“สรรเสริญ” เย้ยเปลี่ยนเงื่อนไขบ้านหลังแรกทำเศรษฐกิจชะลอตัว สร้างความสับสน หยันปลอดดอก 0% 3 ปีแรก ลอก ปชป.มาไม่หมด ทวงสัญญาฟรีค่าโอนบ้าน ค่าจำนอง กู้ปลอดดอก 5 ปี ด้าน “เทพไท” เผยฝ่ายกฎหมายเช็กอยู่ “กฤษณา-ธีระชัย” แทรกแซง อสมท ขัด ม.270 หรือไม่ ซัดปล่อยช่องแดงยึด สทท.ไพรม์ไทม์
วันนี้ (5 ต.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสรรเสริญ สมะลาภา ส.ส.กทม. และรมช.คลังเงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงมาตรการความช่วยเหลือของรัฐบาลในโครงการบ้านหลังแรกว่า ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานโยบายดังกล่าวน่าจะเป็นมาตรการชะลอเศรษฐกิจมากกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเงื่อนไขความช่วยเหลือที่ออกมาสร้างความสับสนแก่ภาคธุรกิจและคนที่จะซื้อบ้านอย่างมากที่ต่างรอคอยความชัดเจน โดยล่าสุดการออกมาตรการใหม่ให้ปลอดดอกเบี้ย 0 เปอร์เซ็นต์ ใน 3 ปีแรกสำหรับคนที่ซื้อบ้านหลังละไม่เกิน 1 ล้านบาท แม้จะเป็นการลอกนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็ไม่กล้าลอกมาทั้งหมด เพราะเพดานบ้านของโครงการพรรคประชาธิปัตย์อยู่ที่ 3 ล้านบาท ดังนั้น เมื่อมาตรการนี้ออกมา บ้านที่มีราคา 1-3 ล้านกลับไม่ได้รับความช่วยเหลือ เพราะอัตราบ้านในราคาดังกล่าวมีสัดส่วนในตลาดบ้านสูงถึง 60 เปอร์เซ็นต์ จึงเข้าใจว่าการที่รัฐบาลออกมตินี้มาก็เพื่อแก้ตัว บวกกับการแก้บนผสมกัน และลดภาษีช่วยเหลือแต่บ้านหลังละไม่เกิน 2 ล้านบาท ครอบครัวที่จะซื้อได้ต้องมีเงินเดือนรวมกัน 4 หมื่นบาทต่อเดือน เมื่อหักลดหย่อนภาษีแล้วจะได้ 2 หมื่นบาทต่อปีเท่านั้น ส่วนบ้านหลังละไม่เกิน 3 ล้านบาท จะลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อปีเท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำมาก
“รัฐบาลน่าจะกลับไปทบทวนมาตรการให้ความช่วยเหลือมากกว่านี้ ส่วนที่เปิดช่องให้ซื้อบ้านหลังแรกได้ระหว่าง 3-5 ล้านบาทนั้น ก็ชัดเจนว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทใดหรือไม่ หรือเป็นการเอื้อให้คนรวยสามารถหักลดหย่อนภาษีได้จำนวนมาก นอกจากนี้ ขอทวงคำสัญญาของรัฐบาลนี้ที่ได้ประกาศในช่วงหาเสียงแต่กลับไม่มีการพูดถึงเลย คือ ฟรีค่าโอนบ้าน ฟรีค่าจดจำนองบ้าน หรือแม้กระทั่งที่ประกาศให้ความหวังว่าจะให้กู้เงินปลอดดอกเบี้ย 0 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลา 5 ปี เพราะมาตรการที่ออกมาในบ้านหลังแรกของรัฐบาลนี้ก็ไม่มีรายละเอียดหรือการพูดถึงเลย ทั้งที่หาเสียงไว้ก็ต้องทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ให้ครบทั้งหมดด้วย” นายสรรเสริญ กล่าว
ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส. นครศรีธรรมราช ในฐานะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเงา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่ น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ไปแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ต้องขอบอกว่า อสมท ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ แต่เป็นบริษัทมหาชน แต่ขณะนี้ปรากฏชัดว่า รมต.ประจำสำนักนายกฯ ใช้จดหมายทางราชการที่ นร.0405 สำนักนายกรัฐมนตรี เข้าไปแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของบอร์ด อสมท โดยผ่านทาง รมว.คลัง และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจมายังประธานบอร์ด ขณะนี้ทางพรรคได้ให้ฝ่ายกฎหมายเข้าไปศึกษาเรื่องนี้ว่าการกระทำดังกล่าวของรัฐมนตรีฯ ขัดต่อมาตรา 270 แห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมถึงให้พิจารณาการดำเนินการของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.