xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” ปัดยื่นถอด “ธีระชัย” กลบน้ำท่วม ชง กมธ.สอบแก้ พ.ร.บ.กลาโหม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์
รมต.สำนักฯ เงา ปชป.ปัดเล่นเกมถอดถอน “ธีระชัย-กฤษณา” ท้าพิสูจน์ทำผิด รธน.ตาม ม.270 จริง เชื่อ กมธ.กฏหมายเตรียมสอบแก้ไข พ.ร.บ.กลาโหมหวังลาก ผบ.เหล่าทัพมาขึ้นเขียงการเมือง เพราะมีแกนนำแดงนั่ง กมธ.หลายคน โต้ไม่ได้เล่นการเมืองจนเมินช่วยน้ำท่วม ยันรับบริจาค-อาสมัครช่วยเป็นประวัติการณ์ ยก “มาร์ค” ลงพื้นที่ทุกวัน ซัดกลับ พท.มุ่งแต่เดินเกมการเมือง

วันนี้ (9 ต.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเงา ปชป. แถลงกรณีนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยระบุปชป.ดิสเครดิตทางการเมืองกรณีเตรียมยื่นถอดถอนนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และน.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นเรื่องดิสเครดิตรัฐมนตรีคนไหน เพราะรัฐมนตรีทั้งสองก็ไม่ได้เป็นเป้าหมาย หรือเป็นแกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อเห็นว่ามีการกระทำผิดอย่างโจ่งแจ้ง และมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน ในฐานะพรรคฝ่ายค้านก็จะต้องทำหน้าที่ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อความในหนังสือของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจได้ระบุชัดเจนว่า ได้รับมอบหมายจาก รมว.คลัง ให้ประธานกรรมการ บมจ.อสมท ดำเนินการตามข้อเสนอของรมต.ประจำสำนักฯ ซึ่งแสดงให้เห็นได้ชัดว่ารัฐมนตรีทั้งสองมีการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญชัดเจน

“ในขณะนี้ครม.เงา ปชป.ได้มอบหมายให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ในฐานะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ เงา ไปดูแลเรื่องกฎหมายและตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะเดียวกัน พรรคก็มอบให้นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา ปชป. ในฐานะประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค ไปศึกษาหาแนวทาง หากพบการกระทำความผิดจริงให้ยกร่างหนังสือถอดถอน ซึ่งจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม.เงานัดพิเศษ ในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ และในวันที่ 11 ตุลาคม ที่มีการประชุม ส.ส.พรรค ก็จะเปิดให้ ส.ส.พรรคลงชื่อให้ครบจำนวน 1 ใน 4 คือ 125 คน ตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญ เพื่อเตรียมพร้อมในการยื่นต่อประธานวุฒิสภา เพื่อดำเนินการกระบวนการถออดถอนตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

นายเทพไทในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงกรณี กมธ.การกฎหมายฯ ซีกพรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นญัตติการแก้ไขพ.ร.บ.ระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 เข้าพิจารณาใน กมธ.ว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่แน่ใจว่าตรงตามบทบาทหน้าที่ของ กมธ.กฎหมายหรือไม่ เพราะกฎหมายดังกล่าวเป็นเรื่องของ กมธ.การทหารโดยตรง ก็ควรที่จะให้ กมธ.การทหาร เป็นเจ้าภาพในการพิจารณา เพียงแต่การหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาสู่การพิจารณาของ กมธ.กฎหมาย อาจเป็นเพราะ กมธ.ชุดนี้ประกอบด้วยแกนนำคนเสื้อแดง และฮาร์ดคอร์อยู่หลายคนก็อาจจะทำให้การตรวจสอบเรื่องนี้มีประเด็นทางการเมืองเข้ามาแอบแฝงด้วย พรรคเพื่อไทยควรแสดงความชัดเจนในฐานะพรรคการเมืองแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ถ้าหากนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมยังไม่กล้าแสดงจุดยืน ก็ควรออกมาเป็นมติพรรคเพื่อที่จะได้ให้สังคมตรวจสอบ จึงไม่เข้าใจว่าทำไมพรรคเพื่อไทยจึงหยิบยกเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน ในขณะที่สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในช่วงอุทกภัย ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ทหารทุกเหล่าทัพลงไปลุยน้ำท่วมช่วยประชาชน แต่ ส.ส.เพื่อไทยกลับมาลุยเพื่อจะแก้ พ.ร.บ.ดังกล่าวให้ได้

