"ยุทธ์ศักดิ์" บินคุย "เตีย บันห์" แจงเหตุถกจีบีซีช้า ยันพร้อมประชุมหากนำเรื่องเข้า สมช.พร้อม ครม.เห็นชอบ ย้ำทหารไม่มีผลประโยชน์แฝง
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเยือนประเทศกัมพูชาเพื่อหารือกับ พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชาว่า เป็นการเดินทางไปตามคำเชิญของ พล.อ.เตีย บันที่ได้เชิญมา 2 ครั้ง แล้ว ทั้งนี้เพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ ความรักใคร่ สามัคคี และความร่วมมือด้านความมั่นคง โดยจะหารือเกี่ยวกับการเตรียมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) โดยจะแจ้งให้กัมพูชาทราบว่า การที่ประเทศไทยประชุมจีบีซีช้าเพราะมีข้อกฎหมายที่จะต้องนำวาระและเนื้อหา ที่จะประชุมจีบีซีเข้าสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก่อน และได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และหากมีเรื่องที่เกี่ยวกับสัญญาหรือต้องเข้ากระบวนการรัฐสภาก็ต้องผ่าน รัฐสภาก่อน
“ยืนยันว่า ทันทีที่ทุกเรื่องพร้อมและผ่านขั้นตอนทุกอย่างแล้ว เราพร้อมร่วมประชุมกับกัมพูชาทันที ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้พร้อมประชุมอยู่แล้ว รอแต่ฝ่ายไทย และต้องการให้ประชุมเสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้ คิดว่า ก่อนปลายเดือน พ.ย.เราจะสามารถจัดการประชุมได้ ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงกลาโหมได้มอบให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้เสนอให้ สมช.ทราบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศส่งให้ สมช.ทราบ และเมื่อเข้า สมช.แล้วทางกระทรวงกลาโหมจะขอให้ สมช.เร่งรัดในการเรียกประชุมในกรอบของการหารือกับกัมพูชาต่อไป ส่วนพื้นที่ตามแนวชายแดน ขณะนี้บรรยากาศกำลังดีมาก เพราะทั้ง 2 ฝ่าย ต่างมีความต้องการให้เกิดสันติภาพและความร่มเย็นเป็นสุขกับประชาชนที่อยู่ ตามแนวชายแดน ซึ่งเราจะสนับสนุนทุกเรื่องเพื่อให้ประชาชนสามารถไปมาหาสู่กันและจะสนับสนุน ด้านการท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ รวมถึงเรื่องเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น”
ส่วนกระแสข่าวที่ว่า รัฐบาลจะมีการโยกย้าย 2 ทูต ที่เป็นมือกฎหมายไทยกรณีปราสาทเขาพระวิหาร พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ยังเป็นเพียงกระแสข่าวอยู่ ตนยังไม่ขอพูดว่าจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน ต้องแล้วแต่ความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ ขอให้เป็นความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ ขณะนี้เรื่องยังไม่เกิดขึ้นอย่าเพิ่งพูดก่อน เพราะจะกลายเป็นการวิจารณ์ ขอให้เรื่องเกิดขึ้นก่อนแล้วตนจะเรียนให้ทราบว่า ผลกระทบ หรือผลดีของการปรับย้ายนั้นจะเป็นอย่างไรต่อกระทรวงกลาโหมบ้างในอนาคต แต่ตอนนี้ขอเว้นไว้ก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าความสัมพันธ์ที่ดีเป็นพิเศษอาจถูกมองว่ามีผลประโยชน์แอบแฝง พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวยืนยันว่า ไม่มีเรื่องผลประโยชน์แอบแฝง ทหารไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงใดๆ ทั้งสิ้น แต่จะสนับสนุนและดำเนินการให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและให้เกิดแนวทางที่ จะทำให้ประเทศชาติมีผลประโยชน์ร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย เมื่อประชุมจีบีซีแล้ว เราจะทราบการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ทับซ้อน ส่วนในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เราไปคุยรายละเอียดในการประชุมจีบีซี ส่วนประเด็นปลีกย่อยจะให้ฝ่ายเลขาฯได้พบปะพูดคุยกันเองก่อนจะประชุมจีบีซี ต่อไป
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงผลกระทบต่อกระแสข่าวว่า รัฐบาลจะโยกย้าย 2 ทูตที่เป็นมือกฎหมายไทยในคดีปราสาทเขาพระวิหารว่า คงไม่กระทบ การทำงานอย่าไปยึดถือตัวบุคคลเป็นหลัก การ ทำงานต้องใช้หลักการ และ มีแนวทางในการปฏิบัติ ซึ่งตัวบุคคลถือว่าสำคัญ และบุคคลนั้นต้องทำด้วยหลักการที่มีอยู่ ตามด้วยกฎหมาย ข้อบังคับ จะทำอะไรตามใจตัวเองไม่ได้ เพราะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่แล้ว ดังนั้น ใครจะเป็น ใครจะไปหรือมา ก็ต้องรักษากฎ กติกา ขอให้รอดูเพราะเป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ แต่คิดว่า จะ ไม่ทำให้ขาดความต่อเนื่องในการทำงาน เชื่อว่า การทำงานจะต้องส่งต่อกันได้ อย่างเช่นวันนี้ ตนเดินทางไปที่ศูนย์การทหารราบ ในพิธีเกษียณอายุราชการ ซึ่งคนไหนเกษียณก็ต้องส่งต่องานให้กับคนอยู่ คนไหนย้าย ก็ส่งงานให้คนใหม่ทำ ก็เป็นเรื่องธรรมดา ที่เป็นเรื่องคนใหม่จะดำเนินการ ซึ่งเป็นเรื่องของกติกา และกฎหมายระหว่างประเทศ ต้องว่ากันต่อไป ซึ่งความจริงเหตุการณ์นี้เกิดตั้งแต่ปี 05 ขณะนี้ปี 54 คนที่เกิดสมัย 05 ก็เหลืออยู่ไม่กี่คน ก็ยังมีการดำเนินการต่อกันมาถึงปัจจุบัน เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคนไหนก็ต้องทำต่อให้ได้