xs
xsm
sm
md
lg

“ประชา” การันตี กทม.ไม่จมบาดาล ชี้ ไม่ถึงขั้นสึนามิน้ำจืด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี และผอ.ศูนย์ ศปภ.เดินทางโดย ฮ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจพื้นที่น้ำท่วมบริเวณตั้งแต่นิคมบางกะดีไปจนถึงอยุธยาพร้อมกับลงตรวจพื้นที่อยุธยา ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสพอุทกภัย ดอนเมือง
“ผอ.ศปภ.” ย้ำชัด กทม.ไม่จมบาดาลชัวร์ มั่นใจ 90% ปลอดภัย ปฏิเสธไม่ถึงขั้นสึนามิน้ำจืด เผย เร่งระบายน้ำลงคลอง 3 หลัก “พระโขนง-ประเวศ-แสนแสบ” พร้อมปรับปรุงการให้ข่าว ศปภ.สั่งปิดปากคนไม่เกี่ยวข้องห้ามให้ข่าว ส่งกำลังตำรวจ 1 กองร้อยเฝ้าประตูระบายน้ำจุดสำคัญ หวั่นเกิดปัญหา


วันนี้ (20 ต.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) พร้อมด้วย นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผอ.ศูนย์พักพิงชั่วคราวดอนเมือง และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงชั่วคราวที่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ที่สามารถรองรับประชาชนได้ราว 1,300 คน

จากนั้น พล.ต.อ.ประชา ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำ ว่า ยืนยันว่า กทม.ชั้นในไม่น่าเป็นห่วง จึงขอให้ประชาชนนำรถยนต์ออกจากถนนจะดีกว่าเพื่อความสะดวก ขณะที่แนวคิดของทีมงานบ้านเลขที่ 111+109 ที่ให้ระบายน้ำผ่าน กทม.ในเวลานี้นั้น ยังไม่จำเป็น เพราะ กทม.เริ่มระบายน้ำผ่านคลองหลัก 3 คลอง ได้แก่ พระโขนง ประเวศ และ แสนแสบ โดยจะระบายเป็นจังหวะ โดยใช้วิธีเปิดปิดประตูน้ำ ตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา

“ขณะนี้มั่นใจว่า กทม.จะปลอดภัยจากน้ำท่วม 90% แต่ยังมีส่วนที่ต้องเฝ้าระวังเผื่อเหลือเผื่อขาดอีกประมาณ 10% เพราะเท่าที่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจดูสถานการณ์ในช่วงเช้าวันที่ 20 ต.ค.ระดับน้ำรอบ กทม.ยังทรงตัว ทั้งนี้ ผมขอปฏิเสธว่า น้ำท่วมครั้งนี้ไม่เหมือนสึนามิน้ำจืด แต่ยอมรับว่า กังวลเรื่องการระบายมวลน้ำที่มีมหาศาลลงทะเล ว่า จะใช้วิธีการอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมา กทม.ให้ความร่วมมือกับ ศปภ.เป็นอย่างดี เวลานี้จึงอยู่ระหว่างทำคันกั้นน้ำใหม่ที่มีระยะทางยาว 26 กิโลเมตร นอกจากนี้ อีกหน่วยงานที่ต้องชื่นชมคือ กองทัพที่มีความชำนาญในการแก้ปัญหาน้ำท่วม และเข้ามาช่วยงานรัฐบาลในครั้งนี้ได้มาก” พล.ต.อ.ประชา กล่าว

ผู้อำนวยการ ศปภ.ยังปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ผู้นำเหล่าทัพเสนอให้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินระหว่างการประชุม ศปภ.ว่า ในคืนวันที่ 19 ต.ค.นั้น ผู้นำเหล่าทำเพียงขอให้รัฐบาลมีความชัดเจนว่าจะให้ไปช่วยกั้นน้ำที่ใดบ้าง เพราะสถานการณ์ขณะนี้ทุกคนรู้ดีว่ากำลังสู้กับอะไรอยู่ หากไม่รับมือกันก็จะแพ้ และประเทศจะเสียหาย ส่วนกรณีที่คนจำนวนไม่น้อยไม่เชื่อการแถลงข่าวของโฆษก ศปภ.ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ หรือ นายวิม รุ่งวัฒนจินดา ตนได้เปลี่ยนวิธีการให้ข่าวจาก ศปภ.โดยให้ใช้การอ่านแถลงการณ์แทน ยืนยันว่า ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวโฆษก ศปภ.แต่ได้เตือนไปว่าคนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่าให้ข่าว

ผู้อำนวยการ ศปภ.เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ได้วางแผนเตรียมรองรับหากเกิดเหตุฉุกเฉินเอาไว้แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเกรงว่าจะเกิดกลียุค ต้องรอจังหวะที่เหมาะสมก่อน กรณีที่ประชาชนบางพื้นที่ไม่ยอมให้เปิดประตูระบายน้ำนั้น เวลานี้ได้ทำความเข้าใจกับประชาชนเหล่านั้นเรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้ศปภ.ได้ส่งกำลังตำรวจภูธร ภาค 1 และ 2 เข้าไปทำหน้าที่ใหม่ คือเฝ้าประตูระบายน้ำและปั๊มน้ำแห่งละ 5 คน แต่ถ้าเป็นที่สำคัญอย่างประตูระบายน้ำองครักษ์ จ.นครนายก จะใช้กำลัง 1 กองร้อย เบื้องต้นกำลังที่ใช้ในการแก้ปัญหาน้ำท่วมเวลานี้ เป็นทหาร 5 หมื่นนาย ตำรวจ 3 หมื่นนาย หากแบ่งระดับความรุนแรงเป็น 4 ระดับ เวลานี้หลายพื้นที่ในกทม.ยังอยู่แค่ขั้นที่ 2 คือ ขั้นตอนการเฝ้าระวังเท่านั้น







กำลังโหลดความคิดเห็น