“ยิ่งลักษณ์” เชื่อตลาดหุ้นดิ่งติดลบ เกิดจากภาวะนักลงทุนตกใจข่าวสารเศรษฐกิจโลกผันผวน ยันภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังเข้มแข็ง ชี้กลุ่มประเทศเอเชียต้องสร้างความเข้มแข็งร่วมกัน พร้อมเร่งฟื้นฟูเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน ยันรัฐบาลไม่ทบทวนนโยบายประชานิยม มั่นใจจะสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายในประเทศได้
วันนี้ (23 ก.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ตลาดหุ้นตกและติดลบในวันนี้ว่า เป็นเรื่องผลกระทบเศรษฐกิจตลาดโลกที่ปรับเกรดในเรื่องของตัวบริษัท ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นช่วงระยะเวลาที่สั้น ในส่วนของไทยต้องสร้างความแข็งแรงภายในประเทศให้ดี เพื่อให้การผันผวนการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจตรงนี้กระทบต่อไทยไม่มาก ทั้งนี้ ในเบื้องต้นคงจะนเรื่องของการตกใจในเรื่องของข่าวสาร ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นผลที่รับมาต่อเนื่อง แต่โดยภาพรวมของไทยไม่กระทบมาก เพราะเรื่องเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยุโรปก็อิมแพกต์ไปเกือบหมดแล้ว เชื่อว่าเป็นเพียงข่าวเท่านั้น ซึ่งจะเร่งฟื้นฟูเรื่องความมั่นใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความผันผวนตรงนี้กับปัญหาของประเทศเรื่องภัยธรรมชาติจะยิ่งฉุดความเชื่อมั่นลงไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความเชื่อมั่นพวกเราต้องช่วยกันสร้าง ทั้งนี้เชื่อว่าพื้นฐานทางด้านเศรษฐกิจในด้านการเจริญเติบโตพื้นฐานยังดีอยู่ โดยเฉพาะตลาดเอเชียวันนี้ถึงบอกว่าเราต้องกลับมาทำงานในส่วนของอาเซียนเพื่อเพิ่มความแข็งแรง เพราะวันนี้เศรษฐกิจโลกต่างๆ มีความผันผวนในส่วนของสหรัฐฯ และยุโรป แต่ในส่วนของเอเชียนั้นเราต้องสร้างความแข็งแรงร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านและเชื่อว่าความสัมพันธ์ต่างๆ เหล่านี้ในเรื่องการสร้างความมั่นใจกับนักลงทุนเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งฟื้นฟูโดยเร็ว
เมื่อถามว่า ปัจจัยภายนอกเราควบคุมไม่ได้จำเป็นจะต้องทบทวนนโยบายประชานิยมหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ เพราะประชานิยมตรงนี้เป็นสิ่งที่จะทำให้เกิดความแข็งแรงในการสร้างเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งนโยบายของรัฐบาลมีสองส่วนคือนโยบายการสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลดหนี้ การพิ่มรายได้ในครัวเรือน ขณะเดียวกันในระยาวจะดูเรื่องโครงสร้างพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรถไฟหรือโครงการเมกกะโปรเจกต่างๆ สำหรับนโยบายต่างประเทศคือการเร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สร้างความเชื่อมั่นในแต่ละประเทศ
เมื่อถามว่า คิดว่านโยบายที่รัฐบาลเดินอยู่จะเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาโดยเร็วหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้ได้อยู่แล้ว เชื่อว่า หากให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้ข่าวสารสักพักหนึ่งน่าจะค่อยๆ กลับคืนมาและวันนี้ในภาพรวมแม้จะมีผลกระทบต่อเเศรษฐกิจตลาดโลก แต่ในส่วนของการลงทุนเชื่อว่ายังมีอยู่และไทยยังเปิดกว้าง