โฆษก ปชป.จี้ รบ.แจงจ่ายเงินช่วยน้ำท่วมแค่ร้อยละ 50 ซัดอย่าอวดอ้างแจกเงินก่อนน้ำท่วม เตือน “ยิ่งลักษณ์” จะพูดเรื่องใดควรมีข้อมูล พร้อมท้าโชว์ผลงานปกป้องอธิปไตย แฉรัฐชัดเจนตั้ง “คอ.นธ.” ต้องตอบสังคมให้ได้ หวังช่วยคนคนเดียว
วันนี้ (22 ก.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการจ่ายเงินชดเชยแก่ผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมว่า ขณะนี้ได้จ่ายไปแล้วร้อยละ 70 และมีการอวดอ้างว่าทำก่อนน้ำลด ต่างจากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตนรู้สึกแปลกใจ เพราะจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงขณะนี้มีประชาชนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เงินช่วยเหลือ โดยการจ่ายเงินชดเชยในรอบแรก 170,000 ครัวเรือนนั้นก็จ่ายไปเพียงร้อยละ 50 เท่านั้น นอกจากนี้ ในส่วนของพืชผลทางการเกษตรก็ทราบว่ายังไม่มีการจ่ายเงินชดเชยในเรื่องดังกล่าว ซึ่งหากรัฐบาลมีข้อมูลว่าจ่ายแล้วก็ควรออกมาชี้แจง และระบุให้ชัดเจนว่าจ่ายกับกลุ่มใด และที่ใดบ้าง ยืนยันว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้รอน้ำลดแล้วจะจ่ายเงินชดเชย แต่จ่ายเงินชดเชยทันท่วงที และครบถ้วน อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าจะกล่าวอะไรก็ขอให้มีข้อมูลสนับสนุน อย่าตัวเลขมาให้ประชาชนเข้าใจผิด และหยุดใช้วาทกรรมเพื่ออวดอ้างสรรพคุณ
นายชวนนท์ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาว่า มี 3 เรื่อง คือ 1.ในเรื่องของ mou 2544 ที่ ครม.ชุดที่แล้วมีมติยกเลิกไปแล้ว ซึ่งหากรัฐบาลชุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ เห็นว่า เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ก็ควรจะยกเลิกมติ ครม. และนำ mou ดังกล่าวกลับมาใช้ 2.เรื่องของมรดกโลก รัฐบาลชุดที่แล้วได้แสดงเจตนารมณ์ โดยการถอนตัวจากมรดกโลก รัฐบาลชุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องทำหนังสือไปยังกัมพูชาว่าจะถอนจากการเป็นภาคีมรดกโลกหรือไม่ ซึ่งตนจะติดตามว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีการรักษาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศอย่างไร และ 3.เรื่องท่าทีของทั้ง 2 ประเทศเป็นอย่างไร รัฐบาลก็ควรแสดงให้สาธารณชนเห็นว่ามีการต่อสู้ปกป้องอธิปไตยและพิสูจน์ไม่ให้เกิดความสูญเสียได้อย่างไร ซึ่งถ้าหากรัฐบาลมีความสามารถก็ควรทำให้ชัดเจน
ส่วนกรณีที่รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการองค์กรอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) นั้น นายชวนนท์กล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญพึงกระทำได้ แต่ต้องตอบสังคมให้ได้ ซึ่งในเรื่องดังกล่าวนั้นขณะนี้มีความสอดรับกับการช่วยเหลือคนคนเดียวที่มานั่งหัวโต๊ะ เพื่อประชุม ครม. ซึ่งตนก็ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่า ในเรื่องดังกล่าวนั้นรัฐบาลควรที่จะมีความชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายในสังคม