นายกฯ ยันไม่ขยายวันหยุดราชการ รอประเมินหลัง 31 ตุลาฯ เชื่อหากคันกันน้ำไม่แตก กรุงเทพฯ ชั้นในไม่เจอน้ำแน่นอน ยังไม่รู้ของบริจาคถูกทิ้งจมน้ำที่ดอนเมือง อ้างได้รับมา ก็ใช้เต็มที่ สั่ง “พงศพัศ” ดูแลผู้อพยพที่ดอนเมือง หลังตัดสินใจอยู่ต่อกว่า 200 กว่าครอบครัว
เวลา 14.30 น.วันที่ 30 ต.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณุ์ถึงการพิจารณาขยายวันหยุดราชการตามที่ได้ประกาศให้หยุดราชการกรณีพิเศษตั้งแต่วันที่ 27-31 ต.ค.ว่า ในส่วนของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเชื่อว่าจนถึงวันนี้แล้วเมื่อมีการสำรวจจากที่ได้ประกาศวันหยุด เอกชนบางส่วนก็ไม่ได้มีการหยุดงาน ซึ่งก็เป็นห่วงในภาพรวมที่จะเกิดความติดขัด จึงเห็นว่าไม่ควรมีการประกาศเพิ่มวันหยุดในช่วงนี้ แต่ก็ขอความร่วมมือเหมือนเดิมว่าทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ถ้ามีพนักงานที่ต้องประสบอุทกภัยให้ได้หยุด เพื่อให้คนเหล่านี้สามารถเข้าไปแก้ปัญหาของครอบครัวได้โดยที่ไม่เกี่ยวกับวันหยุดและวันลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า เท่าที่ประเมินสถานการณ์ในวันนี้ ไม่รุนแรงอย่างที่คาดการณ์ไว้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องรอดูวันที่ 31 ต.ค.อีก 1 วัน แต่จากที่เราพยายามประสานงานในทุกส่วนและควบคุม ดังนั้นจาก 1-2 วันนี้ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เกินที่คาดไว้ หวังว่าสถานการณ์น่าจะทรงตัวในวันนี้และวันจันทร์นี้ จากการที่น้ำทะเลลดลง แต่ยังไม่เห็นการลดลงอย่างทันควัน ซึ่งต้องมีการประกาศพื้นที่เฝ้าระวังเพิ่มเติมในแนวคลองที่น้ำจะเจิ่งนองมากกว่า ไม่ใช่ลักษณะของน้ำท่วม เนื่องจากปริมาณน้ำในคันคลองเยอะ ซึ่งจะล้นคลองออกมาส่วนจะเป็นจุดไหนบ้างนั้นจำไม่ได้ เท่าที่จำได้มีอยู่หลายพื้นที่เหมือนกัน เป็นพื้นที่ไล่มาถึงลาดพร้าวและวังทองหลาง แต่ไม่ถึงขั้นเป็นอันตราย เป็นเพียงแค่น้ำในคลองนองขึ้นมา วันนี้สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังคือพื้นที่ที่อยู่ตามแนวคันกั้นน้ำ ขอความกรุณาอย่าให้พัง เราต้องเก็บอีก 2-3 วัน เพราะหากพนังกั้นน้ำไม่พังลงมาสถานการณ์จะเป็นแค่น้ำล้นมาจากพนังกั้นน้ำเท่านั้นเอง และเมื่อปริมาณน้ำลดลง ระบบในเรื่องการสูบน้ำต่างๆ จะทำได้อย่างเต็มที่ขึ้น เพราะวันนี้มันเต็มทุกที่ ส่วนสถานการณ์น้ำที่ท่วมในพื้นที่ดอนเมืองในส่วนของกองทัพกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งได้มีการบล็อกน้ำจากคลองรังสิต ซึ่งเราทำทุกส่วน
