ASTVผู้จัดการออนไลน์ - หลังจากข้าวใหม่ปลามันไม่กี่วัน รัฐบาลกัมพูชาได้เริ่มเร่งเร้าให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จัดการประชุมคณะกรรมการร่วมชายแดนสองฝ่ายเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร รอบปราสาทพระวิหาร และสองฝ่ายจะต้องถอนทหารออกจากเขตปลอดทหารชั่วคราวตามคำสั่งของศาลโลก โดยยืนยันจะต้องมีทีมอิเหนาเข้าสังเกตการณ์ในพื้นที่ด้วย
นายฮอร์ นัมฮง ได้ระบุถึงเรื่องนี้ในรายงานถึงเลขาธิการสหประชาชาติบันคีมูน ในโอกาสไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่ประจำปีของยูเอ็น หนังสือลงวันที่ 27 ก.ย. 2554 แต่สำนักข่าวทางการเพิ่งจะตีพิมพ์เผยแพร่ในสัปดาห์นี้ หลังจากหยุดพักยาวเนื่องในเทศกาลประชุมแบน (Pchum Ben)
สาส์นของ รมว.ต่างประเทศกัมพูชากล่าวว่า หลังจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) ได้ออกคำสั่งในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ให้สองฝ่ายหยุดยิงและจัดตั้งเขตปลอดทหารเฉพาะกาล (Provisional Demilitarized Zone) ขึ้นมา ไม่มีการยิงต่อสู้เกิดตามแนวชายแดนอีกเลย
นอกจากนั้น ฝ่ายกัมพูชาพร้อมเสมอที่จะถอนทหารตามคำสั่ง ICJ และคาดว่าจะมีการจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ขึ้นในเร็วๆ นี้เพื่อกำหนดวันถอนทหาร ซึ่งจะต้องกระทำต่อหน้าคณะสังเกตการณ์จากอินโดนีเซียในพื้นที่ โดยฝ่ายกัมพูชาถือว่ามีความสำคัญมากเพราะจะต้องดำเนินการโดยโปร่งใสและอย่างต่อเนื่อง
กัมพูชายังอวดอ้างอีกว่า ที่ผ่านมาได้ถอนทหารออกจากอาณาบริเวณโดยรอบแล้ว เพื่อสร้างบรรยากาศให้แก่การแก้ไขปัญหาชายแดนกัมพูชา-ไทยโดยสันติ และเพื่อให้คณะกรรมการชายแดนร่วม (JBC) สองฝ่ายประชุมเพื่อกำหนดเส้นเขตแดนระหว่างสองประเทศ ตามการตกลงระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยไปเยือนกัมพูชาเมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ร่วมกัน
ศาลระหว่างประเทศในกรุงเฮกได้มีคำสั่งให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิงและถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาทตามที่ฝ่ายกัมพูชาร้องขอ ส่วนการตีความคำพิพากษาเมื่อปี 2505 เพื่อชี้ขาดอธิปไตยเหนือพื้นที่ดังกล่าวจะมีขึ้นในปลายปีนี้ หากสองฝ่ายไม่สามารถเจรจาเพื่อปักปันเขตแดนได้ในระหว่างนี้
2
3
“ปัจจุบันปัญหาเดียวที่ยังคงคั่งค้างอยู่ก็คือ การตีความคำตัดสินปี 2505 ของไอซีเจ (ICJ) ซึ่งกัมพูชาได้เรียกร้องเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างสันติ สำหรับการกล่าวอ้างพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบๆ ปราสาทพระวิหาร วันนี้ ICJ กำลังรอคอยความเห็นจากฝ่ายไทยต่อคำร้องขอของฝ่ายกัมพูชา” สาส์นของนายฮงกล่าว
“ประการสุดท้าย กัมพูชาเชื่อว่าจะสามารถร่วมกับรัฐบาลชุดใหม่ในประเทศไทยแก้ไขปัญหาชายแดนและปัญหาต่างๆ ระหว่างสองประเทศได้อย่างสันติและด้วยความเป็นมิตร เพื่อประโยชน์ของประชาชนสองประเทศและการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี” สาส์นระบุ
สัปดาห์ปลายเดือนที่แล้วหลังจากนายกรัฐมนตรีของไทยไปเยือน กลุ่มคนเสื้อแดงหลายร้อยคนได้ข้ามพรมแดนเข้ากัมพูชาและจัดการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรระหว่างทีมผสมของสองฝ่าย โดยนายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซนเป็นหัวหน้าทีมฝ่ายหนึ่ง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี น้องเขยนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าทีมอีกทีมหนึ่ง
ฮุนเซนประกาศที่สนามกีฬาโอลิมปิกในกรุงพนมเปญว่า กลุ่มคนเสื้อแดงเป็นญาติและเป็นมิตรแท้ของชาวกัมพูชา ท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้องของคนเสื้อแดง
4
5
