“พงศพัศ” เตือนขโมยของช่วงน้ำท่วมโดนเบิ้ลโทษ-ขู่ประจานร้านค้าขูดเลือด ปชช.

“พงศพัศ” เตือนหัวขโมยช่วงวิกฤต โดนโทษหนักเพิ่ม 1 เท่า ฐานซ้ำเติมความเดือดร้อนชาวบ้าน เผย ตำรวจคุ้มครองผู้บริโภคเร่งตรวจตรา หากพบขายของเกินราคา นำตัวแถลงประจานที่ ศปภ.แน่

วันที่ 12 ต.ค.ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา สบ10 ในฐานะโฆษกด้านตำรวจของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ.แถลงว่า สำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้พยายามส่งกำลังบำรุงทางอากาศ ไปยัง จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่พบเห็นความเดือดร้อนของประชาชน วันนี้กองบินตำรวจได้ใช้ ฮ.10 ลำ บิน 30 เที่ยว ซึ่งมีประชาชนรอรับการช่วยเหลือประมาณ 1 หมื่นคน การบิน 30 เที่ยวได้นำของให้ประชาชนได้ประมาณ 3,500 ถุง ทั้งนี้ ถ้าหากชุมชนใดยังไม่ได้รับการช่วยเหลือให้แจ้งเข้ามายังศูนย์ได้ เราจะส่งกำลังบำรุงทางอากาศเข้าไปช่วยเหลือ ถือเป็นภารกิจหลักที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการ

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ประชาชนที่เป็นห่วงทรัพย์สินนั้น การดูแลความปลอดภัยบ้านเรือนประชาชน ยังเป็นหน้าที่หลักของตำรวจ และหน่วยทหารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกำลังบูรณาการการรับฝากบ้านไว้กับตำรวจ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เรายังมีศักยภาพดูแลบ้านเรือนประชาชนให้ปลอดภัย ขณะนี้มีข่าวเป็นลำดับ ว่า มีโจรผู้ร้ายใช้เรือพายขนาดเล็กเวลาประมาณตี 4-5 ออกไปตามบ้านเรือนประชาชนที่ไม่มีคนอยู่เข้าไปโจรกรรมทรัพย์สิน ตำรวจได้มีการซุ่มสกัด

“ถ้าพบเห็นก็จะไม่เอาไว้ เพราะถือว่าเป็นการกระทำความผิดซ้ำเติมความทุกข์ร้อนของประชาชน ฉะนั้น จึงเป็นเรื่องที่จะดำเนินการตามมาตรการที่เด็ดขาด ภายใต้กรอบกฎหมาย เมื่อกระทำการไปประการใด มีคนร้ายเสียชีวิตหรือไม่จะรายงานให้ทราบ แต่พยายามเต็มที่ในการป้องกัน” พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าว

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า คดีลักทรัพย์ โจรกรรมในเคหสถาน ในภาวะปกติโทษสูงสุด คือ 3 ปี แต่ถ้าทำให้พื้นที่ประสบอุทกภัย โทษสูงสุดถึง 7 ปี และเชื่อว่า พนักงานสอบสวน อัยการ หรือคำพิพากษาของศาลจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ เป็นบุคคลที่ซ้ำเติมความทุกข์ร้อนของประชาชนที่กำลังประสบอุทกภัย หากมีข้อมูล เบาะแสในชุมชน หรือผู้ต้องสงสัยขอให้แจ้งที่ ศปภ.เราจะจัดชุดตำรวจไปดำเนินการ ขณะนี้ที่อยุธยามีตำรวจตระเวนชายแดนประมาณ 600 นาย ลาดตระเวน ขอให้ประชาชนให้เบาะแสด้วย เราจะไม่เอาไว้

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวอีกว่า สำหรับการขายสินค้าเกินราคา หรือขูดรีดประชาชน กักตุนสินค้า คงจำกรณีน้ำมันปาล์มได้ ซึ่งศาลได้ตัดสินพิพากษาลงโทษทุกกรณี ฉะนั้น ตำรวจคุ้มครองผู้บริโภคก็กำลังไปตรวจตราเรื่องนี้ หากจับกุมตัวผู้กระทำความผิดสำหรับผู้ขายเครื่องอุปโภคบริโภคเกินราคาได้ จะนำตัวมาแถลงข่าวที่นี่