ส่วนที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย อ้างความสมบูรณ์ของ พ.ร.บ.ดังกล่าว เพราะเกิดในยุค คมช.และเทียบเคียงกรณีศาลรัฐธรรมนูญตีตกร่าง พ.ร.บ.ป.ป.ช.ในยุค สนช.ที่ผ่านร่างโดยองค์ประชุมไม่ครบนั้น ถ้าจะยกเรื่องนี้ขึ้นมา ควรไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่ากฎหมายดังกล่าวมีความสมบูรณ์หรือไม่ กมธ.ไม่มีหน้าที่ที่จะมาตรวจสอบหรือชี้ผิดชี้ถูกกฎหมายแต่ละฉบับ ถ้าจะอ้างถึงกฎหมายที่เกิดในยุค คมช. ก็ย้องย้อนกลับไปดูกฎหมายอีกหลายฉบับที่เกิดขึ้นในยุคของ คมช.และการรัฐประหารที่ผ่านมา ซึ่งยังใช้อยู่ และพรรคเพื่อไทยก็ยังใช้ประโยชน์จากกฎหมายที่เกิดขึ้นจากเผด็จการเหมือนกัน วันที่พรรคพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลทั้ง ในยุคนายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ปัจจุบัน ถ้าจะปฏิเสธไม่ยอมรับกฎหมายจากเผด็จการ ก็ไม่ควรที่จะรับตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ที่เกิดจากกฎหมายเหล่านี้ด้วย

“ส่วนที่ กมธ.กฎหมายจะเชิญผู้บัญชาการเหล่าทัพมาชี้แจงในการพิจารณา พ.ร.บ.ดังกล่าวนั้น เชื่อว่าไม่ใช่เป็นบทบาทและหน้าที่โดยตรงของ ผบ.เหล่าทัพ เรื่องกฎหมายน่าจะเป็นเรื่องของเจ้ากรมพระธรรมนูญมากกว่า แต่การที่พยายามชี้นำไปยัง ผบ.เหล่าทัพ น่าที่จะต้องการเอาผู้นำเหล่านี้มาขึ้นเขียงใน กมธ.มากกว่า จึงไม่อยากให้ กมธ.ฝ่ายการเมือง ทำเรื่องนี้ในลักษณะฟื้นฝอยหาตะเข็บ และการผลักดันเรื่องนี้ขึ้นมา ต้องถามไปยังนายกฯ ว่าเป็นหนึ่งในกระบวนการปรองดอง แก้ไขไม่แก้แค้นหรือไม่” นายเทพไทกล่าว

นายเทพไทแถลงกรณี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาพาดพิงพรรคฝ่ายค้านให้หยุดเคลื่อนไหวทางการเมืองแล้วหันมาช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมว่า ปชป.ไม่ได้เคลื่อนไหวทางการเมืองตามที่ถูกกล่าวหา สมาชิกพรรคทุกคนได้ทุ่มเทสรรพกำลังเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ และพรรคก็ได้รับการสนับสนุนบริจาคสิ่งของ มีอาสาสมัครมาช่วยเหลือพรรคเป็นจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป.ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ก็ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกวัน และไม่เคยที่จะวิพากษ์วิจารณ์ตำหนิการทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมของรัฐบาลในทางเสียหาย ทั้งๆ ที่คนในฝ่ายรัฐบาลเองมายอมรับความจริงว่า รัฐบาลประเมินสถานการณ์ผิดพลาดจนเกิดความเสียหายลุกลามจนไม่สามารถแก้ไขได้ มิหนำซ้ำ ปชป.ยังพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความล้มเหลวที่เกิดขึ้นจากการทำหน้าที่ของรัฐบาล ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายอื่นๆ และปชป.ยังเห็นใจการทำหน้าที่ของรัฐบาล และมีความเข้าใจว่าเป็นเรื่องใหญ่และยากลำบาก ที่จะทำให้ผู้ประสบภัยทุกคนมีความพึงพอใจและได้รับการช่วยเหลืออย่างถ้วนหน้า อยากให้พรรคเพื่อไทยกลับไปเรียกร้องสมาชิกพรรคตัวเองที่ยังมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ว่าเรื่องจะแก้ พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม การจัดตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง แทรกแซงโยกย้ายข้าราชการ และแทรกแซงสื่อมวลชน
กำลังโหลดความคิดเห็น