“ลาก่อน! น้ำท่วม น้ำแล้ง” สโลแกนสุดสวยหรูของพรรคเพื่อไทย ประกาศลั่นเอาไว้ช่วงหาเสียง แต่เมื่อมาบริหารประเทศไม่ทันไร ก็เจอน้ำท่วมสำลักน้ำกระเจิดกระเจิงไปตามๆ กัน
และยังไม่เห็นทีท่าว่าจะบริหารจัดการน้ำได้อย่างเป็นระบบ แค่ยกแรกก็เมาหมัดไปตามๆ กัน น่าสงสัยว่าจะทำได้อย่างปากว่าจริงหรือไม่?!?
มหาอุทกภัยวันนี้ ด้านหนึ่งก็น่าเห็นใจ ไม่ว่ารัฐบาลไหนรัฐบาลนั้นยากที่จะต้านทานได้ แต่อย่างน้อยๆ ภาพที่เห็นตรงหน้า ฝีมือการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ หลายคนยังรู้สึกว่าน่าจะทำได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ต้องมานั่งหดหู่อดสูใจ รอรับชะตากรรมกันตาปริบๆ แบบนี้
ยิ่งมวลน้ำขนาดใหญ่ทะลักล้นคืบคลานเข้าใกล้เมืองหลวงมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เห็นเพียงอาการลนลาน ตาลีตาเหลือก จนตั้งสติทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้ ยิ่งแก้เหมือนยิ่งผิด ยิ่งแก้ยิ่งหลงทาง
การแก้ไขปัญหาน้ำมันไม่ง่ายเหมือนทำธุรกิจที่มีดีมาน ซัพพลาย ที่ตัวเลขเชิงคณิตศาสตร์ที่ชัดเจน แต่ปัญหาน้ำมันมีอะไรมากกว่า อุดตรงนี้ โผล่ตรงนั้น กั้นทางนี้ไหลไปทางนั้น หากขาดความเชี่ยวชาญ ความเข้าใจ และประสบการณ์แล้ว ก็ยาก
ไอ้ที่นั่งในห้องแอร์วางแผนว่าจะกั้นน้ำ ถ่ายเทน้ำไปทางตะวันออก ตะวันตก แต่เอาเข้าจริงแล้วมันไม่ได้เป็นไปตามที่วางไว้ทั้งหมด มันยังมีปัจจัยอื่นๆ แทรกซ้อน เข้ามาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ยิ่งถ้าขาดการประสานงาน ขาดความร่วมมือจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งชาวบ้านประชาชนด้วยแล้ว สิ่งที่วางแผนไว้คงไม่มีทางสำเร็จ รัฐบาลต้องการเปิดประตูน้ำ แต่ข้าราชการสั่งให้ปิด รัฐบาลต้องการสร้างคันกั้นน้ำ แต่ประชาชนต้องการทำลาย มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
สาเหตุอันหนึ่งเพราะวันนี้ประชาชนไม่เชื่อมั่น ไม่ศรัทธาแนวทางของ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. อีกแล้ว บอกที่ไหนไม่ท่วม ก็ท่วมทั้งนั้น การแจ้งเตือนภัย การบอกเหตุการณ์ล่วงหน้า ก็สับสนอลหม่านสะเปะสะปะ ไม่มีความชัดเจน สุดท้ายเมื่อประชาชนไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ก็ต้องพึ่งตัวเอง
ชาวบ้านไม่รู้ชะตากรรมว่าจะเป็นอย่างไร จะต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ไม่เคยพบไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิตแบบไหน จึงมีแต่ความโกลาหล ตระหนกตกใจ สับสนว้าเหว่ไปหมด
สถานการณ์ที่พบที่เห็นรู้สึกได้ถึงภยันตราย เมื่อสิ้นหวังกับรัฐบาลแล้ว ก็ตัวใครตัวมัน ต่างคนต่างเอาตัดรอดไว้ก่อน
สินค้าอุปโภค บริโภคต่างๆ ถูกกวาดซื้อไปกักตุน จนขาดแคลน น้ำดื่มหาซื้อกันไม่ได้ เริ่มเกิดภาวะไร้ระเบียบมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้ามีปัญหาเรื่องไฟฟ้า น้ำประปาขาดแคลน แทรกเข้ามาอีก ไม่อยากจะนึกภาพ กรุงเทพมหานครคงดูไม่จืด
สภาพบ้านเมืองอาจเลวร้ายเกินกว่าจะจินตนาการ
