ปชป.จวกรัฐบาลปล่อยลิ้วล้อสร้างความแตกแยกสวนทางคำพูดนายกฯ เปิดอำเภอเสื้อแดง ดิ้นแก้ พ.ร.บ.กลาโหม หวังล้วงลูกย้ายทหาร ไม่ใส่ใจช่วยผู้ประสบภัย แถม “ยิ่งลักษณ์” ยังไร้ภาวะผู้นำ ทำคนไทยตื่นตูมกักตุนอาหารจนขาดตลาด
นายชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มอบหมายทุกคนให้ระดมสรรพกำลังช่วยน้ำท่วม แต่รัฐบาลกลับไม่มีความเข้าใจในการทำงานของฝ่ายค้าน โดยโฆษกรัฐบาลยังดิสเครดิตฝ่ายค้านในการช่วยเหลือประชาชนด้วยการเบี่ยงเบนประเด็นหาเรื่องใช้การเมืองมากลบเกลื่อนการไร้ความสามารถจากการบริหารสถานการณ์วิกฤตภัยพิบัติ และยังพยายามหมกเม็ดใช้ช่วงชุลมุนช่วยพวกพ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งเรื่องการแก้ พ.ร.บ.กลาโหมเพื่อส่งคนของตัวเองเข้าไปแทรกแซงกระบวนการแต่งตั้งทหาร หน่วยงานความมั่นคงจึงเตือนให้รัฐบาลกลับไปดูต้นตอของเรื่องที่เคยให้บทเรียนในอดีต
“การเข้าไปแทรกแซงกลไกฝ่ายทหารได้สร้างความขัดแย้งและปัญหามาโดยตลอดทำให้กองทัพอ่อนแอตั้งญาติเป็น ผบ.ทบ., ผบ.สส. ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นความขัดแย้ง ไม่ปล่อยให้องค์กรหลักที่มีหน้าที่ปกป้องสถาบันของชาติทำหน้าที่อย่างเป็นอิสระ มีลักษณะเป็นเผด็จการรัฐสภา ทำให้ประเทศวิบัติมาครั้งหนึ่งแล้วอย่าให้ซ้ำรอยอีก”
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.เพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดงเปิดอำเภอเสื้อแดงว่า ในอนาคตจะขยายเป็นการเปิดจังหวัดเสื้อแดงและอาจไปไกลถึงขั้นประเทศเสื้อแดง ทั้งๆ ที่ประเทศกำลังเกิดวิกฤตต้องการความสามัคคี มีคนเสื้อแดงแดง เช่น จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครสวรรค์ ได้รับความลำบากแทนที่นายจตุพรจะไปช่วยเหลือกลับไปสร้างความแตกแยกด้วยการเปิดอำเภอเสื้อแดงที่ จ.อุดรธานี สร้างบาดแผลให้ลึกลงอีก ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเป็นสีไหนรักหรือไม่ชอบนายอภิสิทธิ์ แต่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมเดินหน้าเข้าหาช่วยเหลือเต็มที่
นายชวนนท์ยังฝากถึงนายกรัฐมนตรีให้ดูแลคนของตัวเองให้หยุดเคลื่อนไหวในประเด็นที่จะสร้างความขัดแย้งเพิ่มเติม ทั้งการแก้ พ.ร.บ.กลาโหม และการตั้งอำเภอเสื้อแดงซึ่งสวนทางกับแนวทางที่นายกรัฐมนตรีขอให้คนไทยสามัคคี
พร้อมกันนี้ยังตำหนิวิธีการบริหารอุทกภัยของนายกฯ เช่น การแก้ปัญหาที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ไม่สามารถปกป้องพื้นที่เศรษฐกิจด้ทั้งๆ ที่ ปัญหาดังกล่าวไม่ใช่ภัยธรรมชาติที่มาแบบไม่รู้ตัวแต่เป็นการปล่อยน้ำจากเขื่อนซึ่งสามารถประเมินทิศทางการไหลของน้ำและผลกระทบได้อยู่แล้ว แต่รัฐบลขาดการเตรียมการรับมือที่ดีพอจึงทำให้เกิดความโกลาหลในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นวงกว้าง อีกทั้งการตั้งคณะกรรมกรรและศูนย์ต่างๆ ซ้ำซ้อนจนขาดประสิทธิภาพก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การบริหารสถานการณ์ไม่ประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้ การออกทีวีพูล 2 ครั้งของนายกรัฐมนตรี นอกจากจะเรียกความเชื่อมั่นจากประชานไม่ได้แล้ว ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลลงอีกด้วย เพราะเสียงสั่นเครือของนายกรัฐมนตรีทำให้ประชาชนไม่มั่นใจว่าผู้นำประเทศจะนำพาชาติผ่านวิกฤตไปได้จนเกิดการกักตุนข้าวของตามมา แต่ก็ยังให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีตั้งสติแก้ปัญหาต่อไป โดยต้องเร่งรัดวางมาตรการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประกอบการและแรงงานที่ได้รับผลดระทบเพิ่มเติมด้วย
ด้าน นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ขอบคุณประชาชนนำสิ่งของบริจาคผ่านพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งขณะนี้ยังต้องการการบริจาคเพิ่มเพราะสิ่งของได้กระจายไปช่วยประชาชนเกือบหมดแล้ว โดยพรรคพร้อมเป็นตัวกลางช่วยผู้ประสบภัย
