รองนายกฯเงา ปชป.ห่วง รบ.ใช้งบ 3 หมื่นล้าน ลดภาษีรถคันแรก แนะใช้ชดเชยค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ได้ 30 ปี ซัด รบ.ลดจัดเก็บภาษีนิติบุคคลให้นายทุน ส่งผลรายได้ปี 2555 หายไป 1 แสนล้านบาท ชี้ รบ.ต้องจัดเก็บภาษีสรรพากร 3 ชนิด
วันนี้ (14 ก.ย.) นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป.ในฐานะรองนายกฯเงา ด้านเศรษฐกิจพรรค ปชป.แถลงหลังประชุม ครม.เงา ว่า ครม.เงา กังวลนโยบายรถคันแรก เพราะการใช้เงิน 3 หมื่นล้านบาท ไปรองรับโครงการคุ้มค่าภาษีประชาชนหรือไม่ เพราะเม็ดเงิน 3 หมื่นล้านบาท ถ้านำมาใช้ชดเชยเพื่อให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าปรับลดลงมาเป็น 20 บาทต่อเที่ยวตามที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้จนบัดนี้ยังไม่ทำ จะเพียงพอให้ประชาชนใช้บริการได้ถึงวันละ 5 แสนคน และได้เป็นระยะเวลาถึง 30 ปี
ส่วนกรณีกระทรวงการคลัง ตั้งประมาณการกรอบการจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2555 ไว้ที่ 1.98 ล้านล้านบาทนั้น มีข้อสังเกตว่าเป็นการประมาณการรายได้รัฐบาลเพิ่มขึ้นจากที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประมาณการไว้ที่ 1.90 ล้านล้านบาท ทั้งที่รัฐบาลเพื่อไทย มีนโยบายปรับลดภาษีนิติบุคคลให้นายทุนจากร้อยละ 30 หรือร้อยละ 23 ซึ่งจะกระทบการจัดเก็บรายได้ในปี 2555 รวมถึงการลดภาษีอื่นๆ เช่น ลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตดีเซล ซึ่งแนวคิดลดภาษีทั้งหมดของรัฐบาลนี้ จะทำให้รายได้ปี 2555 หายไปอย่างน้อย 1 แสนล้านบาท คำถาม คือ เมื่อลดภาษีให้นายทุน และประมาณการจัดเก็บรายได้ที่รัฐบาลตั้งเป้าหน่วยจัดเก็บเพิ่มจากเดิมถึงเกือบ 2 แสนล้านบาท จะจัดเก็บจากใคร ปชป.กังวลประชาชนที่ไม่ใช่นายทุนที่ได้รับลดภาษีจะต้องรับส่วนเพิ่มการจัดเก็บภาษีส่วนนี้ เพื่อมาสนองนโยบายประชาชนนิยมต่างๆ
“ดังนั้น จึงไม่มีหนทางอื่น ภาษีสรรพสามิตคงไปทำอะไรไม่ได้ นอกจากจัดเก็บจากภาษีสรรพากร ซึ่งมี 3 ชนิด คือ ภาษีเงินได้ส่วนบุคลซึ่งเป็นของมนุษย์เงินเดือน ภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งเป็นภาระประชาชนทุกคน และ ภาษีนิติบุคคลแต่รัฐบาลได้ประกาศว่าจะปรับลดไปแล้ว”นายกรณ์กล่าว และว่า นอกจากนี้ ครม.เงาได้พิจารณาร่างกฎหมาย 253 ฉบับที่ค้างสภา และขอให้รัฐบาลยืนยันทุกร่าง ในส่วนของ ก.คลัง ร่าง พ.ร.บ.ที่มีความสำคัญ ขอทวงรัฐบาลว่าถ้าห่วงการแก้ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ต้องยืนยันร่าง พ.ร.บ.ภาษีทรัพย์สินและที่ดิน ที่กระทรวงการคลังใช้เวลาหลายปีทำมา แล้วบรรจุเป็นวาระพิจารณาของสภา ไม่นั้นแสดงว่าไม่ให้ความสำคัญกับคนจน เพื่อให้มีการจัดตั้งธนาคารที่ดินให้คนจนมีโอกาสเข้าถึงที่ดิน ไม่นั้นความเหลื่อมล้ำก็เป็นแค่วาทกรรม และสะท้อนถึงการปกป้องประโยชน์ของอภิมหาเศรษฐีต่อไป และรัฐบาลควรเร่งดำเนินการ เพราะตามรัฐธรรมนูญจะหมดเวลายืนยันในสิ้นเดือนกันยายนนี้แล้ว