โฟกัสไปที่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของรัฐบาล ยังดูเหมือนว่าจับไม่ถูกจุด ต้องคลำเป้าต่อไปเรื่อยๆ ที่บอกว่าจะผันน้ำให้ไหลไปตามถนนวิภาวดี สุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนแผน เพราะทำไม่ได้ ถ้าไหลไปตามทางนั้น มันไม่ใช่แค่ถนนหนทาง แต่ทางท่อระบายน้ำก็จะมุดไปโผล่อีกหลายจุด ธุรกิจละแวกนั้น ไล่ไปจนถึงในเมืองมีหวังพังพินาศกันอีกเป็นแถบ จึงต้องเปลี่ยนแผนให้ผันน้ำไปทางทิศตะวันออกและตะวันตกตามเดิม ทางด้านตะวันตกคงจะหนักหนาสาหัสเข้าไปอีก พี่น้องชาวบางบัวทอง ทางนครปฐม คงต้องรับน้ำกันอีกบานตะไท
การแก้ปัญหาอุทกภัยของรัฐบาลวันนี้นับเป็นการแก้ที่ปลายเหตุล้วนๆ ก่อนหน้านี้ก็มองเห็นเค้าลางของปัญหามาบ้างตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้ว แต่กลับเพิกเฉย ไม่สนใจ คิดวางแผนสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต วันนี้เมื่อน้ำจะท่วมหัวก็คิดอ่านอะไรไม่ออก
เหมือนคนสติแตก
ซ้ำร้ายรัฐบาลยังมีอีโก้ มีตัวตนสูงส่งยิ่งนัก ข้าเก่ง ข้าแน่ ใครเสนออะไรมาก็ไม่เอาด้วย! เสียอะไรเสียได้ แต่เรื่องเสียหน้าดูจะเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้เด็ดขาด ฉะนั้นจึงลุยถั่วแก้ปัญหาด้วยความเชื่อมั่นของตนเอง แต่สุดท้ายประชาชนเองที่ไม่เชื่อมั่น แล้ววันนี้ตัวเองก็เริ่มไม่เชื่อมั่นในตัวเองเสียแล้ว
ระยะหลังก็ต้องออกมารับความจริงขึ้นเรื่อยๆ “ยิ่งลักษณ์” สารภาพว่าน้ำจะท่วมกทม. เพราะไม่ต้านทานกระแสน้ำที่ถาโถมเข้ามาได้ หลายพื้นที่จะท่วมครึ่งเมตร และบางพื้นที่จะท่วมถึงเมตรกว่า พร้อมทั้งระดมสรรพกำลังเข้ามาสุมหัวเข้ามาช่วยแก้ปัญหาพัลวัน
แต่เมื่อดูปริมาตรมวลน้ำที่เอ่อนองอยู่ในประเทศไทยยามนี้ นับได้กว่าหมื่นล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะที่การระบายน้ำในแต่ละวันทำได้อย่างมากเพียง 100 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น บวกลบคูณหารอาการเซ็งแล้ว คงต้องใช้เวลานานเป็นเดือนๆ จบเห่! ชาวบ้านตาดำๆ ต้องนอนกลางน้ำกันสลอน ว้าเหว่ประเทศไทย
ทั้งหมดทั้งปวงต้องโทษการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ไม่ถูกต้อง ปล่อยให้ลุกลามเป็นปัญหาใหญ่ มาถึงวันนี้ก็แก้ไขไม่ได้ ได้แต่ยอมจำนน โยนให้ประชาชนรับชะตากรรม
สิ้นหวัง หมดกำลังใจกับรัฐบาล อุทกภัยครั้งนี้ถือว่าสอบตก เสียแต้ม เสียเครดิตไปโข ที่ร้ายกาจกว่านั้นยังมีเรื่องฉาวโฉ่ให้คนป้องปากนินทา ท่ามกลางภาวะวิกฤติยังมีข่าวว่าเครือข่ายคนเสื้อแดง ที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยได้ใช้อำนาจกักตุนสินค้าไว้ให้เฉพาะพรรคพวกคนเสื้อแดงกันเอง
ส่วนชาวบ้านที่รอความช่วยเหลือ เมินหน้าไม่สนใจว่าจะได้หรือไม่ได้ ขอให้คนของตัวเองก่อน
คนได้ยินได้ฟังก็อิดหนาระอาใจ ในสถานการณ์ที่ต้องการความช่วยเหลือ ความร่วมมือ กลับมีความชั่วร้ายแทรกซ้อนเข้ามา ถ้าเป็นเรื่องจริงก็นับว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าใจอย่างยิ่ง
น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้คงได้ชะล้างคราบที่เคลือบทาไว้ ประชาชนคงได้เห็นชัดๆ หลายคน หลายกรณี เห็นธาตุแท้ที่แอบแฝงอยู่ ถ้าเป็นไปได้อุทกภัยครั้งนี้ก็อยากให้ชะล้างสิ่งสกปรก พัดพาให้จมหายวายวอดไปในคราวเดียวกัน
และยังไม่เห็นทีท่าว่าจะบริหารจัดการน้ำได้อย่างเป็นระบบ แค่ยกแรกก็เมาหมัดไปตามๆ กัน น่าสงสัยว่าจะทำได้อย่างปากว่าจริงหรือไม่?!?
