เลขาฯ ยูเอ็นนัดโทรศัพท์คุย “ยิ่งลักษณ์” หารือช่วยเหลือไทยน้ำท่วมใหญ่ พร้อมสั่งซื้อเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จากจีนมาช่วยระบายน้ำ ขณะที่ รมว.ศึกษาฯ ขอ “เกษตรศาสตร์-ศรีปทุม” เปิดมหาวิทยาลัยเป็นศูนย์พักพิงเพิ่มเติม หลัง “ธรรมศาสตร์ รังสิต” เต็ม รมว.วัฒนธรรม เผย “สมเด็จพระเทพฯ” ทรงห่วงน้ำท่วมโบราณสถาน สั่งกรมศิลป์ประเมินความเสียหาย
เช้าวันนี้ (18 ต.ค.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวก่อนการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความช่วยเหลือจากต่างชาติต่อสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทย ว่าขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้ตนประสานงานกับประเทศจีนขอซื้อเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพื่อนำมาระบายน้ำในพื้นที่ที่น้ำท่วมขัง โดยใช้งบประมาณของกระทรวงมหาดไทย ส่วนจะนำไปใช้จุดใดนั้น ทางศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) จะพิจารณา เบื้องต้นนั้นตนเตรียมประสานให้ประเทศจีนส่งเครื่องสูบน้ำมาพร้อมกับการส่งสิ่งของมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมของไทย ซึ่งประเทศจีนจะลำเลียงผ่านเครื่องบินเข้ามาในวันที่ 19 ต.ค.นี้
นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า สำหรับการเดินทางไปเยือนประเทศจีนในช่วงวันที่ 19-21 ต.ค.ของนายกฯ ได้เลื่อนออกไปก่อนจนกว่าสถานการณ์วิกฤตน้ำท่วมในประเทศจะคลี่คลาย แต่สำหรับการประชุมเอเปกและอาเซียนซัมมิตที่จะมีขึ้นในเดือนหน้าคาดว่าจะสามารถเข้าร่วมได้
นอกจากนั้นแล้ว ในวันนี้ (18 ต.ค.) เวลา 14.15 น. นายบันคีมูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เตรียมที่จะโทรศัพท์พูดคุยกับนายกฯ เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นการให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับภัยน้ำท่วมในประเทศ
นายสุรพงษ์กล่าวถึงมาตราการเยียวยาหลังจากที่สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายว่า ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ ได้รับการแจ้งจากนายกฯ ให้เป็นผู้ประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม เกี่ยวกับการจัดซื้ออุปกรณ์ หรือการซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องจักรจากต่างประเทศให้แก่โรงงานที่ได้รับความเสียหาย
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยว่า ในฐานะที่ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกภาคส่วนได้เข้าช่วยเหลือดูแลผู้ประสบอุทกภัย ในด้านความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัย และอำนวยความสะดวก โดยได้วางแผนระยะสั้น ระยะยาวไว้รองรับหลังจากน้ำลดไว้แล้ว ในกรณีที่เกิดเหตุอาชญากรรม ประทุษร้ายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รักษาการ ผบ.ตร.วางมาตรการเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขอให้ประชาชนสบายใจได้ เพราะผู้ที่เกี่ยวข้องกำลังแก้ไขปัญหาอยู่ อย่างไรก็ตาม สำหรับจังหวัดที่น้ำท่วมแล้ว แต่กำลังเจ้าหน้าที่ไม่พอ อาจจะขอกำลังพลจากจังหวัดใกล้เคียงที่ไม่ได้รับผลกระทบมาช่วยเหลือ ซึ่งขอยืนยันว่ากำลังพลของเจ้าหน้าที่ยังเพียงพอต่อการปฏิบัติงาน ขณะที่หากจังหวัดใดมีความจำเป็นต้องเสริมกำลังก็ได้จับตาอย่างใกล้ชิด เช่น จ.พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี และนนทบุรี เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีการเปรียบเทียบผลงานกันระหว่างทหารกับตำรวจ ซึ่งดูเหมือนตำรวจจะโดนวิจารณ์มาก ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า แน่นอน เพราะกองทัพมีเครื่องมืออุปกรณ์ แต่สำหรับตำรวจแล้วภารกิจคือการสอบสวนสืบสวน งานบริการประชาชน และงานปราบปราม พื้นฐานของอาชีพไม่มีศักยภาพพอเท่าทหาร ซึ่งชัดเจนเพราะกองทัพมีกำลังพล มีผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา ตำรวจไม่มีเราก็ยอมรับ
