เว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟ เผย ทางการเขมรแถลงผลการพบปะ “ยิ่งลักษณ์-ฮุน เซน” ระบุ คุยกันหลายประเด็น ทั้งเสนอช่วย “วีระ-ราตรี” ขณะที่ “ฮุน เซน” ขอดูกฎหมาย อาจขอบรรเทาโทษ ฟ้อง “สุเทพ” ดอดเจรจาลับ ทั้งเสนอสองประเทศถอนกำลังพ้นชายแดน ด้าน “เฒ่าฮง” ลั่นไม่ถอนทหารออกพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ของตัวเอง
เว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟ รายงานอ้างการให้สัมภาษณ์ของ นายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ที่กล่าวถึงผลการพบปะระหว่าง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ สมเด็จฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา อย่างเป็นทางการ ในวันนี้ (15 ก.ย.) โดยระบุว่า ผู้นำทั้งสองเห็นชอบร่วมกันในด้านต่างๆ ที่จะทำให้มีความร่วมมือที่ดีและการพัฒนา ทั้งในด้านการค้าขาย ท่องเที่ยว และปัญหาเขตแดน โดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้เสนอต่อฝ่ายกัมพูชาเปิดการแสดงสินค้ากัมพูชา-ไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาให้การตอบรับ
ทั้งนี้ ระหว่างการพบปะ นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้ยกกรณีของสองคนไทย คือ นายวีระ สมความคิด และ นางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเปรยซอร์ขึ้นหารือ ซึ่งสมเด็จฮุน เซน ตอบกลับว่า กำลังตรวจดูเรื่องนี้ แล้วอาจจะเสนอกษัตริย์กัมพูชา เพื่อขอให้บรรเทาโทษ เนื่องจากกัมพูชาจำเป็นต้องเคารพกฎหมายของกัมพูชา
ส่วนในประเด็นเกี่ยวกับปัญหาเขตแดนนั้น สมเด็จฮุน เซน เสนอให้กองทัพของสองประเทศ พบปะกันเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้น และควรมีการปรับลดกำลังของทั้งสองฝ่ายตามแนวชายแดนลง ซึ่งในเรื่องนี้ นายฮอร์ นัมฮง เน้นย้ำว่า เราไม่สามารถถอนออกจากพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ที่เป็นของเราได้ เราจะทำตามคำสั่งชั่วคราวของศาลโลก กรุงเฮก โดยมีผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซียอยู่ในพื้นที่
นอกจากนี้ สมเด็จฮุน เซน ยังยกประเด็นการลักลอบเจรจาลับเกี่ยวกับพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนในทะเล ของอดีตนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ส่ง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มาเจราลับเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2552 ซึ่ง สมเด็จฮุน เซน ได้เสนอให้สองฝ่ายเจรจาในเรื่องนี้อย่างเปิดเผย ตามบันทึกความเข้าใจฯ 2544 และกลไกที่มีอยู่
สมเด็จฮุน เซน ได้เสนอให้เจ้าหน้าที่จังหวัดตามแนวชายแดนพบหารือกันเพื่อแก้ปัญหาการค้ามนุษย์และการละเมิดกฎหมายต่างๆ ซึ่งในเรื่องนี้กระทรวงมหาดไทยของสองประเทศ อาจเปิดการประชุมร่วม พร้อมกันนั้น สมเด็จฮุน เซน ก็ได้เสนอให้เปิดด่านผ่านแดนแห่งใหม่ คือ ด่านสตึงบต เพื่อเป็นด่านสินค้าเข้าออก ส่วนด่านปอยเปต ให้เป็นด่านสำหรับการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ นายเขียว กัญญฤทธิ์ รัฐมนตรีข่าวสารในฐานะโฆษกรัฐบาล ได้แถลงว่า การเดินทางเยือนของ นางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชา-ไทย ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าสองประเทศก็เปรียบเสมือนลิ้นกับฟัน ทั้งนี้ ยังยืนยันอีกว่า ในเรื่องที่เกี่ยวกับปัญหาพรมแดน อย่างเช่น ปราสาทพระวิหาร นางสาวยิ่งลักษณ์ เห็นด้วยกับมาตรการชั่วคราวของศาลโลก