หัวหน้ารักประเทศไทย ประชด “เติ้ง” แนะรัฐใช้สุพรรณโมเดล ศึกษาแก้น้ำท่วม จ่อแฉบิ๊กกาสิโนเหม่งจ๋าย ถามรัฐขัดสนเงินหรือจึงคิดเปิดบ่อน แนะตร.ส่งมาสักคนจะพาไปถ่ายคลิปบ่อนให้ ลั่นเตรียมแฉลบครหาฮั้ว “เหลิม” เลื่อยเก้าอี้ “วิเชียร” ตุลาฯ นี้ พร้อมปูดโกงโครงการยักษ์ 8 พันล้าน แก๊งรถดับเพลิง งง กมธ.เกษตร-อุตฯ-วัฒนธรรม พวกเดียวกับเจ้ากระทรวงจะตรวจสอบยังไง
วันนี้ (29 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย กล่าวถึงปัญหาน้ำท่วมในหลายๆ จังหวัดทั่วประเทศขณะนี้ว่า ตนอยากจะให้แต่ละจังหวัดไปศึกษาการวางระบบจากจังหวัดสุพรรณบุรี โดยศึกษาได้จากสุภาพบุรุษเตี้ย นายบรรหาร ศิลปอาชา รวมไปถึงรัฐบาลนั้นไม่เหมาะสมที่จะใช้บางระกำโมเดล แต่ควรหันไปใช้สุพรรณโมเดลมากกว่า
นายชูวิทย์กล่าวต่อว่า ในขณะนี้ตนมีหลักฐานเกี่ยวกับการเตรียมตัวเปิดกาสิโนขนาดใหญ่ห่างจากแยกเหม่งจ๋ายประมาณ 400-500 เมตร โดยบ่อนดังกล่าวมีการสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะมีการเปิดตัวเร็วๆ นี้ เช่นเดียวกับความคิดของรัฐบาล ตนไม่ทราบว่าช่วงเวลาที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมยังจะมีเวลาคิดเปิดแหล่งเอนเตอร์เทน ตนจึงไม่เข้าใจว่ารัฐบาลขัดสนเงินมากหรืออย่างไร ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเรื่องการแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันนั้น ตนก็เห็นว่ามีการแสดงพลังหลายรอบแล้ว แต่ก็ทำได้เพียงนำเอากำลังกว่า 100 นายไปบริเวณบ่อนการพนันแต่ไม่สามารถเข้าไปจับกุมใดๆ ได้ เพราะฉะนั้นให้ทางการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาให้ตนเพียงแค่หนึ่งนายและตนจะพาเข้าไป แต่อาจจะให้ไปช่วยถ่ายคลิปวิดีโอเท่านั้น
“ภายหลังจากวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ จะขึ้นรับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่หากยังมีการเปิดบ่อนอยู่ ผมก็จะนำคลิปวิดีโอมาเปิดแสดงต่อสาธารณชนอีก เพื่อลบคำครหาที่หลายๆ คนมองว่าตนร่วมมือกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เพื่อเลื่อยขาเก้าอี้ของ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี” นายชูวิทย์กล่าว
นายชูวิทย์ยังกล่าวต่อว่า ในวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคมนี้ ช่วงเวลา 10 นาฬิกา ตนจะแถลงข่าวที่ทำการพรรค เนื่องจากตนมีข้อมูลเกี่ยวกับโครงการใหม่ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 8 พันล้านบาท โดยเป็นการดำเนินการแบบเดิมๆ กระทรวงเดิม และบุคคลเดิม และมีวิธีการคล้ายๆ กับกรณีของรถดับเพลิง เพราะในตอนนี้ของกลางทั้งหมดก็ถูกนำเอาไปไว้ที่แหลมฉบังเช่นกัน และเรื่องดังกล่าวจะถือเป็นมหากาพย์ที่ยิ่งใหญ่
ทั้งนี้ นายชูวิทย์ยังกล่าวถึงการแต่งตั้งประธานคณะกรรมาธิการสามัญของผู้แทนราษฎรว่า การแต่งตั้งกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ กรรมาธิการอุตสาหกรรม และกรรมาธิการวัฒนธรรมนั้น เป็นการแต่งตั้งบุคคลที่มาจากพวกพ้องเดียวกันกับรัฐมนตรีประจำกระทรวงนั้นๆ ตนจึงไม่เข้าใจว่าคนที่มาจากพรรคเดียวกันจะกล้าตรวจสอบกันและกันได้อย่างไร