“พล.อ.ประยุทธ์” ชี้คันกั้นน้ำป้องกันน้ำเข้า กทม.ไม่ได้ แต่ช่วยชะลอน้ำเพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชน วอนพื้นที่เสี่ยงเร่งอพยพออกจากบ้าน ย้ำกองทัพมีขีดจำกัดช่วยเหลือทุกพื้นที่ไม่ไหว พร้อมแนะหยุดสร้างปัญหา อย่ามัวทะเลาะ โทษหาคนผิด ลั่นต้องร่วมกันฝ่าฟันวิกฤตไปด้วยกัน ย้ำวางแผนป้อง “สวนจิตรลดา” สถานที่ราชการเต็มที่ แต่ต้องรักษาพื้นที่วงกว้างด้วย
วันนี้ (21 ต.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานวางพวงมาลาพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ครบรอบ 101 ปี ถึงการรับมือสถานการณ์น้ำท่วมว่า เนื่องจากปริมาณน้ำที่มีมากในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ปทุมธานี ที่สะสมมาจากพื้นที่ตอนเหนือ ซึ่งด้วยน้ำหนักของน้ำพยายามทะลุแนวกั้นเข้ามาในพื้นที่ กทม. ก็เป็นไปตามการคาดการณ์ เพราะคันกั้นน้ำเป็นเครื่องมือที่ไม่ถาวร ทั้งนี้ รัฐบาล กองทัพ และทุกหน่วยงานพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสกัดกั้นน้ำจำนวนดังกล่าว และระบายออกในพื้นที่ด้านตะวันตก และตะวันออกให้ได้ แต่บางส่วนคงจะต้องระบายจากคลองต่างๆ ที่จะต้องผ่าน กทม.ลงไปสู่ทะเลให้ได้โดยเร็ว ฉะนั้น น้ำจะเดินทางไปใน 3 ทาง คือ ทางด้านตะวันตก แม่น้ำเจ้าพระยา ด้านตะวันออก และพื้นที่ตรงกลางที่จะพยายามระบายน้ำออกไปทางด้านรังสิต เพื่ออ้อมผ่านศูนย์กลางของ กทม. อย่างไรก็ตาม คันกั้นน้ำไม่สามารถป้องกันไม่ให้น้ำเข้า กทม.ได้ เพียงแต่ชะลอการไหลน้ำของน้ำให้ท่วมโดยเร็วเพื่อให้มีเวลาช่วยเหลือดูแลประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนนิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งทางกองทัพดูแลเท่าเทียมกันหมด และได้ให้นโยบายถ้าน้ำทรงตัวให้ทำพนังกั้นน้ำ และสูบน้ำออก โดยจะร่วมกับส่วนราชการ พร้อมทั้งให้การสนับสนุนในทุกๆ เรื่อง ทั้งนี้การช่วยเหลืออพยพประชาชนไม่ว่าจะเป็นสถานที่พักพิงอาหาร ยารักษาโรค ก็ดูแลร่วมกับส่วนราชการ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล โดย 5 จังหวัดที่เราบูรณาการ และอีก 22 จังหวัดก็เข้าไปดูแลอยู่ในปัจจุบัน โดยให้หน่วยในการกองทัพเข้าไปดูแล และสิ่งที่จะต้องดำเนินการต่อไป เนื่องจากปริมาณน้ำที่ไหลเข้ามาในพื้นที่ กทม. ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของหน่วยทหารหลายหน่วย เราได้มีการเตรียมแผนในการรองรับ เพราะจะต้องดูแลกำลังพลของเราเองด้วย และตอนนี้ได้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ กองพันที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งตนได้ให้ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ไปเยี่ยมกำลังพล โดยมีน้ำท่วมประมาณ 1 เมตรกว่า ขณะที่กำลังพลออกไปช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งไม่เป็นไร และได้แจ้งไปแล้วว่าทหารทุกคนจะต้องเสียสละ และดูแลตัวเองให้เรียบร้อย และให้พร้อมในการเข้าไปช่วยเหลือประชาชน ในส่วนของกองทัพก็จะดูแลกันเอง จะไม่ให้เป็นภาระ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ปริมาณน้ำที่เข้ามาใน กทม.