นที่ถนนตามแนวคันกั้นน้ำยาว 450 เมตร เพื่อเตรียมทำโครงสร้างประกอบคันกั้นน้ำให้แข็งแรง ซึ่งขณะนี้ดำเนินการตอกสมอไปแล้วประมาณ 300 เมตร ยังคงเหลืออีกประมาณ 150 เมตรก็จะเสร็จสิ้น

ด้าน นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ได้มอบมอบหมายให้ กรมทหารราบที่ 9 (ร.9) และกองพันทหารม้าที่ 19 (ม.พัน.19) รับผิดชอบโดยจัดกำลังพล 100 นายพร้อมยานพาหนะเพื่อเสริมคันกั้นน้ำรอบนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ส่วนที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม มอบหมายให้กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 19 (ร.19 พัน.3) รับผิดชอบโดยจัดกำลังพล 112 นายพร้อมยานพาหนะและเรือพลาสติกเพื่อเตรียมการอพยพและขนย้ายสิ่งของมายังศูนย์อพยพที่ ต.นราภิรมย์ พร้อมมอบถุงยังชีพไปมอบให้แก่ผู้ประสบภัยที่ ต.บางเลน และ ต.บางปลา รวมทั้งช่วยทำคันน้ำที่ชำรุดและถนนที่ได้รับความเสียหายใน อ.บางเลน

ขณะที่มลฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ได้รับมอบหมายให้ดูแลในพื้นที่เขตหนองจอก และ จ.ปทุมธานีบางส่วน โดยได้จัดกำลังพล 105 นายพร้อมยานพาหนะเพื่อเสริมแนวกระสอบทราย ที่ ชุมชนรอบพระตำหนักจักรีบงกช อ.เมือง จ.ปทุมธานี พร้อมทั้งจัดส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เข้าให้การตรวจรักษาประชาชนในพื้นที่เขตหนองจอกตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. ในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม และในพื้นที่เขตมีนบุรีมอบหมายให้กองพันทหารสารวัตรที่ 11 (พัน.สห.11) รับผิดชอบโดยการจัดชุดสายตรวจนอกเครื่องแบบจำนวน 10 นาย แบ่งเป็นไปประจำประตูระบายน้ำ E-7 จำนวน 5 นาย และอีก 5 นายร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นิมิตรใหม่ประจำประตูระบายน้ำคลองสามวา นอกจากนี้ยังได้จัดกำลังพลอีก 20 นายช่วยกันสร้างสะพานทางเดินให้ประชาชนในเขตมีนบุรีและอีก 20 นายเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในชุมชนแขวงคู้บอน เขตคลองสามวา
กำลังโหลดความคิดเห็น