“เพื่อไทย” ตั้งโต๊ะแถลงจวกผู้ว่าฯ กทม.ยับ-บอก ปชป.อย่าใช้ปากแก้ปัญหา

เพื่อไทย บอก ปชป.อย่าใช้ปากแก้ปัญหา แต่กลับตั้งโต๊ะแถลงข่าวด่าผู้ว่าฯ กทม.ยับ กล่าวหาเตือนภัยไม่ชัดเจน ทำประชาชนสับสน แถมปล่อยให้น้ำท่วมเขต ส.ส.เพื่อไทย แล้วโยนผิดให้รัฐบาล จวกไม่ยอมเปิดประตูรับน้ำ ทั้งที่น้ำในคลองแสนแสบแห้งขอดจนเดินเรือไม่ได้ เย้ยซ้ำ อิจฉา พท.ได้คนบ้านเลขที่ 111 มาช่วยงาน เรียกร้อง “มาร์ค” กลับจากพักผ่อนที่อังกฤษมาช่วยแก้ปัญหา

วันที่ 24 ต.ค.ที่พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ส.ส.กทม.เขตคลองสามวา พร้อมด้วย นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม.เขตบึงกุ่ม คันนายาว และ นายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ ส.ส.กทม.เขตหนองจอก และ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.เขตมีนบุรี ร่วมกันแถลงข่าว

นายจิรายุ กล่าวว่า วันนี้ ผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ต้องให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมครั้งนี้แบบเป็นวาระแห่งชาติ โดยหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะเดินทางไปพักผ่อนต่างประเทศที่ประเทศอังกฤษ แต่ก็ขอให้ท่านสั่งการมายังผู้ว่าฯ กทม.และลูกพรรคของท่านให้ระดมสมองช่วยประชาชนในภัยพิบัติระดับชาติ มากกว่าการใช้ปากพูดอย่างเดียว โดยขอให้ทำงานเป็นวาระแห่งชาติร่วมกับรัฐบาล เพราะ กทม.วันนี้ไม่ใช่แดนสนธยา ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะมาเล่นเกมการเมืองว่าพอน้ำแห้งน้ำไม่ท่วม กทม.ก็คุยเสียงดัง บอกว่า เป็นผลงานของ กทม.พอน้ำท่วม กทม.ก็โบ้ยเสียงดังให้รัฐบาล ถ้าเป็นอย่างนี้จะเกิดภาวะ “กรุงเทพโมเดล” อีกหน่อยเกิดน้ำท่วมในฐานเสียงของพรรคการเมืองใดที่เป็นรัฐบาลก็จะปกป้องกันเพียงจังหวัดนั้นๆ หากไม่มองว่าเป็นคนไทยเหมือนกันก็อาจจะเกิดปัญหาแบบวันนี้ก็เป็นได้

นายจิรายุ กล่าวว่า วันนี้ ตนในฐานะผู้แทน กทม.ฝั่งตะวันออกขอเรียกร้องไปยังผู้ว่าฯ กทม.ว่า ในกรณีที่ท่านจะประกาศเตือนภัย ท่านต้องทำอย่างมืออาชีพ เช่น การที่ท่านประกาศให้อพยพใน 7 เขต กทม.ฝั่งตะวันออก ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วประชาชนยังสงสัยทุกวัน ว่า ตกลงวันนี้เป็นอย่างไร ควรทำตัวอย่างไรในขณะนี้ และ 7 เขตฝั่งตะวันออกที่ว่านี้เป็นทุกตำบลเลยหรือไม่ให้อพยพขึ้นที่สูงนั้นสูงขนาดไหน วันนี้ข้อมูลของ กทม.ก็ประกาศแบบเหวี่ยงแหเอาแน่เอานอนไม่ได้ คิดแต่จะรักษาแต่ฐานเสียงของตัวเองหรือไม่ ส่วนเขตอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเองก็ทำแบบลวกๆ วันนี้ประชาชนบางเขตที่ไม่ได้อยู่ในแนว ก็ถูกประกาศเหมารวมจนปั่นป่วน จึงขอเรียกร้องให้ กทม.กรุณาลงรายละเอียดและปรับเปลี่ยนข้อมูลทุกวันได้หรือไม่ เพราะสถานการณ์แบบนี้ควรอัปเดตกันทุกวันไม่ใช่ประกาศไปแล้ว 7 วัน ไม่มีการยกเลิกหรือบอกอะไรเพิ่มเติม วันนี้ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ฝั่งตะวันออก เกือบทุกเขตต้องส่งคนไปเฝ้าระวังที่ทิศเหนือของเขตที่น้ำอาจจะลงมา และรายงานผ่านวิทยุสื่อสารเพื่อให้ทีมงานใช้รถแห่หรือใช้เสียงตามสายในชุมชน บอกกับประชาชนทุกวันเพื่อให้ได้รับข้อมูลโดยตรงจาก ส.ส.เพราะขืนรอ กทม.คงไม่ทันการ