มหาอุทกภัยวันนี้ ด้านหนึ่งก็น่าเห็นใจ ไม่ว่ารัฐบาลไหนรัฐบาลนั้นยากที่จะต้านทานได้ แต่อย่างน้อยๆ ภาพที่เห็นตรงหน้า ฝีมือการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ หลายคนยังรู้สึกว่าน่าจะทำได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ต้องมานั่งหดหู่อดสูใจ รอรับชะตากรรมกันตาปริบๆ แบบนี้
ยิ่งมวลน้ำขนาดใหญ่ทะลักล้นคืบคลานเข้าใกล้เมืองหลวงมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เห็นเพียงอาการลนลาน ตาลีตาเหลือก จนตั้งสติทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้ ยิ่งแก้เหมือนยิ่งผิด ยิ่งแก้ยิ่งหลงทาง
การแก้ไขปัญหาน้ำมันไม่ง่ายเหมือนทำธุรกิจที่มีดีมาน ซัพพลาย ที่ตัวเลขเชิงคณิตศาสตร์ที่ชัดเจน แต่ปัญหาน้ำมันมีอะไรมากกว่า อุดตรงนี้ โผล่ตรงนั้น กั้นทางนี้ไหลไปทางนั้น หากขาดความเชี่ยวชาญ ความเข้าใจ และประสบการณ์แล้ว ก็ยาก
ไอ้ที่นั่งในห้องแอร์วางแผนว่าจะกั้นน้ำ ถ่ายเทน้ำไปทางตะวันออก ตะวันตก แต่เอาเข้าจริงแล้วมันไม่ได้เป็นไปตามที่วางไว้ทั้งหมด มันยังมีปัจจัยอื่นๆ แทรกซ้อน เข้ามาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ยิ่งถ้าขาดการประสานงาน ขาดความร่วมมือจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งชาวบ้านประชาชนด้วยแล้ว สิ่งที่วางแผนไว้คงไม่มีทางสำเร็จ รัฐบาลต้องการเปิดประตูน้ำ แต่ข้าราชการสั่งให้ปิด รัฐบาลต้องการสร้างคันกั้นน้ำ แต่ประชาชนต้องการทำลาย มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
สาเหตุอันหนึ่งเพราะวันนี้ประชาชนไม่เชื่อมั่น ไม่ศรัทธาแนวทางของ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. อีกแล้ว บอกที่ไหนไม่ท่วม ก็ท่วมทั้งนั้น การแจ้งเตือนภัย การบอกเหตุการณ์ล่วงหน้า ก็สับสนอลหม่านสะเปะสะปะ ไม่มีความชัดเจน สุดท้ายเมื่อประชาชนไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ก็ต้องพึ่งตัวเอง
ชาวบ้านไม่รู้ชะตากรรมว่าจะเป็นอย่างไร จะต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ไม่เคยพบไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิตแบบไหน จึงมีแต่ความโกลาหล ตระหนกตกใจ สับสนว้าเหว่ไปหมด
สถานการณ์ที่พบที่เห็นรู้สึกได้ถึงภยันตราย เมื่อสิ้นหวังกับรัฐบาลแล้ว ก็ตัวใครตัวมัน ต่างคนต่างเอาตัดรอดไว้ก่อน
สินค้าอุปโภค บริโภคต่างๆ ถูกกวาดซื้อไปกักตุน จนขาดแคลน น้ำดื่มหาซื้อกันไม่ได้ เริ่มเกิดภาวะไร้ระเบียบมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้ามีปัญหาเรื่องไฟฟ้า น้ำประปาขาดแคลน แทรกเข้ามาอีก ไม่อยากจะนึกภาพ กรุงเทพมหานครคงดูไม่จืด
สภาพบ้านเมืองอาจเลวร้ายเกินกว่าจะจินตนาการ
