นายกฯ ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ ก่อนขึ้น ฮ.บินตรวจน้ำท่วมร่วมกับ “พล.อ.ประยุทธ์” เตือนคนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกเตรียมรับน้ำ แต่เชื่อสถานการณ์ไม่รุนแรง เร่งทำแนวกั้นน้ำ 3 จุด กทม.แล้วเสร็จ 2-3 วันนี้ ยันรัฐบาลประกาศพื้นที่เสี่ยงตลอด แต่ยากกำหนดลงไปให้ชัดเป็นพื้นที่เสี่ยง ย้ำคาดยากพายุลูกใหม่น้ำเท่าไหร่ เลี่ยงพูดผลักดันน้ำลงสุพรรณฯ
วันนี้ (13 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.45 น. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางขึ้นเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก เพื่อตรวจเขื่อนเจ้าพระยา ประตูระบายน้ำพลเทพ จ.ชัยนาท จ.สมุทรสาคร บริเวณสนามกอล์ฟเบสโอเชี่ยน อ.เมือง บริเวณประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำมหาชัย ทั้งนี้ได้เดินทางพร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ผู้บัญชาการทหารบก นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์
น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางถึงสถานการณ์น้ำล่าสุดที่ จ.ปทุมธานี หลังจากที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ถอดใจเนื่องจากมาสามารถต้านกระแสน้ำได้ว่า วันนี้จะพยายามทำอย่างดีที่สุด เมื่อคืนวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ได้สั่งการให้กั้นน้ำในบางส่วนไปเยอะแล้ว เพราะหากวันนี้ไม่มีการกั้นน้ำเลยจะทำให้น้ำเข้ามาแรง ถึงอย่างไรก็ต้องกั้นเอาไว้ เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่จะชะลอน้ำ เราต้องเร่งทำอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็เร่งทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ทางกรุงเทพมหานครต้องมีการเตรียมความพร้อมอย่างไรหรือไม่ หลัง จ.ปทุมธานี ไม่สามารถรับมือกับน้ำที่เข้ามาได้ นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของกรุงเทพฯ มีการทำแผนส่วนหนึ่ง กั้นในส่วนของแนวกั้นน้ำ กรุงเทพฯ กับปทุมธานี และนอกจากนั้นได้มีการขุดคลอง ซึ่งมีความคืบหน้าเป็นไปตามแผน เพราะเชื่อว่าเมื่อมีการขุดคลองแล้วเสร็จ น้ำจะสามารถระบายน้ำได้บางส่วน ถือเป็นอีกส่วนหนึ่งในการลดระดับน้ำที่จะเข้ามาในกรุงเทพฯ และเบื้องต้นเชื่อว่าน้ำในกรุงเทพฯ จะไม่สูงมากนัก จึงอยากให้ประชาชนที่อยู่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ เตรียมตัว ส่วนปริมาณน้ำจะสูงเท่าไหร่นั้น เท่าที่ฟังกับกรมชลประทานรายงาน จะสูงอยู่ในระดับ 20-30 ซม. และในส่วนของแนวกั้นน้ำ 3 จุดของ กรุงเทพฯ อยู่ในการดำเนินการ และจะเร่งให้เสร็จภาย 2-3 วันนี้ แต่ยอมรับว่าบางส่วนเป็นไปได้ค่อนข้างยาก แต่เจ้าหน้าที่กำลังใจดี ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่เพราะถือเป็นภารกิจที่สำคัญ
ต่อข้อถามว่า ในส่วนของกรุงเทพฯจะขอกำลังเสริมจากส่วนอื่นเข้ามาช่วยเหลือหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า วันนี้การทำงานในส่วนของกรุงเทพฯ ได้มีการประสานกับทางกรุงเทพฯ ยังอยู่ในวิสัยที่ช่วยตัวเองได้ และเราเองก็ยินดีที่จะสนับสนุนในทุกเรื่องอยู่แล้ว และมีการพูดคุยกับทางผู้ว่าฯ กทม.อยู่ตลอด ซึ่งทางผู้ว่าฯ กทม.ไม่ได้ร้องขออะไรเพิ่มเติม เราเองมีเครื่องมือในการติดตั้งเครื่องระบายน้ำอยู่แล้ว ส่วนที่มีการออกมาบอกว่าถึงเวลาที่รัฐบาลต้องพูดให้ชัดเจนแล้วว่ามีพื้นที่ใดเป็นพื้นที่เสี่ยงบ้างนั้น รัฐบาลได้มีการประกาศพื้นที่เสี่ยงภัยอยู่แล้ว และจะมีการติดตาม แต่ต้องขอเรียนว่าบางครั้งพายุลูกใหม่ที่เข้ามายังไม่ได้รับการประมาณการที่ชัดเจน ส่วนไหนที่มีข้อมูลเรามีการแจ้งอยู่แล้ว โดยในวันนี้ตนและคณะจะเดินทางไปดูประตูระบายน้ำพลเทพ จ.ชัยนาท ที่จะระบายออกทางแม่น้ำท่าจีน ซึ่งจะมีปัจจัยหลายส่วนในการระบายน้ำฝั่งตะวันตกที่ยังทำไม่ได้เต็มที่ ซึ่งเนื่องจากสภาพถูมิประเทศด้วย ที่อาจจะความสูงอยู่บางส่วน ทำให้การระบายน้ำทำไปได้ยากโดยต้องใช้วิธีกากรขุดลอกคลอง และเร่งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ เพื่อเป็นการเสริมเช่นเดียวกับที่เราทำในฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะผลักดันน้ำลงสุพรรณบุรี นายกฯ กล่าวว่า ไม่พูดว่าไปอยู่ตรงไหน แต่พูดว่าไปอยู่ตามแนวคลองมากกว่า ว่ามีคลองไหนหรือเส้นทางไหนทำให้น้ำระบายได้อย่างเต็มที่เราจะทำวิธีนั้น เราไม่มีการเลือกปฏิบัติอยู่แล้ว และเราเองจะคำนึงเส้นทางลัดที่จะให้น้ำลงสู่ทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพและเร็วที่สุด นั่นคือวิธีการที่เราจะพิจารณาร่วมกัน