“ครม.ปู” จับฉ่าย ถกปัญหาน้ำท่วม

ครม.ยิ่งลักษณ์ ถกปัญหาน้ำท่วมหลายประเด็น รับทราบสถานการณ์นครสวรรค์-อยุธยาดีขึ้น เสนอเสริมคันกั้นน้ำฝั่งตะวันตก กทม.6 กิโลเมตร ช่วยบางพลัด-บางกรวยพ้นน้ำ พร้อมเร่งระบายน้ำคลองแสนแสบ คลองสามวา ช่วยนิคมฯ ลาดกระบัง-บางชัน นายกฯ เคหะฯ เล็งเปิดศูนย์พักพิงเพิ่มรับได้กว่า 2 หมื่นคน “ประชา”อ้างคลิปของบริจาคถูกทิ้งที่ดอนเมืองเป็นภาพเก่า

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 1 พ.ย. ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กระทรวงพลังงาน ถ.วิภาวดีรังสิต นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปรารภถึงการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญภาวะวิกฤต โดยนายกฯ ระบุว่าจากการทำงานที่มีการเชิญนักวิชาการ และผู้ชำนาญการด้านต่างๆ มาทำงานร่วมกัน และมอบหมายให้คณะติดตาม เชื่อว่าจะมีผลลัพธ์ที่ดีระดับหนึ่ง อีกทั้งยังมีคณะกรรมการระบายน้ำที่มีนายวีระ วงศ์ แสงนาค เป็นประธาน ซึ่งได้มีการพูดคุยถึงระดับในขณะนี้ว่าที่ จ.นครสรรค์ สถานการณ์กำลังกลับสู่ภาวะปกติ โดยมีระดับน้ำต่ำกว่า 3,500 ลบ.ม.ต่อวินาที และเมื่อวานนี้เป็นเพียง 3,195 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งถือว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณเขื่อนชัยนาทเป็นที่น่าพอใจ คาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

ขณะเดียวกัน จ.พระนครศรีอยุธยา แจ้งว่า บริเวณถนนสายเอเชีย รถสามารถวิ่งได้ตามปกติแล้ว ทั้งนี้ นายกฯ และครม.ยังกล่าวถึงกระทรวงต่างๆ ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาน้ำท่วม อาทิ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้ทำการเปิดระบายในคลอง 8-13 ด้านกระทรวงคมนาคมก็มีส่วนร่วม โดยการแก้ปัญหาน้ำท่วมบริเวณถนนโลคัลโรด หมู่บ้านเมืองเอก ซึ่งมีการใช้กระสอบทรายถึง 3,000 ลูก โดยในที่ประชุมแจ้งว่ามีการเพิ่มกระสอบทรายอีก 4,000 ลูก ความยาว 3.5 กม.

ส่วนนายธีระ วงค์สมุทร รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาที่ซีกตะวันตกของพื้นที่ กทม.ว่า ต้องมีการเสริมคันกั้นน้ำฝั่งตะวันตกอีก 6 กม. เพื่อจะช่วยเขตบางพลัด และบางกรวย

ขณะเดียวกันก็มีการเร่งระบายน้ำบริเวณคลองแสนแสบ ซึ่งได้พิจารณาว่าจะทำอย่างไรให้เครื่องสูบน้ำของ กทม.สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ และทำอย่างไรให้น้ำบริเวณคลองสามวามีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง และบางชันดังนั้นนายกฯ ได้เซ็นคำสั่งเปิดประตูระบายนำคลองสามวาที่ระดับ 1 ม. อีกทั้งนายกฯ ยังได้ระบุว่าถ้าทุกคนยังยืนยันในแนวทางทำงานไปในทิศทางเดียวกัน ถือว่ามีความคืบหน้า หากผ่านสัปดาห์นี้ไปได้ เราจะรอดพ้น

ส่วนเรื่องของความปลอดภัย นายกฯ เน้นย้ำต่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรง รองนายกฯ ให้ดูแลความปลอดภัยชีวิตและทรัพสินประชาชนรวมทั้งบริเวณทางยกระดับ และทางด่วน ที่ประชาชนนำรถยนต์ไปจอด โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้ามามีส่วนร่วมในด้านนี้

ส่วนทางด้านศูนย์อพยพให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ (พม.) และกระทรวงมหาดไทยดูแลประชาชนที่ยังอาศัยตามบ้าน ให้เข้ามาช่วยเหลือเนื่องจากมีประชาชนติดค้างอยู่

ทางด้าน นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.กระทรวง พม.ได้มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการเคหะแห่งชาติ ว่ายังมีหลายโครงการที่สามารถรองรับเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวได้จำนวน 29 แห่ง จาก 23โครงการ เช่น เคหะชุมชนหนองจอก พรพระร่วงประสิทธิ์ หรือในเขตปริมณฑลก็ยังสามารถรองรับได้ เช่น เคหะเอื้ออาทร จ.สมุทรปราการ จ.สมุทรสาคร นอกจากนี้ยังมีทั้งที่ภาคกลาง และภาคเหนืออีกด้วย โดยโครงการทั้งหมดมีประมาณ 20,000 หน่วย เหลือที่สามารถรับประชาชนได้อีก 4,662 หน่วย ทั้งนี้ 1 หน่วยสามารถรับได้ 5 คน เมื่อเทียบแล้วยังสามารถรองรับผู้อพยพได้ถึง 23,849 คน

ทั้งนี้ นายกฯ ขอให้ดูแลประชาชนในต่างจังหวัดที่ยังเผชิญปัญหาทุกข์ทรมานอีกจำนวนมาก รวมทั้งนายกฯ ได้ขอบคุณกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ช่วยแก้ปัญหานำการเข้าไข่ไก่จากต่างประเทศ ถือเป็นการแบ่งเบาภาระประชาชนได้ระดับหนึ่ง ส่วนทางด้าน ร้านค้าโมเดิร์นเทรดต่างๆ ไม่สามารถให้บริการประชาชนได้ทั่วถึง ก็ขอให้เปิดเป็นร้านค้าของชำ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน

นอกจากนี้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ได้กล่าวถึงกรณีคลิปที่มีภาพของการขนย้ายข้าวของบริจารคที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ต่อที่ประชุมว่า เป็นภาพเก่าตั้งแต่ก่อนวันที่ 29 ต.ค. ซึ่งขณะนั้นกำลังย้ายศูนย์อยู่จึงมีของบริจาคมากมาย แต่ขณะนี้อาจมีขวดน้ำที่แตกจากแพ็ก หรือส้วมที่เสียหาย ดังนั้น ศปภ.ยืนยันว่าจะดูแลเป็นอย่างเพื่อให้ของบริจาคถึงมือประชาชน

อีกทั้งนายกฯ ยังเน้นย้ำนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที ให้เข้ามามีส่วนร่วม โดยให้ ส.ส.เข้าไปพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ปัญหา และรัฐบาลยินดีที่จะชดเชย โดยนายกฯ ได้กล่าวขอบคุณนายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รมช.กระทรวงมหาดไทยที่ช่วยพูดคุยกับประชาชนพื้นที่คลอง 9 จ.ปทุมธานี