นายกฯ เปิดโครงการรับจำนำข้าว เมินกระแสเชื่อโปร่งใสทุกขั้นตอน จี้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดดูแลอย่างใกล้ชิด หากเกษตรกรถูกสวมสิทธิ์ต้องดำเนินตามกฎหมาย
วันนี้ (6 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบนโยบายรับจำนำข้าวแห่งชาติ ปีการผลิต 2554/55 พร้อมด้วยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และหัวหน้าส่วนราชการทุกจังหวัด ร่วมประชุม
โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ราคาที่รัฐบาลตั้งไว้ ในส่วนของโครงการรับจำนำข้าว ที่ความชื้นไม่เกิน 15 เปอร์เซ็นต์ ข้าวเปลือกจ้าว ราคา 15,000 บาท และข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคา 20,000 บาท ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมและถูกต้อง ซึ่งรัฐบาลได้คำนึงถึงต้นทุนและกำไรที่เพียงพอต่อการดำรงชีพของเกษตรกร ทั้งนี้ การดำเนินการรับจำนำในทุกขั้นตอนนั้น ต้องเป็นไปด้วยความถูกต้องและโปร่งใส เป็นไปตามหลักเกณฑ์ โดยรัฐบาลได้รับทราบถึงจุดบกพร่องในโครงการรับจำนำแล้ว แต่สิ่งที่ดีที่เคยทำไว้ในอดีตนั้น รัฐบาลก็จะเดินหน้าสานต่อ และพร้อมรับฟังข้อท้วงติง
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวอีกว่า ตนขอฝากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในอนุกรรมการการตรวจสอบและปรับปรุงในโครงการรับจำข้าว จะต้องติดตามและป้องกันการสวมสิทธิ์หรือการเอาเปรียบเกษตรกร โดยในทุกขั้นตอนผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดต้องลงไปดูอย่างใกล้ชิด ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ สุจริต ทำตามหลักเกณฑ์อย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันความเสียหายของภาครัฐ รวมถึงการออกหนังสือรับรองสิทธิ์ของเกษตรกรจะต้องถูกต้องและมีความชัดเจนด้วย ทั้งนี้ เกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการ จะต้องเป็นเกษตรกรที่มีการเพาะปลูกข้าวเก็บเกี่ยวข้าวจริง เพื่อป้องกันข้าวจากต่างประเทศมาสวมสิทธิ์ และหากพบว่ามีการสวมสิทธิ์เกิดขึ้น ต้องมีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง รวมถึงการเข้าไปตรวจสอบก่อนและหลังที่จะมีการส่งมอบข้าว และต้องช่วยป้องกันตรวจสอบไม่ให้เกิดข้าวหายหรือนำข้าวมาเวียนซ้ำ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นภารกิจหลักที่ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเป็นผู้ดูแล ส่วนการระบายข้าวและการส่งออกต้องมีกลยุทธ์ในการจัดการใหม่ โดยเราจะไม่มองการซื้อขายภายในประเทศเท่านั้น แต่ต้องมองกลยุทธ์การซื้อขายจากต่างประเทศด้วย