คลังว่า มีความผิดตามกฎหมายนี้ด้วยหรือไม่ เพราะในจดหมายของ รมต.ประจำสำนักนายกฯมีเนื้อหาเห็นได้ชัดว่าเข้าไปแทรกแซงกิจการของบอร์ด อสมท เช่น การระงับการประกาศดำเนินการปรับปรุงแก้ไขโครงการสร้างบริษัท และรวมไปถึงการแต่งตั่งโยกย้ายพนักงานที่เป็นอำนาจของบอร์ด รัฐมนตรีไม่มีสิทธิที่จะเข้าไปแทรกแซงใดๆ หากพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป รวมถึงการดำเนินการถอดถอนทั้ง 2คนด้วย
นายเทพไทยังกล่าวถึงการที่ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเข้ามาบริหารดูแลกิจการสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ทำให้พบว่าในรายการทีวีของสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ช่วงเวลาหลังข่าวของทุกวันจะมีรายการใหม่ขึ้นมาทดแทน โดยอ้างว่าเป็นรายการคุณภาพ เช่น รายการเวทีประเทศไทย และรายการแว่นขยาย โดยอ้าวว่าพิธีกรทั้งหมดเป็นมืออาชีพนั้น ก็มาจากสถานีโทรทัศน์คนเสื่อ แดง Asia Update ทั้งสิ้น รวมไปถึงวิทยากรที่นำมาออกในรายการตั้งแต่หลังข่าวจนถึง 24.00 น.เป็นวิทยากรที่เคยเป็นบนเวทีคนเสื้อแดง ใกล้ชิดคนในพรรคเพื่อไทยและเป็นคนในระบอบทักษิณทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น รมต.ประจำสำนักนายกฯ จะต้องตอบคำถามกับสังคมว่าการถอดรายการที่มีสาระทางการเมืองแล้วเอารายการคนของตัวเองซึ่งมีความคิดเดียวกับพรรคเพื่อไทยมาทดแทนเป็นมืออาชีพอย่างไร
“ส่วนกรณี น.ส.กฤษณา ที่กล่าวว่าไม่เคยได้ยินสิ่งที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ให้โอกาสกับฝ่ายค้านในยุคนั้น อยากจะบอกว่า รมต.ประจำสำนักยกฯ พยายามที่จะเบี่ยงเบนประเด็น ปัดความรับผิดชอบ โดยอ้างว่าไม่ได้ยินข่าว ทั้งที่สามารถตรวจสอบได้ แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ติดใจ คิดว่าเป็นสปริตที่รัฐบาลชุดนี้จะเปิดกว้างให้พรรคฝ่ายค้าน” นายเทพไทกล่าว
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเงา ขอขอบคุณรัฐบาลที่แก้ไขนโยบายบ้านหลังแรก เป็นดอกเบี้ย 0% นาน 3 ปี แต่เห็นว่า วงเงินจำนวน 1 ล้านบาทนั้นน้อยเกินไป เดิมรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ให้วงเงินถึง 3 ล้านบาท
พร้อมกันนี้เห็นว่า รัฐบาลควรต่อมาตรการไฟฟ้าฟรีไม่เกิน 90 หน่วย เพื่อช่วยเหลือประชาชน ส่วนนโยบายการลดค่าครองชีพ ด้วยการต่ออายุรถไฟและรถเมล์ฟรี ถึงวันที่ 15 มกราคม 2555 เห็นว่า หากรัฐบาลนำงบประมาณที่ต้องใช้ในโครงการรถยนต์คันแรก มาบริหารจัดการส่วนนี้ จะสามารถต่อนโยบายรถไฟและรถเมล์ฟรี ได้ถึง 7 ปี
นอกจากนี้ นายอรรถวิชช์ ยังกล่าวถึงกรณีการติดตามการทำงานการแก้ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และการจัดตั้งศูนย์ร้องเรียนการทุจริตในโครงการรับจำำนำข้าวรัฐบาลที่พรรคประชาธปัตย์ พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ร้องเรียน 02-270-0036 พร้อม 20 คู่สาย
ขณะที่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเงา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุมครม.เงาที่ประชุมมีการตำหนิการแก้ปัญหาเรื่องการระบายน้ำและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยของรัฐบาลที่ยังไม่ดีขึ้น พร้อมตำหนิโครงการผลักดันน้ำที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีออกมาเสนอความเห็นว่า เป็นโครงการที่ต้องใช้เวลา และไม่น่าจะแก้ปัญหาในช่วงนี้ได้ทัน