“พายัพ” เพิ่งนึกได้ พร้อมลงชื่อถวายฎีกาช่วย “พี่ชาย”

“พายัพ” อ้างพร้อมลงชื่อถวายฎีกาขออภัยโทษให้ “พี่ชาย” บอกไม่มีอะไรน่ากลัวหากอยากได้หลักฐานเพิ่มเติมก็พร้อมจัดให้ ชี้ญาติทุกๆคนพร้อมจะร่วมลงชื่อด้วย กั๊ก “ยิ่งลักษณ์” ร่วมยื่นเหตุตำแหน่งนายกฯ ค้ำคอ

วันนี้ 6 ก.ย. ที่พรรคเพื่อไทย นายพายัพ ชินวัตร น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดี และประธานภาคอีสาน ของพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ อดีต รมว.ยุติธรรม เรียกร้องให้แสดงความชัดเจนเรื่องลงชื่อถวายฏีกานิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า ตนพร้อมที่ร่วมเข้าชื่อเพื่อถวายฎีกาขออภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีอะไรน่ากลัวและถ้าหากอยากได้หรือต้องการหลักฐานอะไรเพิ่มเติม ก็พร้อมที่จะมอบให้ อย่างน้อยตนก็มีสิทธิในฐานะประชาชนคนหนึ่ง และในฐานะเป็นญาติก็สามารถร่วมยื่นได้ ซึ่งญาติทุกๆ คนก็พร้อมจะร่วมลงชื่อด้วย ในส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะร่วมยื่นหรือไม่ ก็เป็นสิทธิเนื่องจากมีตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ได้โพสต์ข้อเขียนในเฟซบุ๊กเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงได้ดำเนินการตั้งแต่ปี 2552 ว่า ที่ตรวจสอบล่าช้าเพราะมีผู้ร่วมลงนามกว่า 3 ล้านคน หากต้องการให้รวดเร็วเหตุใดจึงไม่ให้ภรรยาหรือบุตรหรือญาติชั้นใกล้ชิด เช่น พี่น้องของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ลงนาม ที่น่าประหลาดใจพบว่าผู้ลงชื่อมีตัวตนถูกต้องเพียง 2 ล้านชื่อ มี 3 คนที่ใช้นามสกุล “ชินวัตร” โดยทั้ง 3 คนนั้นมีเพียงชื่อ แต่มิได้ลงนามด้วย คือ นายพายัพ ชินวัตร หากนายพายัพลงนามมาเรื่องก็จบ และเมื่อทำหนังสือสอบถามไปยังบุคคลทั้ง 3 มีผู้ตอบกลับมาเพียงรายเดียวว่าประสงค์จะทูลเกล้าฯ แต่พบว่าไม่มีความสัมพันธ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเข้าลักษณะเป็นผู้ที่มีประโยชน์เกี่ยวข้องตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย ส่วนนายพายัพและอีกบุคคลหนึ่งไม่ตอบกลับมา ตนจึงสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ติดต่อสอบถามไปยังนายพายัพและอีกบุคคลหนึ่งอีกครั้ง ในช่วงต้นปี 2554 จนตนพ้นตำแหน่งรัฐมนตรี กรมราชทัณฑ์ก็ไม่ได้รายงานความคืบหน้ามา

“ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่จะต้องชี้แจงว่าบุคคลทั้ง 3 ราย รวมทั้งนายพายัพ ได้ลงชื่อถูกต้องแล้วหรือไม่ และทั้ง 3 คนมีความสัมพันธ์เข้าลักษณะของการเป็นผู้ที่มีประโยชน์เกี่ยวข้องตามหลักเกณฑ์กฎหมายแล้วหรือไม่อย่างไร กรมราชทัณฑ์ พล.ต.อ.ประชา และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่าจะถวายความเห็นตามขั้นตอนต่อพระมหากษัตริย์ ว่าไม่ควรพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนกับที่เคยปฏิบัติในกรณีอื่นหรือไม่ ส่วนการดำเนินการของบุคคลใดในกรณีนี้ จะเข้าลักษณะเป็นความผิดฐานเป็นการช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 หรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 หรือไม่ เป็นเรื่องที่คงต้องว่ากันอีกยาว เพราะมีอายุความของคดีนี้ 10-15 ปี” นายพีระพันธุ์กล่าว