โฟกัสไปที่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของรัฐบาล ยังดูเหมือนว่าจับไม่ถูกจุด ต้องคลำเป้าต่อไปเรื่อยๆ ที่บอกว่าจะผันน้ำให้ไหลไปตามถนนวิภาวดี สุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนแผน เพราะทำไม่ได้ ถ้าไหลไปตามทางนั้น มันไม่ใช่แค่ถนนหนทาง แต่ทางท่อระบายน้ำก็จะมุดไปโผล่อีกหลายจุด ธุรกิจละแวกนั้น ไล่ไปจนถึงในเมืองมีหวังพังพินาศกันอีกเป็นแถบ จึงต้องเปลี่ยนแผนให้ผันน้ำไปทางทิศตะวันออกและตะวันตกตามเดิม ทางด้านตะวันตกคงจะหนักหนาสาหัสเข้าไปอีก พี่น้องชาวบางบัวทอง ทางนครปฐม คงต้องรับน้ำกันอีกบานตะไท
การแก้ปัญหาอุทกภัยของรัฐบาลวันนี้นับเป็นการแก้ที่ปลายเหตุล้วนๆ ก่อนหน้านี้ก็มองเห็นเค้าลางของปัญหามาบ้างตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้ว แต่กลับเพิกเฉย ไม่สนใจ คิดวางแผนสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต วันนี้เมื่อน้ำจะท่วมหัวก็คิดอ่านอะไรไม่ออก
เหมือนคนสติแตก
ซ้ำร้ายรัฐบาลยังมีอีโก้ มีตัวตนสูงส่งยิ่งนัก ข้าเก่ง ข้าแน่ ใครเสนออะไรมาก็ไม่เอาด้วย! เสียอะไรเสียได้ แต่เรื่องเสียหน้าดูจะเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้เด็ดขาด ฉะนั้นจึงลุยถั่วแก้ปัญหาด้วยความเชื่อมั่นของตนเอง แต่สุดท้ายประชาชนเองที่ไม่เชื่อมั่น แล้ววันนี้ตัวเองก็เริ่มไม่เชื่อมั่นในตัวเองเสียแล้ว
ระยะหลังก็ต้องออกมารับความจริงขึ้นเรื่อยๆ “ยิ่งลักษณ์” สารภาพว่าน้ำจะท่วมกทม. เพราะไม่ต้านทานกระแสน้ำที่ถาโถมเข้ามาได้ หลายพื้นที่จะท่วมครึ่งเมตร และบางพื้นที่จะท่วมถึงเมตรกว่า พร้อมทั้งระดมสรรพกำลังเข้ามาสุมหัวเข้ามาช่วยแก้ปัญหาพัลวัน
แต่เมื่อดูปริมาตรมวลน้ำที่เอ่อนองอยู่ในประเทศไทยยามนี้ นับได้กว่าหมื่นล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะที่การระบายน้ำในแต่ละวันทำได้อย่างมากเพียง 100 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น บวกลบคูณหารอาการเซ็งแล้ว คงต้องใช้เวลานานเป็นเดือนๆ จบเห่! ชาวบ้านตาดำๆ ต้องนอนกลางน้ำกันสลอน ว้าเหว่ประเทศไทย
ทั้งหมดทั้งปวงต้องโทษการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ไม่ถูกต้อง ปล่อยให้ลุกลามเป็นปัญหาใหญ่ มาถึงวันนี้ก็แก้ไขไม่ได้ ได้แต่ยอมจำนน โยนให้ประชาชนรับชะตากรรม
สิ้นหวัง หมดกำลังใจกับรัฐบาล อุทกภัยครั้งนี้ถือว่าสอบตก เสียแต้ม เสียเครดิตไปโข ที่ร้ายกาจกว่านั้นยังมีเรื่องฉาวโฉ่ให้คนป้องปากนินทา ท่ามกลางภาวะวิกฤติยังมีข่าวว่าเครือข่ายคนเสื้อแดง ที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยได้ใช้อำนาจกักตุนสินค้าไว้ให้เฉพาะพรรคพวกคนเสื้อแดงกันเอง
ส่วนชาวบ้านที่รอความช่วยเหลือ เมินหน้าไม่สนใจว่าจะได้หรือไม่ได้ ขอให้คนของตัวเองก่อน
คนได้ยินได้ฟังก็อิดหนาระอาใจ ในสถานการณ์ที่ต้องการความช่วยเหลือ ความร่วมมือ กลับมีความชั่วร้ายแทรกซ้อนเข้ามา ถ้าเป็นเรื่องจริงก็นับว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าใจอย่างยิ่ง
น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้คงได้ชะล้างคราบที่เคลือบทาไว้ ประชาชนคงได้เห็นชัดๆ หลายคน หลายกรณี เห็นธาตุแท้ที่แอบแฝงอยู่ ถ้าเป็นไปได้อุทกภัยครั้งนี้ก็อยากให้ชะล้างสิ่งสกปรก พัดพาให้จมหายวายวอดไปในคราวเดียวกัน