นายจิรายุ กล่าวว่า ส่วนการบรรเทาทุกข์เบื้องต้นวันนี้ กทม.ต้องให้ความสำคัญด้วยการระดมเจ้าหน้าที่จากเขตอื่นๆ เข้ามาทำงานในพื้นที่เสี่ยงเพราะวันนี้มีเขตที่ไม่อยู่ในเขตน้ำท่วมกว่า 30 เขต อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือมีจำนวนมาก และการดูแลบรรเทาทุกข์ก็ขอให้เบาๆ การเมืองกันบ้างไม่ใช่อะไรที่เป็นเงินของ กทม.ก็ผ่านของบรรเทาทุกข์ไปยัง สก.สข.พวกของตนเอง ให้เอาไปหาเสียงจนน่าเกลียด บางเขตบางคนเป็น ส.ส.สอบตกยังไปขึ้นป้ายหาเสียงช่วงนี้เรื่องน้ำท่วมเสียอย่างนั้น วันนี้ไม่ใช่เทศกาลหาเสียงแต่เป็นภัยภิบัติของชาติที่ต้องทำงานร่วมกัน ในภาพรวมเพื่อผ่านมรสุมภัยภิบัติลูกนี้ให้ได้ วันนี้และทีม ส.ส.พรรคเพื่อไทยลงพื้นที่ทุกวันทั้ง การบรรเทาทุกข์ด้วยสิ่งของนอกเหนือจากของ กทม.ที่หาแทบไม่ได้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยในโซนตะวันออกก็ต้องประสานกับรัฐบาลเองทั้งเรือท้องแบน ทางเดินไม้ เครื่องสูบน้ำ ทราย แต่ก็ไม่สำคัญเท่ากับการทำภาพรวม เช่น ทำอย่างไรไม่ให้น้ำท่วมเขตที่ตัวเองเป็น ส.ส.อย่างเขตหนองจอก ก็ตั้งแนวกระสอบทรายกันน้ำให้ลงคลองกันเอง จากงบของ ส.ส.และเขตคลองสามวา ก็ร่วมกับ ส.ส.ลำลูกกา ปทุมธานี เฝ้าเตือนภัยระหว่างกัน เขตมีนบุรี ลาดกระบัง และคันนายาว บึงกุ่ม ก็เร่งผันน้ำด้วยเรือเดินเครื่องในคลองแสนแสบกว่าร้อยเที่ยว ซึ่งพวกเราช่วย ผู้ว่าฯ กทม.ทุกทาง ทั้งการเจรจากับ ส.ส.ต่างจังหวัด ที่เขตติดกันเพื่อผันน้ำบางจุดระหว่างที่ต่ำที่สูง และร่วมกันทำความเข้าใจกับประชาชนที่โดนน้ำท่วมระหว่างกัน ซึ่งก็ช่วย กทม.ได้เป็นอย่างดี

