“อภิสิทธิ์” ระบุตั้ง “อำเภอเสื้อแดง” ยิ่งทำสังคมขัดแย้งมากขึ้น เตือนซ้ำรอย “แม้ว” สองมาตรฐานอย่างแท้จริงหากตั้งงบพิเศษหนุนหมู่บ้านแดง ชี้ไม่เห็นความจำเป็นต้องแก้ พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการ กห. ดักคอก่อนคิดโยกนายทหารต้องแจงสังคมให้ได้ อย่าทำตามอำเภอใจ
วันนี้ 4 ต.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงกดดันการโยกย้ายนายทหารประจำปี เพื่อปูทางแก้ไปสู่การแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมว่า ยังไม่เห็นความจำเป็นหรืออุปสรรคว่ากองทัพไม่สนองนโยบายของรัฐบาลตรงส่วนใด ดังนั้น รัฐบาลต้องบอกให้ชัดว่าที่จะมีการการเปลี่ยนแปลงนั้นมีปัญหากระทบกับนโยบายอย่างไรบ้าง ดังเช่นที่ผ่านมาในสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ปรับเปลี่ยนนโยบายในส่วนภาคใต้ เพราะต้องการเปลี่ยนยุทธศาสตร์ แก้ไขกฎหมายในการบริหาร 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องการการใช้การเมืองนำการทหาร จึงลดบทบาทการทำงานของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจลง ถ้าให้เหตุผลไม่ได้ แล้วจะให้การเมืองสามารถตั้งคนได้ตามใจชอบ ก็คงไม่เหมาะสม
“วันนี้มาบอกว่าไม่ถูกใจแล้วแก้ไข อีกหน่อยอาจจะบอกว่าไม่ถูกใจการทำงานของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งมีระบบกฎหมายในการคุ้มกันการทำงานที่เป็นอิสระ มีข้าราชการประจำอยู่ก็คงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีคนออกมาแสดงความไม่พอใจในส่วนโผโยกย้ายนั้นถือว่าเป็นมุมมองของแต่ละคน ซึ่งการอ้างถึงปัญหาการไม่รับความเป็นธรรมก็เป็นเรื่องที่ คณะกรรมการตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.)” นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาในช่วงการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ได้บอกว่าจะใช้ความเป็นผู้หญิง ความนุ่มนวล นำไปสู่บรรยากาศแห่งความปรองดอง แต่ทำไมขณะนี้กลับไม่มีสิ่งนั้นเกิดขึ้น มีแต่การสร้างวาระให้เกิดความขัดแย้งรายวัน ทำไมถึงไม่แก้ปัญหาให้ประชาชนเกิดความศรัทธาในรัฐบาลเพื่อให้ประชาชน เชื่อมั่นและประเทศชาติเดินไปข้างหน้าต่อไปได้ ตนเห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลทำกลับมีแต่เรื่องกระทบกองทัพและสถาบันหลัก มีการดำเนินการที่มุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตน ทั้งที่ประชาชนเดือดร้อนจากปัญหาของแพง น้ำท่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะขยายจากการตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงเป็นอำเภอคนเสื้อแดงว่า ไม่ทราบว่าจะจบตรงไหน นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยรู้สึกเห็นด้วยกับสภาพเช่นนี้ใช่หรือไม่ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วคนที่มีความเห็นที่ต่างกันกับคนเสื้อแดงจะอยู่อย่างไร รัฐบาลไม่สนใจใช่หรือไม่ ทั้งนี้หากมีการดำเนินการจริงสังคมจะถูกกดดันและจะกลายเป็นปัญหาความขัดแย้งในอนาคตได้
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าจะมีการสนับสนุนงบประมาณให้เป็นพิเศษนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะยิ่งกลายเป็นเรื่องที่แย่เข้าไปอีก กลายเป็นเรื่องสองมาตรฐานที่แท้จริง เหมือนกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีประกาศว่าใครสนับสนุนพรรคไทยรักไทยก็จะได้รับการสนับสนุนงบประมาณก่อน ดังนั้นการเอางบไปล่อจะยิ่งกลายเป็นปัญหามากขึ้น ทั้งนี้รัฐบาลควรจะหาแนวทางยุติความขัดแย้ง โดยน่าจะให้ คอป.เข้ามาดูแลเพราะจะกลายเป็นสาเหตุของความขัดแย้งในอนาคต