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญากุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการประสานไปยังมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน และมหาวิทยาลัยศรีปทุม ให้เปิดสถานที่เป็นศูนย์อพยพให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม หลังจากที่ขณะนี้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (รังสิต) มีผู้อพยพเข้าไปเต็มความจุ 3,500 คนแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 มหาวิทยาลัยเป็นส่วนที่เพิ่มเติมจาก 104 ศูนย์ของสถาบันการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการประกาศให้เป็นศูนย์อพยพในพื้นที่ 13 จังหวัดที่ประสบภัยพิบัติ ส่วนกรณีที่สถานการศึกษาจะเปิดเทอมวันที่ 1 พ.ย.นี้นั้น ได้สั่งให้มีการพิจารณาเลื่อนวันเปิดเทอมออกไปเป็นวันที่ 19 พ.ย. หรือ 20 พ.ย. ในบางพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม และนักเรียนไม่สามารถเดินทางมาเรียนได้ตามปกติ
นายวรวัจน์กล่าวว่า ขณะนี้มีสถาบันการศึกษาจำนวน 2,369 แห่งที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณจำนวน 1.4 พันล้านบาทเพื่อฟื้นฟู
นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่มีผลกระทบกับโบราณสถานโดยเฉพาะที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่าขณะนี้น้ำได้เข้าท่วมในพื้นที่โบราณสถานต่างๆ แล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหลังจากน้ำลดจะมีการประเมินความเสียหายอีกครั้ง ในหลายแห่งได้มีน้ำท่วมขัง ซึ่งได้มีการนำอีเอ็มบอลหรือก้อนจุลินทรีย์ไปลงในพื้นที่เพื่อป้องกันการเน่าเหม็นแล้ว
ส่วนภาพรวมความเสียหายคงยังไม่สามารถประเมินได้ เชื่อว่าหากน้ำมีปริมาณลดลงกว่านี้จะสามารถเข้าไปในพื้นที่เพื่อสร้างคันกันน้ำ และทำการสูบน้ำออกจากพื้นที่ที่เป็นโบราณสถานได้
อย่างไรก็ตาม อาจจะไม่สามารถสูบน้ำออกได้ทั้งหมด ยังคงต้องเลี้ยงน้ำไว้บางส่วน เพื่อป้องกันการเสียหายมากขึ้น ทั้งนี้เบื้องต้นได้มีการประสานจากภาคเอกชนในการเข้าร่วมฟื้นฟูโบราณสถานต่างๆ แล้ว ซึ่งทางกระทรวงวัฒนธรรมเตรียมที่จะทำเรื่องถึงกระทรวงการคลังเพื่อออกมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับเอกชนที่ให้ความร่วมมือ ก่อนที่จะให้นายกรัฐมนตรีและที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติเป็นมติอีกครั้ง แต่คงไม่ใช่ในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งนี้
“สมเด็จพระเทพฯ ได้ทรงแสดงความห่วงใยต่อผลกระทบที่มีต่อโบราณสถานผ่านทางกรมศิลปากร ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ได้กำชับให้กระทรวงวัฒนธรรมเข้าดูแลอย่างเต็มที่”
ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื้องต้นได้ประเมินความเสียหายในส่วนของโบราณสถานไว้อย่างไรบ้าง นางสุกุมลกล่าวว่า ขณะนี้ด้วยปริมาณที่ท่วมสูงทำให้การประเมินมูลค่าเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ทางกรมศิลปากรก็ได้เริ่มดำเนินการโดยเปรียบเทียบกับน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 38 รวมไปถึงการประสานข้อมูลทางเทคนิคจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งยอมรับว่าโบราณสถานมีทั้งที่ฐานเป็นอิฐ และเป็นไม้ การที่น้ำท่วมขังนานๆย่อมมีความเสียหายอยู่แล้ว โดยเฉพาะในส่วนของไม้ที่ต้องมีการพองตัวอยู่แล้ว ส่วนจะทรุดหรือถล่มหรือไม่นั้น ยังตอมไม่ได้
นางสุกุมลกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้กรมการศาสนาเข้าดูแลประชาชนที่อาศัยอยู่ตามวัด และพื้นที่โบราณสถาน ในการจัดหาอาหารยารักษาโรคให้แก่ประชานเหล่านั้น โดยเฉพาะบางส่วนที่เป็นมุสลิมซึ่งได้เข้าอาศัยตามมัสยิดต่างๆ ก็จะมีการจัดหาอาหารฮาลาลให้ด้วยเช่นกัน