นายจิรายุ กล่าวว่า พรรคได้รับการร้องเรียนมาจากประชาชนในหลายพื้นที่ ว่า หากเขตไปมอบสิ่งของหรือไปทำสะพานให้ ไปสูบน้ำให้ ก็จะมีการโทรศัพท์ไปบอก ส.ข.ส.ก.พรรคการเมืองพวกตัวเอง ไปยืนโชว์หน้าว่าเป็นผลงาน ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นเงินภาษีคน กทม.ทุกคน และยังมีประชาชนร้องเรียนมาว่า บางเขตที่ไม่ใช่ฐานเสียงของ กทม.ก็ได้ยินถึงขนาดว่าคงต้องปล่อยให้ท่วมและโยนให้เป็นความผิดของรัฐบาล เมื่อถึงการเลือกผู้ว่าฯ กทม.ปีหน้าจะได้ไม่เหนือ ซึ่งวันนี้พรรคการเมืองต้องไม่เอาคน กทม.เป็นตัวประกัน

นายจิรายุ กล่าวว่า ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยใช้คนที่ติดบ้านเลขที่ 111 หรือ 109 มาทำงานนั้น ในส่วนตัวตนเห็นว่า เป็นเรื่องใจแคบสำหรับฝ่ายค้านที่จะวิจารณ์ เพราะวันนี้ประเทศต้องการคนที่มีความรู้ทุกทางมาช่วยกัน มันสมองเหล่านี้เคยผ่านประสบการณ์การแก้ไขปัญหาภัยพิบัติขนาดใหญ่มา แล้วฝ่ายค้านจะอิจฉาตาร้อนไปเพื่ออะไร ทั้งนี้ ควรจะส่งเสริมเสียด้วยซ้ำ เพราะวันนี้เป็นภารกิจของชาติที่ต้องใช้แรงขับเคลื่อนมากกว่าใช้ปากแก้น้ำท่วม วันนี้ขอให้พรรคประชาธิปัตย์หยุดเล่นการเมืองบนความทุกข์ของชาวบ้าน ด้วยการป้ายสีให้คนอื่นเสียหายโดยเฉพาะการเอา คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มาเป็นแพะรับบาป กรณีที่ กทม.ไม่ยอมช่วยระบายน้ำจากด้านเหนือผ่านคูคลองของ กทม.ที่มีจำนวนมาก ทั้งๆ ที่คุณหญิงไม่เคยไปกล่าวหาผู้ว่าฯ กทม.แม้แต่น้อย ที่พูดถึง กทม.ก็พูดเเต่เพียงในหลักการ ว่า กทม.ต้องยอมให้ระบายน้ำผ่าน กทม.ซึ่งไม่ใช่คุณหญิง สุดารัตน์ คนเดียวที่เห็นเช่นนี้ นายปราโมทย์ ไม้กลัด ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม.เองก็เห็นเช่นเดียวกันโดยเฉพาะอย่ายิ่งเมื่อวานตัวท่านผู้ว่าฯ เองก็ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าที่ผ่านมายังไม่ได้เปิดประตูน้ำให้น้ำระบายผ่าน กทม.ได้อย่างเต็มที่

นายจิรายุ กล่าวว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา กทม.ก็ไม่ยอมเปิดประตูให้น้ำระบายผ่าน กทม.จริงๆ ประชาชนก็รับรู้ เมื่อวาน นสพ.ก็ลงฟ้องด้วยภาพหน้า 1 ที่แสดงให้เห็นระดับน้ำในคลองแสนแสบ แห้งขอดถึงขนาดเรือไม่สามารถวิ่งได้มาเป็นสัปดาห์แล้ว ขณะที่ชาวบ้านในเขตคลองสามวา มีนบุรี หนองจอกลาดกระบังกลับถูกน้ำท่วมขังมานานนับเดือนแล้ว จากการปิดประตูระบายน้ำของ กทม.

