xs
xsm
sm
md
lg

พท.ขู่ฟ้อง “วิรัตน์” ใส่ร้าย “ปู” ได้ประโยชน์ทับซ้อนบ้านหลังแรก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (แฟ้มภาพ)
โฆษกเพื่อไทยโดดป้องนาย ซัด “วิรัตน์” ใส่ร้าย “ยิ่งลักษณ์” ได้ประโยชน์ทับซ้อนบ้านหลังแรก แขวะจินตนาการไปเอง ยันนโยบายทำตามสัญญาประชาคม อ้างเอสซีเข้าเค้าแค่ 10% เล็งยื่นฟ้องกลับ ด้าน “พิชิฏ” อ้างไม่พบ “ปู” แทรกแซงบริษัทเก่า ซัดฝ่ายค้านพูดจริงครึ่งเดียว

วันนี้ (27 ก.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย ปชป.กล่าวถึงรัฐบาลมีนโยบายโครงการบ้านหลังแรก โดยมีการเพิ่มวงเงินในการลดภาษีจาก 3 ล้านบาท เป็น 5 ล้านบาทนั้น ทำให้บริษัท เอสซีแอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)ได้ประโยชน์มากมายมหาศาล จึงน่าเชื่อว่าเรื่องนี้น่าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะทันทีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบริหารบริษัทเอสซีฯ ก็ได้เลือกนางบุษบา ดามาพงศ์ เข้ามาเป็นแทนนั้น ตนเห็นว่าการออกมาพูดเช่นนี้ของนายวิรัตน์ เป็นการกล่าวหาและใส่ร้าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ และรัฐบาล โดยนายวิรัตน์น่าจะมีการจินตนาการไปเอง โดยหวังผลจากข้อมูลที่เป็นเท็จเพื่อหวังประโยชน์ทงการเมือง เนื่องจากนโยบายดังกล่าวถูกนำไปหาเสียงตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งอยู่แล้ว และได้มีการแถลงต่อรัฐสภาไปแล้วด้วยเช่นกัน และถูกกำหนดเอาไปไว้เป็นนโยบายเร่งด่วน เท่ากับว่ารัฐบาลทำตามสัญญาประชาคม ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์และรัฐบาลนั้นดำเนินงานอย่างโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้

นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า นโยบายดังกล่าวถูกจัดทำเพื่อประชาชนเพื่อให้มีบ้านหลังแรก โดยไม่ได้มุ่งประโยชน์ไปให้บริษัทใดๆ บริษัทหนึ่ง อีกทั้งเพราะสิ่งปลูกสร้างร้อยละ 90 ของบริษัท เอสซีแอสเสทฯ มีมูลค่าเกิน 5 ล้านบาท และมีเพียงร้อยละ 10 เท่านั้นที่มีมูลค่าต่ำกว่า 5 ล้านบาท จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการเอื้อประโยชน์ให้ ตนจึงอยากเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์เลิกดิสเครดิตใส่ร้ายพรรคเพื่อไทยโดยไม่มีข้อมูล ทั้งนี้ ทางทีมกฎหมายกำลังดำเนินการตรวจสอบข้อมูล หากมีการใส่ร้ายมาถึงพรรคเพื่อไทยก็จะดำเนินการยื่นฟ้องนายวิรัตน์ กลับ

ด้าน นายพิชิฏ ชื่นบาน ส.ส.ระบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในแง่ของกฎหมายนั้นมีการระบุไว้ว่าหากนักการเมืองมีการเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเองหรือพวกพ้องย่อมผิดต่อหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญ แต่การที่พรรคประชาธิปัตย์จะยื่นฟ้องร้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น ไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้าแทรกแซง บริษัท เอสซีแอสเสทฯ เพราะมีการลาออกจากบริษัทดังกล่าวแล้วเช่นกัน เพราะฉะนั้น การยื่นถอดถอนจะต้องผิดต่อหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญ แต่เรื่องดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นความผิดแต่อย่างใด และตนคิดว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่การตรวจสอบของพรรคฝ่ายค้าน เพราะมีการพูดความจริงเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น