ระดับน้ำหน้าสนามบินดอนเมืองเพิ่มสูงเป็น 1.5 เมตร รถเมล์วิ่งไม่ไหวจอดส่งคนแยกหลักสี่ ปชช.บ่นอุบวินมอเตอร์ไซค์ขูด 200 บาทต่อคน พม.เร่งขนผู้อพยพไปเมืองชลฯ หลังมีผู้สมัครใจไปแล้ว 1,200 คน จากทั้งหมด 4 พันกว่าคน ส่วนการย้ายของไปสนามศุภฯ ยังอืด การเดินทางลำบาก ทำอาสาสมัครหาย
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.) แถลงการณ์
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำเหนือที่เข้ามาถึงพื้นที่ กทม.บริเวณ ถ.วิภาวดีรังสิต โดยระดับน้ำที่พื้นผิวจราจรด้านหน้าอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.) อยู่ที่ประมาณ 30 ซม. ขณะที่ช่องการจราจรฝั่งขาออกมุ่งหน้าสู่รังสิตนั้น ระดับน้ำสูงถึง 1-1.5 เมตร ส่งผลให้รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ และน้ำทะลักเข้ามาในพื้นที่สนามบินอีกด้วย
ขณะเดียวกัน รถโดยสารประจำทางที่มีปลายทางย่านรังสิต เช่น สาย 29 และ 510 ไม่สามารถส่งผู้โดยสารจนถึงปลายทางได้ เนื่องจากระดับน้ำบนถนนวิภาวดีรังสิต บางช่วงสูงเกินกว่า 1 เมตร โดยผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางเข้าไปในย่านดอนเมืองต้องลงที่บริเวณแยกหลักสี่ และอาศัยโบกรถขนาดใหญ่เข้าไปด้วยตัวเอง หรือว่าจ้างจักรยานยนต์รับจ้างที่ยังมีให้บริการอยู่บ้าง แต่มีการเรียกเก็บค่าโดยสารที่แพงผิดปกติ โดยผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างบริเวณดังกล่าวเรียกค่าโดยสารจากผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางจากด้านหน้าสนามบินดอนเมืองไปยังรังสิต คนละ 200 บาท สร้างความไม่พอใจให้ประชาชนจำนวนมากที่เห็นว่าถือโอกาสหากินในช่วงบ้านเมืองวิกฤต แต่เนื่องจากไม่มีทางเลือกจึงต้องจำยอม
สำหรับความเคลื่อนไหวบริเวณอาคาร 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งเปิดเป็นศูนย์พักพิงชั่คราวสำหรับผู้ประสบภัยนั้นได้มีการเคลื่อนย้ายประชาชนที่อาศัยอยู่เพื่อไปยังศูนย์พักพิงที่ จ.ชลบุรีอย่างต่อเนื่อง โดยนางรัชนี สุดจิตต์ รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ภายในอาคารผู้โดยสารมีผู้อพยพ 4,225 คน หลังจากที่ ศปภ.แจ้งเตือนให้มีการอพยพทาง พม.จึงได้ประกาศว่าได้มีการจัดเตรียมพื้นที่อพยพ ประกอบด้วยสถาบันการพลศึกษาแห่งชาติ จ.ชลบุรี ซึ่งเบื้องต้นมีประชาชนแสดงความจำนง 1,200 คนมาลงทะเบียนที่จะเดินทางไป จ.ชลบุรี ทั้งนี้ยังมีการสอบถามความสมัครใจในการเดินทางไปยังศูนย์พักพิงอื่น ได้แก่ แฟลตเคหะเศรษฐกิจ จ.สมุทรสาคร บ้านเอื้ออาทร อ.พระประโทน จ.นครปฐม และสนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน รวมไปถึงการกลับภูมิลำเนาในจังหวัดที่ไม่ประสบปัญหา ซึ่งคาดว่าในส่วนของ จ.ชลบุรี จะสามารถเคลื่อนย้ายให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 26 ต.ค.นี้ ขณะที่ จ.นครปฐม และสมุทรสาคร มีประชาชนมาลงทะเบียนที่จะเดินทางไปเพียงประมาณ 100 คนเท่านั้น
นางรัชนีกล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนที่ยังพักอยู่มี่อาคารผู้โดยสารนั้น ทาง พม.ก็ยังดูแลอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ พร้อมกับประกาศให้ประชาชนเลือกพื้นที่ที่จะเดินทางไป เพราะได้รับนโยบายจาก ศปภ.ว่าให้เคลื่อนย้ายผู้อพยพออกจาพื้นที่ให้หมด เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาน้ำท่วมเช่นเดียวกับที่ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต แต่ขณะนี้ประชาชนบางส่วนยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะไปยังจังหวัดใด จึงต้องให้เวลาตัดสินใจคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้คงจะตัดสินใจ และเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณชั้น 1 ของอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ซึ่งเป็นสถานที่บรรจุถุงยังชีพและศูนย์รับบริจาคได้มีการทยอยเคลื่อนย้ายของบริจาคไปยังสนามกีฬาแห่งชาติ ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าขาดแคลนอาสาสมัครทำให้การขนย้ายยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากการเดินทางเข้ามาค่อนข้างลำบาก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะพยายามเคลื่อนย้ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 26 ต.ค.นี้