เมื่อถามว่า สิ่งของบริจาคถูกปล่อยให้ลอยน้ำที่ดอนเมืองจะจัดการอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ยังไม่ทราบเลยขอตรวจสอบก่อน เพราะบางส่วนได้มีการย้ายไปที่สนามกีฬาศุภชลาศัย ส่วนพี่น้องที่ยังอยู่ในศูนย์อพยพดอนเมืองอย่างที่บอกการดำเนินการย้ายเป็นไปอย่างล่าช้า เพราะเป็นห่วงไม่อยากใช้มาตรการอะไรต่างๆ และเท่าที่ได้คุยกันประชาชนแถวนั้นยืนยันที่จะอยู่ จึงขอให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.เข้าไปดูแล ทั้งในเรื่องของน้ำ ไฟ อาหาร ไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีอยู่ประมาณ 200 ครอบครัว และจะมีการเจรจาต่อไปว่าจะทำอย่างไร ในเบื้องต้นคนเหล่านี้ตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่ เพราะส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อยู่ในดอนเมือง
เมื่อถามว่าของที่รับบริจาคมาได้นำไปใช้อย่างเต็มที่แล้วหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ยืนยันว่าใช้ มีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาในเรื่องการเบิกจ่ายใช้ของบริจาค ทุกอย่างไม่มีใครเก็บไว้ เพราะสิ่งเหล่านี้ต้องนำไปช่วยเหลือประชาชน และได้นำส่งไปช่วยเหลือประชาชนจริงๆ ซึ่งอาจมองว่าไปไม่ทั่วถึงเพราะตรงนี้อยู่ที่ความต้องการแต่ละพื้นที่ด้วย
เมื่อถามว่า มีรายงานแจ้งว่า มีการนำเงินบริจาคไปซื้อถุงยังชีพเพิ่มเติมข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ของบริจาคส่วนใหญ่จะเป็นอาหาร แต่ในส่วนของถุงยังชีพต้องการระดับแสน เรือระดับหมื่น ซึ่งต้องมีการจัดซื้อเพิ่ม เราพยายามที่จะใช้งบประมาณอย่าเต็มที่ คือในส่วนของเงินบริจาคและของบริจาคเราก็ใช้ แต่ส่วนไหนที่ขาดเหลือเราจะใช้งบประมาณฉุกเฉินจัดซื้อต่อไป
เมื่อถามว่าจะไม่มีน้ำเหนือไหลบ่าลงมาอีกใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า วันนี้จากการรับฟังการรายงานของกรมอุทกศาสตร์ที่บอกว่า ริมาณน้ำเหนือต่างๆ ที่เราเห็นจะเข้ามาเยอะคงไม่เป็นอย่างนั้น เพราะเราใช้วิธีการดูแลเรื่องของเขื่อนต่างๆ ในการควบคุมปริมาณน้ำให้ค่อยๆ ไหลมา และบางส่วนน้ำไหลกลับสู่คลอง มีการระบายลงคลองมากขึ้น แต่วันนี้ต้องรอน้ำทะเลลด ดังนั้นจะมาสู่ กทม.ไม่มาก แต่ไม่มาเลยคงเป็นไปไม่ได้ เพราะน้ำต้องกั้นอยู่ แต่ไม่ใช่มวลก้อนใหญ่อย่างที่ห่วงกัน
เมื่อถามว่า มีแต่ระดับน้ำจะไม่สูงถึงเมตร นายกฯ กล่าวว่า ใช่ และเราจะพยายามระบายเท่าทีกำลังความสามารถปลายทางของคลองลงสู่ทะเล พยายามไม่ให้ล้นหรือเจิ่งนอง แต่ในทางปฏิบัติต้องดูรายละเอียดต่อไปว่ามีจุดไหนบ้าง ซึ่งวันนี้เจอหลายจุดที่มีสวะขวางทางน้ำ ซึ่งต้องเอาออก
เมื่อถามว่า พูดได้หรือไม่กรุงเทพฯ ชั้นในอาจไม่เจอวิกฤตน้ำหากพ้นวันที่ 31 ต.ค.นี้ นายกฯ กล่าวว่า หากพนังกั้นน้ำต่างๆ ไม่แตกน่าจะไม่เจอ ดังนั้นวันนี้เราต้องปกป้องพนังกั้นน้ำทั้งหมดให้อยู่ได้ ดังนั้นจะเป็นแค่การล้นอย่างเดียวและล้นต้องดูว่าจะเลยไปที่ไหน แต่ล้นไม่ใช่ว่าจะจมน้ำทั้งพื้นที่ เชื่อว่าน่าจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์จะคลี่คลายได้เมื่อไรขอให้พ้นวันที่ 31 ต.ค.นี้ก่อนค่อยประเมินสถานการณ์อีกครั้ง