xs
xsm
sm
md
lg

แดงวางหรีดบ้านป๋าร้องกองปราบ “ผู้จัดการ” ลงที่อยู่ประจานจนโดนจดหมายขู่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กลุ่มคนวางหรีด (ภาพจากเฟซบุ๊ก สหายเดียร์ หัวกบฏ)
กลุ่มคนวางหรีดหน้าบ้าน “ป๋าเปรม” ร้องกองปราบฯ หลังเว็บไซต์ผู้จัดการลงข่าวพร้อมระบุชื่อ-ที่อยู่ จนโดนจดหมายข่มขู่จำนวนมาก โอดกลัวจะไม่ปลอดภัย โดยนำหลักฐานมามอบให้ตำรวจประกอบการพิจารณาด้วย

วันที่ 8 ก.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นางสรวีย์ อารามรักษ์ อยุ 58 ปี นายนิธิวัต วรรณศิริ อายุ 24 ปี และนางธนนันท์ ประถมเสาร์ พร้อมด้วยเครือข่ายกลุ่มคนผู้รักประชาธิปไตย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สุรชัย โลหะนาคบุตร พงส.(สบ 3) กก.1 บก.ป.เพื่อร้องทุกข์ขอให้ตรวจสอบและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน กรณีที่ถูกเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวลงในเว็บไซต์ข่าวผู้จัดการออนไลน์ เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา และมีผู้ไม่ประสงค์ดี ส่งจดหมายและไปรษณีย์บัตรข่มขู่คุกคามมาให้ถึงบ้านพักจนเกิดความหวาดกลัวในความปลอดภัย โดยทั้งหมดได้นำเอกสารที่เกี่ยวข้องมามอบให้พนักงานสอบสวนไว้ประกอบการ พิจารณาตรวจสอบ

นางสรวีย์กล่าวว่า เมื่อช่วงสายของวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากพวกตนและเครือข่ายได้นัดรวมตัวกันนำพวงหรีดไปวางไว้ที่หน้าบ้านสี่ เสาเทเวศร์ บ้านพักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พร้อมกับเผาดอกไม้จันทน์ เพื่อแสดงออกถึงจุดยืนของกลุ่ม

ต่อมา ทางตำรวจ สน.สามเสน ได้เชิญตน นายนิธิวัต และนางธนนันท์ ไปสอบปากคำและทำประวัติ โดยตำรวจขอดูบัตรประชาชนแต่พวกตนไม่ยอมให้ ซึ่งระหว่างนั้นก็ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาและถูกปล่อยตัวออกมา

นางสรวีย์กล่าวต่อว่า พอมีข่าวออกมาทางเว็บไซต์ดังกล่าว พร้อมกับมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว คือ ชื่อ-นามสกุล และที่อยู่ ก็มีผู้แสดงความคิดเห็นต่อท้ายข่าว มีทั้งการใส่ร้าย กล่าวหาด้วยถ้อยคำหยาบคาย และหลังจากนั้น 3-4 วัน ก็มีจดหมายและไปรษณียบัตรส่งมาถึงตนที่บ้าน โดยข้อความในจดหมายล้วนแต่เป็นคำหยาบ และมีการพาดพิงบุคคลอื่น

นอกจากนี้ก็มีโทรศัพท์มาข่มขู่ คุกคาม ซึ่งตนเชื่อว่าผู้ไม่หวังดีน่าจะค้นหาหมายเลขได้จากสมุดหน้าเหลือง หรือช่องทางอื่นๆ เพราะทราบที่อยู่ตนนั่นเอง เรื่องที่เกิดขึ้นตนจึงอยากทราบว่าเหตุใดทางตำรวจท้องที่จึงเปิดเผยข้อมูล ส่วนตัวให้กับสื่อมวลชนจนทำให้ตนได้รับความเดือดร้อน และต้องขอลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานด้วยเพื่อป้องกันเหตุ ตนยืนยันว่าที่ผ่านมา ได้เคลื่อนไหวในนามประชาชนไม่ได้ทำตามคำสั่งใคร หรือมีผู้ใดจ้างวานมาแต่อย่างใด

ขณะที่ พ.ต.ท.สุรชัยกล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องการสอบปากคำผู้ร้องไว้ ก่อนนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป ส่วนกรณีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานนั้นได้แนะนำผู้ร้องทุกข์ว่าควร จะดำเนินการในท้องที่ซึ่งมีที่พักอยู่จะดีกว่าเนื่องจากเป็นพื้นที่รับผิดชอบ และหากเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นทางตำรวจก็จะสามารถเข้าดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที
จดหมายข่มขู่

กำลังโหลดความคิดเห็น