ศปภ.แถลงภาพรวมสถานการณ์น้ำ ระบุ “ดอนเมือง-สายไหม-ทวีวัฒนา” ท่วมเต็มพื้นที่ เขตบางพลัดน้ำท่วมอุโมงค์ใช้การไม่ได้ วอนชาวบางเขนคำนึงถึงส่วนรวม อย่ารื้อคันกั้นน้ำเพราะจะกระทบต่อคุณภาพการผลิตน้ำ ย้ำย้ายศูนย์บัญชาการ ศปภ.ไปอยู่ ก.พลังงาน แต่ยังสามารถโทร.ติดต่อมาได้ที่ 1111 กด 5
วันนี้ (30 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 21.15 น. นายธงทอง จันทรางศุ โฆษกพิเศษศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) แถลงถึงสถานการณ์น้ำในภาพรวม ว่าทางตอนเหนือของกรุงเทพฯระดับน้ำได้ขยายวงเต็มพื้นที่ในเขตดอนเมือง และสายไหมแล้ว แต่ยังไม่เลยหลักสี่ ส่วนระดับน้ำในฝั่งถนนพหลโยธิน ได้เข้ามาถึงวัดวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน, ด้านฝั่งตะวันตกของ กทม.ท่วมเต็มพื้นที่ในเขตทวีวัฒนาแล้ว ส่งผลให้การจราจรบนถนนบรมราชชนนีเข้าสู่จังหวัดนครปฐมติดขัด เช่นเดียวกับเขตบางพลัด ระดับน้ำได้ท่วมเต็มอุโมงค์จนใช้การไม่ได้
ทั้งนี้ ศปภ.คาดการณ์น้ำทะเลหนุนจะทำให้ระดับในวันนี้ขึ้นสูงสุดที่ 2.65 เมตร เทียบจากเมื่อวานที่ 2.57 เมตร ขณะที่แนวกั้นน้ำมีความสูงเพียง 2.50 เมตร แต่ระดับน้ำวัดได้จริงวันนี้ยังอยู่ที่ 2.50 เมตร ส่วนการระบายน้ำทางด้านตะวันออกของ กทม.ลงอ่าวไทย ทุกส่วนราชการกำลังเร่งดำเนินการเต็มที่ มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ-ผลักดันน้ำในคูคลองต่างๆ ล่าสุด จะมีการติดตั้งกาลักน้ำ (ไซฟอน) เพื่อระบายน้ำจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ จากทุ่งรังสิตไปคลองหกวาสายล่าง ไปคลองแสนแสบ ไปแม่น้ำบางปะกง และลงสู่อ่าวไทย
นายธงทองกล่าวต่ออีกว่า ศปภ.ได้เปลี่ยนที่ทำการแห่งใหม่ โดยย้ายไปอยู่ที่กระทรวงพลังงานใกล้สำนักงานใหญ่ ปตท. โดยได้ย้ายมาตั้งแต่ช่วงสายของวันนี้ ซึ่งการเตรียมการได้มีการปรึกษาหารือมาเป็นระยะ นาน 2-3 สัปดาห์แล้ว แต่สาเหตุที่ ศปภ.ยังไม่ย้ายออก เพราะขณะนั้นยังมีผู้พักพิงจำนวนมาก จนได้ทยอยอพยพออกไปอยู่ที่ชลบุรี เมื่อผู้อพยพเหลือน้อยจึงได้หายห่วง ทั้งนี้ แม้ ศปภ.จะย้ายที่ทำการไปอยู่ที่กระทรวงพลังงาน แต่ ประชาชนยังสามารถโทรติดต่อมาได้ที่ 1111 กด 5
นอกจากนี้ โฆษกพิเศษ ศปภ.กล่าวถึงปัญหาน้ำประปาว่า เมื่อเวลา 10.00 น.มีปัญหาคุณภาพน้ำดิบที่ท่วมเข้ามาในคลองประปาฝั่งตะวันตก ที่ส่งเข้าโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์มีคุณภาพต่ำลงมาก ส่งผลให้ไม่สามารถที่จะผลิตน้ำในระดับการผลิตที่ปกติได้ จำเป็นต้องลดการผลิตน้ำประปาที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ลงชั่วคราว จากเดิมที่ผลิตน้ำประปาได้วันละ 900,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เหลือประมาณ 400,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
ล่าสุด ในช่วงสายดีขึ้นโดยเพิ่มปริมาณเป็น 600,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยจะแบ่งการจ่ายน้ำออกเป็น 2 ช่วง ในเวลา 06.00-09.00 น. และ 17.00-20.00 น. ในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมดที่รับน้ำจากโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ซึ่งประกอบด้วย จ.นนทบุรี ได้แก่ อ.เมืองนนทบุรี และปากเกร็ดฝั่งตะวันตก บางบัวทอง บางใหญ่ ไทรน้อย และบางกรวย จ.สมุทรปราการ ได้แก่ อ.พระประแดง และพระสมุทรเจดีย์ฝั่งตะวันตก พื้นที่ฝั่งธนบุรี ได้แก่ เขตธนบุรี คลองสาน บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ ทวีวัฒนา บางพลัด หนองแขม ภาษีเจริญ ตากสิน บางบอน ทุ่งครุ จอมทอง ราษฎร์บูรณะ บางขุนเทียน และตลิ่งชัน อย่างไรก็ดี สำหรับโรงพยาบาลศิริราชมีโรงผลิตของตนเอง การจ่ายน้ำของ กปน.จึงไม่มีผลกระทบต่อโรงพยาบาล
ส่วนโรงผลิตน้ำบางเขน ที่ผลิตให้ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ หรือฝั่งพระนคร ยังผลิตได้ตามปกติ แต่มีเหตุการณ์ที่ตอนเหนือ กทม. ช่วงเช้ามีชาวบ้านไปรื้อคันกันน้ำเป็นระยะทาง 10 เมตร เป็นเหตุให้น้ำนอกคันกั้นน้ำเข้าคลอง ตลอดบ่ายวันนี้เจ้าหน้าที่ได้พยายามเจรจาให้เข้าใจกว่าจะสำเร็จได้ก็เป็นเวลาค่ำแล้ว ส่งผลให้การซ่อมแซมอาจล่าช้า กปน.จะเร่งดำแนินการพรุ่งนี้เข้า เพื่อไม่ให้กระทบต่อการคุณภาพการผลิตน้ำที่โรงผลิตบางเขน
“ในสถานการณ์ภาวะเผชิญภัย อยากขอความกรุณาให้ประชาชนช่วยอดทน และคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ เพราะถ้าหากระบบจ่ายน้ำประปาของ กทม.ได้รับความเสียหายแล้ว ผู้ที่ได้รับกระทบจะมีเป็นจำนวนมาก” นายธงทองกล่าว