xs
xsm
sm
md
lg

“ปู่ชัย” เชียร์ รบ.ปู นิรโทษฯ “แม้ว” โบ้ยขออภัยโทษ ไม่ใช่เรื่องใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชัย ชิดชอบ
พ่อเนวิน หนุน รบ.แก้กฎหมายนิรโทษกรรม ช่วย “แม้ว” พ้นผิด ชี้ ความผิดไม่ร้ายแรง ชงเสนอ พ.ร.บ.ล้างมลทิน ฉลองในหลวงทรงมีพระชนมพรรษา 84 พรรษา ด้านโฆษกภูมิใจห้อย ซัดแดง 2 ล้านชื่อ ถวายฎีกา ช่วย “แม้ว” หวั่นระคายเคืองเบื้องยุคลบาท เหตุ ล่าชื่อผิดไปล้านกว่า ต้องผิดทั้งหมด เปรียบเสมือน “ผลไม้ที่เป็นพิษย่อมเกิดจากต้นไม้เป็นพิษ”

วันนี้ (6 ก.ค.) นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย และอดีตประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นเรื่องที่สามารถทำได้อยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร อีกทั้งการอภัยโทษเป็นเรื่องที่มีมาทุกยุคทุกสมัย ในอดีต นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ เคยปราศรัยจาบจ้วงสถาบันอย่างหนัก ก็ได้รับการอภัยโทษ หรือกรณีนักโทษประหารเด็ดขาด ก็ยังได้รับการอภัยโทษได้ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกพิพากษาจำคุกเพียง 2 ปี ไม่ได้ร้ายแรง ขนาดนักโทษประหารก็น่าจะได้รับการอภัยโทษเช่นกัน ดังนั้น หากมีการเสนอทูลเกล้าฯขออภัยโทษจริง เรื่องนี้จึงถือเป็นพระราชอำนาจ และเรื่องดังกล่าวคงไม่ใช่การกดดันให้ทรงต้องใช้พระราชอำนาจ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้หากจะดำเนินการทางคณะองคมนตรีจะต้องคอยให้คำปรึกษาต่อพระองค์ท่านอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ควรกลับมารับโทษบางส่วนก่อนขอรับอภัยโทษหรือไม่ นายชัยกล่าวว่า การขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาติดคุก เมื่อเทียบกับการที่ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงไปทั่วโลก ซ้ำยังต้องถูกมองว่า ทุจริตต่อประเทศชาติอย่างนี้ ยังไม่หนักกว่าการถูกต้องโทษคุมขังอีกหรือ ถามว่า ยังต้องให้มาติดคุกอีกทำไม แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

“เราอย่าไปทำให้เรื่องมันยุ่งยากไปกว่านี้ ถ้าจบปัญหาได้แล้วประเทศชาติสงบปรองดองก็เป็นเรื่องดี เรื่องนี้ตนเคยคิดจะทำตั้งแต่สมัยยังเป็นประธานสภาด้วยซ้ำไป อย่างไรก็ตาม ถ้ารัฐบาลไม่อยากจะให้มีปัญหาต้องมาตีความว่าต้องมารับโทษหรือไม่ต้องรับโทษ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สามารถมอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นผู้เสนอแก้กฎหมายนิรโทษกรรม” นายชัย กล่าวและว่า ในมาตรา 47 ของรัฐธรรมนูญ โดยแก้ให้ไม่จำเป็นต้องติดคุกต่อสภาไปเลย โดยเสนอเป็นวาระเร่งด่วนแบบ 3 วาระรวด ร.ต.อ.เฉลิม จะเสนอแบบปากเปล่าก็ยังได้ เพราะรัฐบาลก็มีเสียงข้างมากเพียงพอที่จะดำเนินการได้อยู่แล้ว อีกทั้งวิธีนี้ไม่ต้องไปสิ้นเปลืองงบประมาณประเทศชาติ ในการตั้ง ส.ส.ร.3 ขึ้นมาเพื่อแก้กฎหมายเพียงมาตราเดียว

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องทำประชามติสอบถามประชาชนก่อนหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า จะถามก่อนก็ได้ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีฐานเสียงอยู่แล้ว 15 ล้านเสียง ยังไงกฎหมายเรื่องนี้ก็ต้องผ่านอยู่ดี และเรื่องนี้ถ้าตนมีโอกาสก็อยากจะลุกขึ้นพูดในสภาเช่นกัน เพราะมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร เราไม่ควรไปคิดตั้ง ส.ส.ร.ให้สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน

เมื่อถามว่า รัฐบาลดำเนินการเรื่องนี้เร็วเกินไปหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า การแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่เรื่องการแก้กฎหมายเพื่อนิรโทษกรรมก็สามารถทำควบคู่กันไปได้ ไม่ได้มีอะไรเสียหาย

