“ชูวิทย์” เปิด 4 คลิปกลางสภา ตบหน้ารัฐบาล-กองทัพ แฉ ขบวนการลักลอบขน “ข้าว” จากเขมร เตรียมสวมสิทธิ์เข้าโครงการรับจำนำข้าว ซ้ำด้วยขน “แก๊ส-แรงงานเถื่อน” ผ่านกองร้อยทหารพราน 1302 “เหลิม” เด้งรับ เตรียมชงเรื่องส่งนายกฯ จัดการด่วน
วันนี้ (6 พ.ค.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย กระทู้สดเรื่องการลักลอบนำเข้าสินค้าในเขตพื้นที่ชายแดน ถามนายกรัฐมนตรี ว่า วันพรุ่งนี้ (7 ต.ค.) รัฐบาลจะมีการเปิดโครงการจำนำข้าวเป็นวันแรก และอาจเกิดความสูญเสียของประเทศไทยอย่างมหาศาล เพราะข้าวไทยประสบกับปัญหาน้ำท่วม ทำให้ข้าวไทยลดปริมาณลง จึงจะมีการสวมสิทธิ์ โดยการลักลอบขนข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ทาง อ.คลองหาด อ.อรัญประเทศ อ.โคกสูง อ.ตาพญา จ.สระแก้ว โดยตนได้ส่งสายไปถ่ายคลิป
โดยคลิปที่ 1 เป็นคลิปการขนข้าวจากเขมร ขนข้ามคลองมายังประเทศไทย โดยใช้รอกชักข้ามคลองน้ำใส โดยจะสั่งเกตได้ว่า ข้าวเขมรจะใส่กระสอบปุ๋ยเข้ามา พอมาฝั่งไทยจะเปลี่ยนใส่กระสอบป่านแทน คลิปที่ 2 เป็นคลิปแรงงานกำลังแบกกระสอบข้าวสารข้ามสะพานคลองน้ำใส มายังฝั่งไทย คลิปที่ 3 เป็นคลิปแรงงานกำลังกลิ้งถังแก๊สลงคลอง เพื่อข้ามฝั่งมาเติมยังฝั่งประเทศไทย และคลิปที่ 4 เป็นคลิปการขนแรงงานเขมรพร้อมกับยาเสพติด โดยการใช้รถกระบะ และรถ 6 ล้อ ข้ามมายังฝั่งไทย โดยใช้เส้นทางใกล้ถนนศรีเพ็ญ ซึ่งมีป้ายชัดเจนบริเวณทางเข้า เขียนว่า “กองร้อยทหารพราน 1302 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 13”
ซึ่งตนทราบมาว่า เป็นเขตรับผิดชอบของกรมทหารพรานที่ 12 และ 13 และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 และเป็นพื้นที่ที่พลเรือนเข้าไม่ได้ ซึ่งมีมากกว่า 20-30 จุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ละเลย จากกรณีดังกล่าวจะทำให้ประเทศและประชาชนต้องสูญเสียประโยชน์ เพราะข้าวที่เขมรราคาตันละ 7,000 บาท แต่นำมาจำนำในประเทศไทย ได้ถึง 15,000 บาท ทำให้มีส่วนต่างกว่า 8,000 บาท จึงขอถามว่า รัฐบาลมีมาตรการป้องกันการนำข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิ์อย่างไร และที่ตนนำมาเปิดเผย ไม่ได้หวังจะไม่เป็นการเลื่อยขาเก้าอี้ใคร เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับทหาร และมีการโยกย้ายเรียบร้อยแล้ว
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายให้ตอบแทนนายกรัฐมนตรี ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลจะหาทางป้องกัน อย่างเช่น กรณีบ่อนที่นายชูวิทย์ นำคลิปมาเปิด วันรุ่งขึ้นก็สามารถจัดการได้ และหลังจากนี้ ตนจะสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการ ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทหาร ตนจะเรียนไปยังนายกรัฐมนตรี ให้สั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปดำเนินการ และตนได้หารือกับ นายฐานิสร์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ ก็ยอมรับว่ามีสถานที่นี้จริง
นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การกระทำของชาวบ้าน เพราะพื้นที่ดังกล่าวพลเรือนและตำรวจ ไม่สามารถเข้าไปได้ แต่เป็นการกระทำของนายทุน ที่เป็นการเย้ยฟ้าท้าดิน เจ้าหน้าที่ดีๆ อยู่ไม่ได้ ต้องถูกโยกย้ายออกไปหมด คนที่อยู่ก็จะได้ส่วนแบ่ง ไม่ว่าจะเป็นทหาร เจ้าหน้าที่ด่าน เจ้าหน้าที่กักกันพืชและสัตว์ จึงอยากถามรัฐบาล ว่า จะมีมาตรการที่จะป้องกันบริเวณชายแดนอย่างไร ไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะตนเชื่อว่า เจ้าหน้าที่มีส่วนรับรู้ และอยากถามว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรัฐบาลจะมีมาตรการจัดการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างไร
“ข้างรัฐสภามีการตัดสูท แต่ผมต้องไปลงตัดเสื้อเกราะ เพราะถ้ามาพูดเรื่องผลประโยชน์จะมีคนมาหมายหัว การทำหน้าที่ขอผมเสี่ยงอันตราย แต่ผมไม่กลัว เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีทั้ง เอ็ม 16 และ อาก้า จึงทำให้ผม บอกไม่ได้ว่าถ่ายได้ตอนไหน” นายชูวิทย์ กล่าว
ด้าน นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากการตรวจสอบของกรมศุลกากร จำนวน 36 ด่าน พบว่า มีผู้ลักลอบนำของผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศปี 54 มากถึง 24,000 ราย อย่างไรก็ตาม ตนจะลงไปตรวจสอบว่า มีเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ หากตรวจพบจะมีการดำเนินการทั้งทางวินัยและดำเนินคดีอาญา
ด้าน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ตนจะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน กรมศุลกากร ให้จัดการเรื่องนี้ และตนได้เคยพูดคุยกับสมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็เห็นตรงกันเกี่ยวกับการลักลอบของผิดกฎหมายบริเวณชายแดน ส่วนเรื่องความปลอดภัยไม่ต้องกังวล หาก นายชูวิทย์ เป็นอันตรายอะไร ตนจะดูแลท่านเอง
