xs
xsm
sm
md
lg

“สมเจตน์” เบรก พท.ห้ามแตะ พ.ร.บ.กลาโหม แนะสอบ อ.เสื้อแดง เข้าข่ายกบฏ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม
ส.ว.สรรหา เบรก พท.อย่าริแก้ พ.ร.บ.กลาโหม เหตุไม่ไว้ใจนักการเมือง ไล่ไปปรับปรุงตัวให้ดีก่อน คิดมาแทรกแซงกองทัพ ชี้ สมัย “แม้ว” ดัน “ชัยสิทธิ์” ขึ้น ผบ.ทบ.เลวร้ายที่สุด สวน “ตู่” คิดรื้อ กม.177 ฉบับสมัย สนช.ต้องย้อนไปดูในอดีตให้หมด เชื่อบ้านเมืองวุ่นวายแน่ พร้อมจี้ฝ่ายความมั่นคงสอบตั้ง “อำเภอเสื้อแดง” อาจเข้าข่ายเป็นกบฏ

วันนี้ (13 ต.ค.) พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา ในฐานะอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่พรรคเพื่อไทย เตรียมเสนอให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 ภายหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมลดลง ว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยให้มีการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ เพราะวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ.กลาโหม ก็เพื่อไม่ให้การเมืองเข้ามาแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายของทหาร ซึ่งตัวอย่างของการแทรกแซงที่ชัดเจนที่สุด คือ เมื่อสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วผลักดันญาติผู้พี่ของตัวเอง คือ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ให้ขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ทั้งที่ไม่มีประสบการณ์ในการบริหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่กองทัพไม่สามารถยอมรับได้ เพราะเหมือนการทำธุรกิจที่ให้ผู้จัดการสาขาข้ามชั้นขึ้นมาเป็นผู้บริหารองค์กร จึงทำให้ พล.อ.ชัยสิทธิ์ อยู่ในตำแหน่ง ผบ.ทบ.ได้เพียงปีเดียวก็ต้องไปนั่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.)แทน เพราะไม่สามารถทำงานได้ แสดงให้เห็นว่าการที่ฝ่ายการเมืองเข้ามาจัดวางตัวบุคคลในกองทัพ ไม่เหมือนกันทหารมองทหารด้วยกันเอง ดังนั้น ความพยายามของฝ่ายการเมืองครั้งนี้ก็เพื่อต้องการทำให้กองทัพอ่อนแอ ซึ่งต้องถามว่าทำเช่นนี้เพื่อเหตุใด เพราะทีนักการเมืองยังไม่อยากให้กองทัพแทรกแซง เนื่องจากตัวเองไม่อยากเสียอำนาจ แต่ขณะเดียวกันพยายามแทรกแซงเพื่อลดอำนาจกองทัพ

“ยอมรับว่า กองทัพเป็นหน่วยงานที่ต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล และต้องอยู่ภายใต้รัฐบาล แต่วันนี้นักการเมืองยังไว้วางใจไม่ได้ คนดีมีน้อยมาก เป็นอย่างนี้แล้วเราจะให้นักการเมืองมาแทรกแซงกองทัพก็คงไม่เหมาะสม เพราะยังไม่เห็นว่าหน่วยงานใดที่ถูกการเมืองแทรกแซงแล้วจะเป็นองค์กรที่ดี หากคุณอยากแทรกแซงกองทัพต้องไปปรับปรุงตัวเองให้เป็นนักการเมืองที่ดีเสียก่อน ถ้าทำได้ตัวผมก็ยอมรับ” พล.อ.สมเจตน์ ระบุ

ส่วนกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ต้องมีการรื้อ พ.ร.บ.กลาโหม รวมไปถึงกฎหมายอีก 177 ฉบับที่ผ่านความเห็นชอบของ สนช.เนื่องจากองค์ประชุม สนช.ไม่ครบ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า หากกล่าวเช่นนี้ต้องย้อนกลับไปในรัฐบาลทุกสมัยที่เข้าข่ายลักษณะนี้ เพราะจริงๆ เรื่องนี้เพิ่งมาเกิดขึ้นเมื่อศาลรัฐธรรมนูญตีความให้กฎหมาย 3 ฉบับตกไปเพราะองค์ประชุมไม่ครบ ดังนั้นหากคิดว่าไม่ถูกต้องก็ต้องย้อนไปตีความกฎหมายตั้งแต่ในอดีตทุกรัฐบาล อย่ามาเลือกปฏิบัติเฉพาะ 177 ฉบับของ สนช.และหากเป็นเช่นนั้นจริงอยากถามว่าประเทศชาติจะวุ่นวายขนาดไหน แล้วการที่เลือก พ.ร.บ.กลาโหมขึ้นมาก่อน ก็เพราะต้องการทำลายกองทัพใช่หรือไม่

เมื่อถามถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ล่าสุดมีการเปิดอำเภอเสื้อแดงที่ จ.อุดรธานี พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของอำเภอเสื้อแดง หรือต่อไปจะเป็นจังหวัดเสื้อแดง ดูเหมือนจะเป็นการใช้อำนาจรัฐซ้อนอำนาจรัฐ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และอาจจะเข้าข่ายการเป็นกบฏต่อราชอาณาจักร เพราะประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียวมีโครงสร้างหมู่บ้าน อำเภอ หรือจังหวัดอยู่แล้ว หากคนเสื้อแดงตั้งขึ้นมาอีก ต่อไปผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด จะสามารถปกครองได้หรือไม่ เพราะฉะนั้นอยากให้ฝ่ายความมั่นคง ตั้งแต่สภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย รวมไปถึงกองทัพ เข้าไปตรวจสอบให้ดีว่าเป็นพฤติการณ์ของกบฏหรือไม่ หากเข้าข่ายต้องจัดการทางกฎหมายโดยด่วน
กำลังโหลดความคิดเห็น