จำนวนมาก ได้ประสานงานกับทาง กทม. มาโดยตลอด โดยเฉพาะในพื้นที่ 7 เขต ที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงพื้นที่อื่นๆ เราได้มีการวางกำลังที่จะเข้าไปดูแล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทัพภาคที่ 1 หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก (นปอ.) ซึ่งจะมีปัญหาในเรื่องของกำลังพลที่ไปติดอยู่ในพื้นที่บางพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ปริมณฑล พื้นที่รอบนอก นิคมอุตสาหกรรม โดยกำลังของเราค่อนข้างน้อย และได้สั่งการขออนุมัติไปยังกระทรวงกลาโหม เพื่อนำกำลังจากกองทัพภาคที่ 2 ประมาณ 2,000 นาย และอีกกว่า 1,000 นายมาจากศูนย์การทหารราบ ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้จะมาช่วยกองทัพภาคที่ 1 และ นปอ. รวมถึงเครื่องมือที่มีอยู่ ขณะนี้ได้เข้าไปในพื้นที่แล้ว โดยมีกำลังทหารที่ช่วยเหลือประชาชนประมาณ 40,000 คนแล้ว
“ขอร้องประชาชนว่า ถ้าน้ำท่วมมากก็ให้ออกมา ถ้าไม่ออกมา ทหารก็คงไปช่วยเหลือไม่ไหว เพราะมีเรื่องจำกัดของคน รถ และเรือ จะให้ไปกระจายแจกของในบ้านทุกหลังคงเป็นไปไม่ได้ ขอให้ทุกคนเข้มแข็ง และฟันฝ่าอุปสรรคครั้งนี้ไปให้ได้และหลังน้ำลดก็จะมีปัญหาตามมาอีกมาก ดังนั้น ช่วงนี้อะไรที่เป็นปัญหาก็ลดๆ กันบ้าง อย่าไปทะเลาะเบาะแว้ง ซึ่งมีบางแห่งที่ยังไม่เข้าใจ และขัดขวางไม่ให้มีการสร้างพนังกั้นน้ำ การให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนเป็นล้านคน คงจะไม่เพียงพอ หน่วยงานทั้งหมดก็มีเท่าที่เห็นและเราก็ไม่เคยเจอปริมาณน้ำมากมายขนาดนี้ ดังนั้นก็ให้ช่วยกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
เมื่อถามว่า กองทัพมีมาตรการป้องกันน้ำที่บริเวณสวนจิตรลดาอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เราพยายามสร้างแนวกั้นน้ำที่คลองประปาและคลองเปรมประชากรให้ได้มากที่สุด เพราะน้ำสามารถเข้ามาทางส่วนนี้ได้ รวมทั้งได้พยายามเบี่ยงน้ำออกไปข้างนอก ซึ่ง กทม.กำลังวางแผนอยู่ และกองทัพก็พยายามปกป้องให้มากที่สุด ถ้าไม่ได้ก็คือไม่ได้ แต่ต้องเตรียมแผนที่ 1และที่ 2 ตามลำดับ ขอว่าทุกคนอย่าตื่นตระหนก ให้เตรียมความพร้อมของตัวเองไว้และเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ ขอร้องอย่าโทษกันไปมาและโยนความรับผิดชอบให้ใครคนใดคนหนึ่ง เพราะทำไม่ได้ ทหารก็ทำคนเดียวไม่ได้ กทม.จะรับผิดชอบในภาพรวม ทหารจะเข้าไปสนับสนุน ซึ่งพร้อมทำเต็มที่และถ้าพื้นที่ไหนน้ำท่วมก็จะโยกกำลังมาอีกพื้นที่หนึ่ง เพื่อไม่ให้น้ำท่วมพื้นที่นี้ ทหารโยกไปโยกมาไม่รู้กี่จุดแล้ว เราเตรียมแผนมาก่อนหน้านี้ แต่ยังยุ่งอยู่
“ไม่ใช่ป้องกันสวนจิตลดาอย่างเดียว แต่ต้องป้องกันทุกที่ คนกรุงเทพฯก็คือกรุงเทพฯ ไม่ใช่ป้องกันตรงนั้น ตรงนี้เป็นพิเศษ มันไม่ได้ เพราะป้องกันตรงนี้ ตรงอื่นก็ท่วม และจะท่วมกันหมด จึงต้องกันในพื้นที่กว้าง สวนจิตรลดาเป็นสถานที่สำคัญที่จะต้องดูแล แต่ขณะเดียวกันก็ต้องป้องกันในพื้นวงกว้าง จะทำอย่างไรให้พื้นที่วงกว้างไม่ท่วม พื้นที่ตรงกลางมีทั้ง วังสวนจิตลดา กองบัญชาการกองทัพบก ทำเนียบ รัฐสภา ส่วนราชการมีมากเราต้องป้องกันให้มากที่สุด ต้องกั้นทั้งวงในและวงนอก เราให้ความสำคัญในทุกๆ ส่วนเท่ากัน เพราะเป็นพื้นที่สำคัญของ กทม.” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว