อดีตผู้ว่าฯ กทม.แถลงแก้วงจรปิดเหมือน “สุขุมพันธุ์” เป๊ะ อ้างติดกล้องดัมมี่ตามหลักสากล ลดค่าใช้จ่าย ชี้ใบจัดซื้อจัดจ้างระบุชัด ไม่ได้ย้อมแมว เชิญเพื่อไทยตรวจสอบได้ “ชนินทร์” อ้างไม่บอก เพราะกลัวผู้ร้ายรู้ตัว แนะพรรครัฐใช้ กมธ.สอบไม่ต้องตั้ง กก.เพิ่ม ด้าน “ไอ้เต้น” โวยสวัสดิภาพประชาชนถูกหลอก จี้ ปชป.รับผิดชอบ
วันนี้ (21 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการ กทม.แถลงข่าวถึงกรณีการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือ CCTV ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กทม.ได้ดำเนินการจัดซื้อและติดตั้ง CCTV ระยะแรก ภายหลังเกิดเหตุระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เมื่อปี 2550 โดยรัฐบาลมอบภารกิจให้ กทม.ดำเนินการติดตั้งโดยใช้งบประมาณฉุกเฉินของรัฐบาล ซึ่งเป็นเงินอุดหนุนจาก จำนวน 330 ล้านบาท จำนวน 2,046 ตัว ซึ่งในจำนวนนี้เป็นกล้องเปล่า 1,325 ตัว กล้อง CCTV มีราคาตัวละ 34,000-130,000 บาท และกล้องเปล่าราคา 2,500- 2,700 บาท
นายอภิรักษ์ กล่าวต่อว่า การติดตั้งกล้องเปล่า หรือกล้องดัมมี่นั้น ถือเป็นหลักสากลที่ทุกๆ ประเทศ มีการใช้กันอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นการลดค่าใช้จ่าย ซึ่งการจัดซื้อจัดจ้างนั้น ก็มีการระบุการซื้อขายอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นจึงไม่มีทางที่จะมีการจัดซื้อกล้องจริง และมีการนำเอากล้องเปล่ามาติดย้อมแมวอย่างแน่นอน ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยสามารถตรวจสอบข้อมูลทุกอย่างได้ที่ กทม.เพราะมีการเก็บรวบรวมไว้แล้ว อีกทั้งเงินที่ได้ในการจัดซื้อในขณะนั้นก็เป็นเงินอุดหนุนจากรัฐบาลที่ได้ผ่านการตรวจสอบมาแล้ว
ด้าน นายชนินทร์ รุ่งแสง ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ระบอบของราชการนั้น จะไม่มีการบอกความจริง เพื่อให้ผู้ร้ายรู้ตัว เพราะถือว่าเป็นกล้องจับผิด แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยอยากที่จะตรวจสอบก็พร้อมที่จะให้ตรวจสอบ แต่อยากจะให้ใช้กลไกของรัฐสภา ผ่านช่องทางของคณะกรรมาธิการ พรรคเพื่อไทยจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เพราะตนในฐานะ ส.ส.กทม.ก็มีการติดต่อกับผู้ว่าราชการทั้งสองคนมาตลอด จึงรู้ว่าทาง กทม.ไม่ได้มีการซื้อของจริง และมาติดของปลอมอย่างแน่นอน
ทางด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีนี้ ว่า ตนไม่อยากจะเชื่อว่าจะได้ยินอธิบายเรื่องนี้แบบนี้ เพราะเท่ากับว่าประชาชนในประเทศนี้ถูกหลอกว่าตัวเองมีสวัดดิภาพและความปลอดภัยที่ดี ผู้บริหาร กทม.รวมไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ควรที่จะเข้าใจคำว่าสวัดดิภาพของประชาชนก่อนในฐานะที่เป็นนักการเมืองและต้องทำหน้าที่เพื่อประชาชน ตนจึงเกิดความสงสัยว่า เวลาที่เกิดเหตุการณ์ความเสียหายขึ้น มักจะได้ยินเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่ากล้องวงจรปิดบริเวณนั้นไม่สามารถใช้งานได้ ตนไม่เข้าใจว่า กล้องใช้ไม่ได้ หรือว่าไม่มีกล้องกันแน่ และพรรคประชาธิปัตย์จะรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างไร
