xs
xsm
sm
md
lg

“ยิ่งลักษณ์” ลงพื้นที่ชัยนาท แนะผู้ว่าฯ คุมปล่อยน้ำ จี้ทหารสร้างแก้มลิงเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นายกฯ ควง รมว.กห. รมว.คค.ลงพื้นที่ชัยนาท ผู้ว่าฯ คาด ปีหน้าแก้มลิงเสร็จรองรับน้ำได้หมื่นไร่ ด้าน “ยิ่งลักษณ์” แนะควบคุมการปล่อยน้ำให้กระทบน้อยสุด พร้อมจี้ทหารสร้างแก้มลิงรับน้ำเพิ่ม ก่อนเดินสายเยี่ยมชาวบ้าน อ้างมาหาเพราะเป็นห่วง ยันเร่งเยียวยาจ่าย 5 พัน พร้อมค่าเสียหายไร่ละ 2,222 หาอาชีพเสริม






ที่กรมชลประทานที่ 12 จ.ชัยนาท นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม และ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัศน์ รมว.คมนาคม ลงพื้นที่ โดยนายกฯ กล่าวแสดงความห่วงใยอยากให้การดูแลอย่างทั่วถึง พร้อมกับรับฟังการในแก้ไข

ด้าน นายจำลอง โพธิ์สุ ผวจ.ชัยนาท รายงานว่า สำหรับพื้นทางการเกษตรได้รับผลกระทบแล้ว 5 อำเภอ 19 ตำบล 115 หมู่บ้าน จาก 509 หมู่บ้าน ใน จ.ชัยนาท สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นในส่วนของพื้นที่สาธารณะ พบว่า มีความเสียหายในส่วนของถนน สถานที่ราชการวัดวาอาราม ส่วนที่ได้เข้าพื้นที่หนักสุด คือ อำเภอสรรพยา ซึ่งอยู่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ขณะอำเภอที่อยู่เหนือเขื่อนอย่างอำเภอเมืองวัดสิงห์ และมโนรม เริ่มมีผลกระทบบ้างแล้ว โดยในส่วน 5 อำเภอที่เกิดปัญหาอุทกภัย ทางจังหวัดได้ช่วยเหลือบ้างแล้ว นอกจากนี้ แนวทางที่รัฐบาลได้มอบหมายไว้ให้ทางจังหวัดปฏิบัติการในการหาพื้นที่รองรับน้ำนั้น ทางจังหวัดมีพื้นที่ทำโครงการแก้มลิงแล้ว 11 โครงการ และในปี 55-56 จะสามารถจัดหาพื้นที่รองรับน้ำได้หนึ่งหมื่นไร่ ส่วนของพี่น้องเกษตรกรได้เร่งเก็บเกี่ยวข้าวตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งสามารถช่วยเหลือได้หนึ่งระดับ

ขณะที่นายกฯ ได้สอบถามการระบายน้ำในส่วนของเขื่อนเจ้าพระยา ที่จะมีการระบายสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และทะเล โดยเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่า น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนเจ้าพระยาสามารถระบายน้ำได้สูงสุด 2,800 ลบ.ม.ต่อวินาที โดยขณะนี้ปริมาณน้ำที่ปล่อยออกจากฝั่งซ้าย-ขวา และท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งในหน้าฝนนี้มาเร็วกว่าปกติ เพราะปกติแล้วภาคกลางฝนจะมาช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.ซึ่งเราต้องเผื่อพื้นที่ตรงนี้ไว้เป็นช่องว่างในการรับน้ำ

ขณะที่นายกฯ ได้ซักถามการชะลอการปล่อยน้ำของเขื่อน โดยเฉพาะจากตอนบน เนื่องจากขณะนี้น้ำฝนยังคงตกอยู่ ดังนั้น เราควรจะเตรียมการป้องกันในส่วนของพื้นที่ภาคกลาง เจ้าหน้าที่กรมชลฯ ชี้แจงว่า หากมีการปล่อยน้ำจะทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่การเกษตร

ในช่วงท้ายการประชุมนายกฯ กล่าวด้วยว่า อยากทราบทางออกของการแก้ไขปัญหา ขณะเดียวกัน ตนรู้ดีว่าได้พยายามแก้ไขกันอย่างเต็มที่แล้วในส่วนของการป้องกัน ขอให้ทางกรมชลฯ ระมัดระวังเรื่องของปริมาณน้ำ จะต้องควบคุมการปล่อยน้ำโดยให้กระทบพื้นที่ของประชาชนให้น้อยที่สุด และหากเกิดความเสียหายแล้ว ขอให้ทางจังหวัดประสานไปยังกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือประชาชน ทั้งในส่วนของสาธารณสุข และความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงการหาพื้นที่รองรับน้ำ ตนขอความร่วมมือไปยังกองพลทหารราบที่ 1 ในการหาพื้นที่ทำแก้มลิงเพื่อรองรับน้ำจากทางเหนือที่จะลงมาอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะฝากให้ ผวจ.บูรณาการ ในการดูแลปัญหา โดยให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอกำหนดจุดพื้นที่รับน้ำให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด ขอความร่วมมือทหารราบไปทำแก้มลิง

จากนั้น นายกฯพร้อมคณะได้เดินทางมายังวัดคงรสนิยม อำเภอสรรพยา เพื่อเยี่ยมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาอุทกภัยพร้อมมอบถุงยังชีพ เรือ สุขาลอยน้ำ โถส้วม โดยนายกฯได้กล่าวกับประชาชนตอนหนึ่ง ว่า ตนมาให้ด้วยความรู้สึกเป็นห่วงพี่น้อง ประชาชน เพราะตลอดเวลาที่ได้ติดตามข่าวจากการรายงานของ ผวจ.ที่เข้าไปยังศูนย์บัญชาการที่กระทรวงมหาดไทย ตนขอเรียนประชาชนว่า เราเองได้ติดตามปัญหา คณะเราจึงได้นำเรือ 50 ลำ และส้วมลอยน้ำ 25 ชุด และถุงยังชีพเข้ามาช่วยเหลือประชาชน เพราะรัฐบาลเร่งเห็นความต้องการ และความจำเป็นในพื้นที่ วันนี้ทุกหน่วยงานได้บูรณาการ ซึ่งถือว่าเป็นภารกิจที่สำคัญเพื่อไม่ให้น้ำท่วมไปมากกว่านี้

นายกฯ กล่าวต่อว่า ขณะนี้รัฐบาลได้เร่งเยียวยาประชาชนโดยเฉพาะเรื่องของเงินเยียวยา 5,000 บาท ที่จะมีการตัดจ่ายไม่เกิน 30 วัน หลังจากนี้ ส่วนของพื้นที่การเกษตรซึ่งตามระเบียบราชการแล้วจะมีการดูแลไร่ละ 600 บาท แต่รัฐบาลได้มีการปรับเป็นกรณีพิเศษให้ไร่ละ 2,222 บาท รวมถึงให้มีการประสานกับ ผวจ.กระทรวงแรงงานในการดูแลอาชีพเสริมให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้มีรายได้เสริม ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นการบูรณาการช่วยเหลือประชาชนแม้เราจะอยู่ใน กทม.แต่ก็ได้ติดตามข่าว พวกเราอยากแก้ไขปัญหา แต่หากพื้นที่ใดที่เห็นว่ารัฐบาลดูแลไปไม่ถึงขอให้แจ้งมายังศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือสายด่วน1111








กำลังโหลดความคิดเห็น