“วันนี้ ผมขอเรียกร้องไปยังพรรคประชาธิปัตย์ และผู้ว่าฯ กทม.ดังนี้ 1.ขอให้ พรรค ปชป.หยุดเล่นเกมการเมือง แล้วรวมใจกันช่วยชาวบ้านจะดีกว่า อย่ากลัวกันจนเกินเหตุ ตัวคุณหญิงสุดารัตนก็ไม่เคยพูดว่าจะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.สักครั้ง คนพูดว่าคุณหญิงจะลงผู้ว่าฯก็มีแต่คนของพรรค ปชป.ทั้งนั้น 2.ขอให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปลอดการเมือง เลิกอิงแอบพรรคประชาธิปัตย์ชั่วคราวจนกว่าน้ำจะลด 3.ขอให้ผู้ว่าฯ กทม.สั่งการไปยัง ผอ.เขตที่อยู่ในแนวเสี่ยงให้ทำงานบูรณาการกับ ส.ส.พื้นที่ โดยไม่เกี่ยวว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด 4.ขอให้ ส.ส.กทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่อยู่ในแนวน้ำท่วมหยุดใช้ปากแก้ปัญหา และหันมาร่วมมือกับ ส.ส.ทุกพรรคการเมืองที่อยู่ในแนวน้ำท่วม 5.ขอให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางกลับจากการพักผ่อนในต่างประเทศ (ประเทศอังกฤษ) โดยเร็วเพื่อร่วมแก้ใขปัญหากับรัฐบาล” นายจิรายุ กล่าว

ด้าน นายพลภูมิ กล่าวว่า วันนี้ ตนในฐานะเคยเป็นผู้แทนท้องถิ่นใน กทม.มานาน เห็นได้ว่าวันนี้ กทม.ไม่จริงใจในการแก้ปัญหาร่วมกัน พยายามแยกตนเองออกเป็นเอกเทศ ทั้งๆ ที่คนที่อยู่ใน กทม.กว่าครึ่งเป็นคนที่มีญาติพี่น้องอยู่ในจังหวัดที่น้ำท่วม แต่วันนี้กลับพยายามสร้างป้อมปราการให้กรุงเทพฯ และพยายามโชว์ว่าเป็นผลงาน วันนี้ กทม.ต้องคิดใหม่ทำใหม่ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ใช้ความเชื่อ เช่น ทำพิธีไล่น้ำ หรือ รอเทวดา โปรดให้ฝนหยุดตก เพราะหากคิดแบบวิทยาศาสตร์ เช่น หากปล่อยน้ำให้ไหลผ่านคลองจำนวนมากใน กทม.บ้าง น้ำเหนือที่มามากปริมาณน้ำก็จะลดลง ไม่ใช่ปล่อยจนคลองใน กทม.แห้งขอด จนเรือโดยสารในคลองแสนแสบวิ่งไม่ได้ เพราะความกลัวเสียคะแนนแบบไม่มีหลักการ เช่น ท่านพยากรณ์ว่าฝนจะตกหนักในสัปดาห์ที่แล้วจึงต้องปิดทดน้ำให้น้ำใน กทม.แห้งเพื่อรับน้ำฝน สุดท้ายตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกแค่วันเดียวไม่กี่ชั่วโมง หาก กทม.บริหารอย่างมืออาชีพก็จะสามารถเป็นฮีโร่ให้คนทั่งชาติได้ เพราะเพียงแค่ท่านปล่อยน้ำผ่าน กทม.ในระดับที่เหมาะสม และเร่งสูบน้ำออกไปยังทะเลตั้งแต่ 2 สัปดาห์ก่อนวันนี้ น้ำที่มาทางเหนือก็จะเบาบางและก็จะไม่เกิดปัญหาเหมือนวันนี้

นายพลภูมิ กล่าวอีกว่า วันนี้ หากตรวจสอบอุปกรณ์ของ กทม.หลายอย่าง ที่ผู้ว่าฯ สามารถนำมาจัดการกับน้ำตั้งแต่ 2 สัปดาห์ก่อนป่านนี้ก็คงไม่มีปัญหามากนักเพราะดู จากข้อมูลแล้ววันนี้ กทม.สามารถระดมรถดับเพลิง รถสูบน้ำทั้งใหม่ และเก่าที่สั่งซื้อมา ยังไม่นับรวมรถดับเพลิงฉาว หากนำมาช่วยกันเร่งสูงออกจาก กทม.ลงทะเล จะสูบได้ถึงชั่วโมงละ 40 ล้าน ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หากคิด 7 วัน เป็น 168 ชั่วโมง เดินเครื่องเต็มที่วันนี้น่าจะสูบน้ำออกทะเลไปแล้วถึงกว่า 7,000 ล้าน ลบ.ม.แล้ว