ด้าน นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรค กล่าวภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส. ของพรรค ว่า ที่ประชุมมีมติเสนอร่าง พ.ร.บ.ล้างมลทิน เนื่องในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษา 84 พรรษา พ.ศ.2554 ต่อรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ย.) โดยร่าง พ.ร.บ.นี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.2554 เป็นต้นไป โดยจะเป็นการล้างมลทินให้แก่บรรดาผู้ต้องโทษ ในกรณีความผิดต่างๆ ซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 5 ธ.ค.2554 และได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่ร่าง พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษในกรณีความผิดนั้นๆ นอกจากนี้ ยังมีผลให้ล้างมลทินแก่บรรดาผู้ถูกลงโทษทางวินัย บรรดาผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการอันมิใช่การลงโทษทางวินัย รวมถึงกรณีกระทำผิดวินัย ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้สั่งยุติเรื่องหรืองดโทษก่อน หรือในวันที่ 5 ธ.ค.2554 ให้ผู้นั้นไม่ต้องถูกพิจารณาเพิ่มโทษ หรือถูกดำเนินการทางวินัยในกรณีนั้นๆ ต่อไป

นายศุภชัย กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเคยดำเนินการมาแล้วเมื่อปี 2550 ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยวัตถุประสงค์ของกฎหมายดังกล่าวต้องการที่จะล้างประวัติของบุคคลที่เคยถูกคำสั่งของศาลให้ลงโทษ หรือกักกัน เนื่องจากการทำผิดวินัยทางกฎหมาย รวมถึงระเบียบข้อบังคับทางราชการต่างๆ ที่บรรดาข้าราชการเคยโดนคำสั่งลงโทษทางวินัย โดยบุคคลเหล่านี้สามารถกลับเข้ารับราชการได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า กฎหมายดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับกรณีนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด

นายศุภชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า การขอพระราชทานอภัยโทษไม่จำเป็นต้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องกลับมาติดคุกก่อน ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เคยพูดหลายครั้ง ว่า จะไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้กับใครคนใดคนหนึ่ง โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่สิ่งที่ ร.ต.อ.เฉลิม ออกมาแสดงความคิดเห็นนั้น บอกว่า ได้รับมอบหมายมาจากนายกรัฐมนตรี ตรงนี้ถือว่าเป็นการสวนทางกัน ทั้งนี้ ตามหลักผู้มีสิทธิที่ขอพระราชทานอภัยโทษ มี 3 บุคคล คือ เจ้าตัว ญาติ ครอบครัว หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และ รมว.ยุติธรรม ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้เสียงประชาชน 2-3 ล้านคนมาเข้าชื่อ อย่างไรก็ตาม หาก พ.ต.ท.ทักษิณ หรือญาติพี่น้อง ไม่ขอพระราชทานอภัยโทษ ก็ต้องดูว่า รมว.ยุติธรรม จะทำเรื่องเสนอไปหรือไม่ ซึ่งหากทำจริงก็จะขัดแย้งกับที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พูดไว้

นายศุภชัย กล่าวว่า หากจะยึดหลักที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะนักอาชญวิทยา ที่ชอบพูดว่า “Poisonous fruit poisonous Tree” ที่แปลว่า “ผลไม้ที่เป็นพิษย่อมเกิดจากต้นไม้เป็นพิษ” อยากถามว่า การที่คนเสื้อแดงเข้าชื่อกว่า 3 ล้านคน แต่จากการตรวจสอบความถูกต้อง มีแค่ 2 ล้านคน เสียหายไปถึง 1 ล้านคน ตรงนี้ถือว่ารายชื่อเสียหายทั้งหมดหรือไม่ หากต้องแนบรายชื่อที่เหลือเข้าไปด้วยจะเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทหรือไม่

“การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะมาติดคุกหรือไม่ ถือเป็นประเด็นรอง แต่การที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษามีบทลงโทษไปแล้ว และรัฐบาลก็กลับจะมาขออภัยโทษ แสดงให้เห็นว่า อำนาจบริหารไม่ยอมรับอำนาจกระบวนการยุติธรรม ทำลายระบอบนิติธรรม ที่สำคัญ วันนี้ยังมีนักโทษจำนวนมากที่ถูกจองจำ และคิดว่าตัวเองไม่ผิด ทำไมรัฐบาลถึงคิดจะช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงคนเดียว ต้องไม่ลืมว่าก่อนหน้าที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็สู้คดีอย่างเต็มที่ จ้างทนายราคาแพง การพิพากษาก็ไม่ได้ทำลับหลัง เมื่อศาลพิพากษาคุณกลับไม่ยอมรับ วันนี้ จึงเป็นการท้าทายนายกรัฐมนตรีที่จะรักษาบ้านเมืองเอาไว้หรือตัดสินใจช่วยพี่ชาย”โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวและว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับการอภัยโทษกรณีที่ดินรัชดาฯ ก็ยังมีอีกหลายคดีอีกมากที่ต้องต่อสู้ และถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับความเป็นธรรม ก็ยังมีนักโทษที่หลบหนีไปต่างประเทศ อาทิ นายปิ่น จักกะพาก ก็ควรได้รับความเป็นธรรมด้วย แล้วแบบนี้บ้านเมืองจะอยู่ได้อย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น