ทีมกฎหมายประชาธิปัตย์ ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน สอบจริยธรรม “ยิ่งลักษณ์” ออกนโยบายบ้านหลังแรกมีประโยชน์ทับซ้อนเอสซี แอสเสท ขัดรัฐธรรมนูญ ผิดระเบียบสำนักนายกฯ ชง ป.ป.ช.ถอดพ้นตำแหน่ง
วันนี้ (29 ก.ย.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายวิรัตน์ กัลยาศิริ และ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย คณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่าน นายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการสำนักงานขอให้ตรวจสอบจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีนโยบายโครงการบ้านหลังแรกของรัฐบาลมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทของครอบครัวตระกูลชินวัตร
นายวิรัตน์ กล่าวว่า คณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า การที่รัฐบาลมีนโยบายลดการจัดเก็บภาษีให้กับประชาชนที่ซื้อบ้านหลังแรกโดยกำหนดเพดานราคาบ้านที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการที่ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาทนั้นเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือกรณีมีผลประโยชน์ทับซ้อนที่มีสภาพร้ายแรงขัดต่อรัฐธรรมนูญ และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยจริยธรรมข้าราชการการเมือง พ.ศ.2551 สมควรที่ผู้ตรวจการแผ่นดินต้องดำเนินการตรวจสอบ และส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาดำเนินการเพื่อนำไปสู่การถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 279
“เดิมรัฐบาลกำหนดเพดานราคาบ้านที่จะได้รับการลดหย่อนการเก็บภาษีว่ามีราคาหลังละไม่เกิน 3ล้านบาท แต่ต่อมาได้ปรับเป็น 5 ล้านบาท ซึ่งผู้ที่จะซื้อบ้านราคาหลังละ 5 ล้านบาทได้นั้นต้องมีรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท โดยกรณีดังกล่าวนี้ บริษัท เอสซี แอสเสท ได้มีการโฆษณาเชิญชวนให้ประชาชนไปซื้อบ้านของบริษัท เพื่อรับโปรโมชันลดหย่อนภาษีบ้านหลังแรกตามนโยบายของรัฐบาล แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับบอกว่า ไม่รู้ว่าบริษัทมีนโยบายดังกล่าว และไม่รู้ว่าราคาบ้านของบริษัทนั้น เข้าข่ายได้รับการลดหย่อนภาษี ทั้งที่ตามข้อเท็จจริงน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นประธานกรรมการบริษัทมาก่อนปี พ.ศ.2550 ดังนั้น โดยพยานหลักฐานจึงเชื่อได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ รู้เห็นกับนโยบายที่จะเอื้อประโยชน์ต่อบริษัท และถือว่าเป็นกรณีผลประโยชน์ทับซ้อนร้ายแรงขัดต่อประมวลจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างชัดเจน ถ้าเราปล่อยเรื่องนี้ผ่านไป อนาคตก็จะมีการซุกนั้นซุกนี้โดยไม่หวั่นเกรงกฎหมาย จึงหวังว่าผู้ตรวจการฯจะดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้สมกับเจตนารมณ์ที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยเร็ว” นายวิรัตน์ กล่าว
เมื่อถามว่า ในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการปรับรายละเอียดของโครงการบ้านหลังแรก โดยให้ประชาชนที่ซื้อบ้านในราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ได้รับการลดหย่อนภาษี จะทำให้ประเด็นการเอื้อประโยชน์ต่องบริษัท เอสซี แอสเสท ตกไปหรือไม่ นายวิรัตน์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่า เป็นการกระทำภายใต้ความกังวลกับกรณีผลประโยชน์ทับซ้อน หาก ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนแล้ว พบว่า มีมูลก็ต้องถูกถอนถอนออกจากตำแหน่ง จึงพยายามที่จะกลบเกลื่อนเรื่องดังกล่าวให้ดูดี
ด้าน นายบุญยอด กล่าวว่า การที่รัฐบาลลดทอนเพดานราคาบ้านลงมาคนที่ได้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีต้องเป็นบุคคลที่มีรายได้ต่อเดือนประมาณ 3 หมื่นบาท เพราะประชาชนที่มีรายได้น้อยก็ไม่ได้เป็นผู้ทีมีหน้าที่เสียภาษีอยู่แล้ว เมื่อไม่ได้เสียภาษีก็ไม่ได้รับการลดหย่อน ดังนั้นวิธีการของรัฐบาลในตอนหลังจึงไม่ได้อธิบายในเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน โครงการดังกล่าวของรัฐจึงไม่ได้เป็นการตอบโจทย์ให้กับผู้มีรายได้น้อย แต่เป็นการตอบโจทย์ให้กับผู้ประกอบการมากกว่า
ขณะที่ นายเฉลิมศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินจะดำเนินการเร่งสรุปเรื่องร้องเรียนดังกล่าว เพื่อเสนอต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้พิจารณาภายใน 1-2 วันนี้ แต่ทั้งนี้ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยจริยธรรมข้าราชการการเมือง พ.ศ.2551 มีขั้นตอนในการดำเนินการ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา อีกทั้งกรณีดังกล่าวไม่เคยมีตัวอย่างการดำเนินการมาก่อน อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานจะพยายามเร่งรัด เนื่องจากเป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจ