xs
xsm
sm
md
lg

หนุนนิรโทษฯ ภูมิใจห้อยส่งซิกสวามิภักดิ์"แม้ว" "เหลิม"แถสีข้างไม่จำเป็นต้องติดคุก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-"ภูมิใจห้อย"ส่อสวามิภักดิ์"แม้ว" หลัง"ปู่ชัย"หนุนแก้กฎหมายนิรโทษกรรม เหตุความผิดไม่ร้ายแรง พร้อมดันร่างพ.ร.บ.ล้างมลทิน เข้าสภาวันนี้ อ้างเป็นการฉลอง 84 พรรษาในหลวง "เหลิม" ย้ำ กฎหมายไม่ได้บอกว่าต้องติดคุกจึงขอพระราชทานอภัยโทษได้ ปชป.ชี้การเมืองเริ่มร้อนแรง เมื่อรัฐบาลลุแก่อำนาจ ชี้มี 2 กรณีที่จะได้รับอภัยโทษ คือ ติดคุกกับตาย

นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิไทย และอดีตประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า เป็นเรื่องที่สามารถทำได้อยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร อีกทั้งการอภัยโทษเป็นเรื่องที่มีมาทุกยุคทุกสมัย ในอดีต นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ เคยปราศรัยจาบจ้วงสถาบันฯ อย่างหนัก ก็ได้รับการอภัยโทษ หรือกรณีนักโทษประหารเด็ดขาด ก็ยังได้รับการอภัยโทษได้ แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกพิพากษาจำคุกเพียง 2 ปี ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนักโทษประหาร ก็น่าจะได้รับการอภัยโทษเช่นกัน ดังนั้น หากมีการเสนอทูลเกล้าฯ ขออภัยโทษจริง เรื่องนี้จึงถือเป็นพระราชอำนาจ และเรื่องดังกล่าวคงไม่ใช่การกดดันให้ทรงต้องใช้พระราชอำนาจ

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้หากจะดำเนินการ ทางคณะองคมนตรีจะต้องคอยให้คำปรึกษาต่อพระองค์ท่านอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ควรกลับมารับโทษบางส่วนก่อนขอรับอภัยโทษหรือไม่ นายชัยกล่าวว่า การขอให้พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาติดคุก เมื่อเทียบกับการที่ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงไปทั่วโลก ซ้ำยังต้องถูกมองว่าทุจริตต่อประเทศชาติอย่างนี้ ยังไม่หนักกว่าการถูกต้องโทษคุมขังอีกหรือ ถามว่ายังต้องให้มาติดคุกอีกทำไม แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

"เราอย่าไปทำให้เรื่องมันยุ่งยากไปกว่านี้ ถ้าจบปัญหาได้แล้วประเทศชาติสงบปรองดอง ก็เป็นเรื่องดี เรื่องนี้ผมเคยคิดจะทำตั้งแต่สมัยยังเป็นประธานสภาด้วยซ้ำไป ถ้ารัฐบาลไม่อยากจะให้มีปัญหาต้องมาตีความว่า ต้องมารับโทษหรือไม่ต้องรับโทษ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สามารถมอบหมายให้ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอแก้กฎหมายนิรโทษกรรมได้"นายชัยกล่าว และว่าในมาตรา 47 ของรัฐธรรมนูญ โดยแก้ให้ไม่จำเป็นต้องติดคุกต่อสภาไปเลย โดยเสนอเป็นวาระเร่งด่วน แบบ 3วาระรวด ร.ต.อ.เฉลิม จะเสนอแบบปากเปล่าก็ยังได้ เพราะรัฐบาลก็มีเสียงข้างมากเพียงพอที่จะดำเนินการได้อยู่แล้ว อีกทั้งวิธีนี้ไม่ต้องไปสิ้นเปลืองงบประมาณประเทศชาติ ในการตั้งส.ส.ร.3 ขึ้นมาเพื่อแก้กฎหมายเพียงมาตราเดียว

**ชงพ.ร.บ.ล้างมลทินฉลองในหลวง 84 พรรษา

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส. ของพรรค ว่า ที่ประชุมมีมติเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ล้างมลทิน เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระชนมพรรษา 84 พรรษา พ.ศ. 2554 ต่อรัฐสภา ในวันนี้ (7ก.ย.) โดยร่าง พ.ร.บ. นี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.2554 เป็นต้นไป โดยจะเป็นการล้างมลทินให้แก่บรรดาผู้ต้องโทษในกรณีความผิดต่างๆ ซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 5 ธ.ค.2554 และได้พ้นโทษไปแล้ว ก่อนหรือในวันที่ร่าง พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษ ในกรณีความผิดนั้นๆ

นอกจากนี้ ยังมีผลให้ล้างมลทินแก่บรรดาผู้ถูกลงโทษทางวินัย บรรดาผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการ อันมิใช่การลงโทษทางวินัย รวมถึงกรณีกระทำผิดวินัย ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้สั่งยุติเรื่อง หรืองดโทษก่อนหรือในวันที่ 5 ธ.ค.2554 ให้ผู้นั้นไม่ต้องถูกพิจารณาเพิ่มโทษ หรือถูกดำเนินการทางวินัยในกรณีนั้นๆ ต่อไป

สำหรับเรื่องดังกล่าว เคยดำเนินการมาแล้วเมื่อปี 2550 ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยวัตถุประสงค์ของกฎหมายดังกล่าวต้องการที่จะล้างประวัติของบุคคลที่เคยถูกคำสั่งของศาลให้ลงโทษ หรือกักกันเนื่องจากการทำผิดวินัยทางกฎหมาย รวมถึงระเบียบข้อบังคับทางราชการต่างๆ ที่บรรดาข้าราชการเคยโดนคำสั่งลงโทษทางวินัย โดยบุคคลเหล่านี้สามารถกลับเข้ารับราชการได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ากฎหมายดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับ กรณีนิรโทษกรรมพ.ต.ท.ทักษิณ แต่อย่างใด

** "เหลิม"ย้ำไม่ต้องติดคุกก็อภัยโทษได้

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการเทียบเคียงกับพระราชกฤษฎีกาว่า ผู้ที่จะขอพระราชทานอภัยโทษ จะต้องรับโทษก่อนว่า เรื่องนี้ต้องทบทวน และค้นหาความจริง เพราะประชาชน 3.6 ล้านคน ได้รวบรวมรายชื่อ และไปยื่นต่อสำนักพระราชวังเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สำนักพระราชวังรับเรื่อง และได้ส่งเรื่องมาให้กระทรวงยุติธรรมตรวจสอบ จากนั้นส่งต่อไปกรมราชทัณฑ์ และเรื่องก็เงียบหายไป อย่างไรก็ตาม หากคนอ่านกฎหมายไม่หมด และไม่ตรวจสอบให้ละเอียด จะเข้าใจได้ไม่ชัดเจน ก็จะแสดงความคิดเห็นในลักษณะที่ขัดแย้งกัน

"ผมได้ตรวจสอบแล้วว่ากฎหมายไม่มีห้าม ที่อ้างพระราชกฤษฎีกา 2550 มาตรา 4 มาตรา 5 หรือมาตราที่เกี่ยวข้อง นั่นเป็นกรณีเฉพาะราย ทั้งนี้ ในมาตรา 4 และ มาตรา 5 เป็นวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อคนตกทุกข์ได้ยาก จึงมีการออกพระราชกฤษฎีกา 2550 กำหนดกฎเกณฑ์และมีคณะกรรมการที่จะพิจารณา นั่นเป็นกรณีๆ ไป ไม่ใช่กรณีเหมารวม”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่าการพระราชอภัยโทษเป็นพระราชอำนาจ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ถูกต้อง และคนอื่นไม่ควรออกมาพูด และตนยังไม่เห็นว่าสำนักพระราชวังที่ส่งเรื่องให้กระทรวงยุติธรรมได้สั่งการว่าอย่างไร แต่เมื่อมาถามตนว่า หลักกฎหมายห้ามหรือไม่ ซึ่งกฎหมายไม่ห้าม การมาอ้างพระราชกฤษฎีกา 2550 มาตรา 4 มาตรา 5 นั่นเป็นกรณีเฉพาะรายไม่ใช่หลักทั่วไป โดยหลักการแล้ว พระราชกฤษฎีกามีศักดิ์ศรีของกฎหมาย เล็กกว่า พระราชบัญญัติ

เมื่อถามว่า ตามขั้นตอนแล้ว หากสำนักพระราชวังส่งเรื่องให้กระทรวงยุติธรรม จากนั้นจะต้องรายงานมาที่ท่านหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ตนเป็นคนรับผิดชอบเรื่องอภัยโทษ ใครจะขออภัยโทษ ก็ต้องผ่านตนที่จะต้องตรวจสอบ ทั้งนี้ ยังไม่ได้มีการส่งเรื่องมา แต่การที่มีข่าวออกมา เป็นเรื่องของคนบางกลุ่มบางเรื่อง มีวาระซ่อนเร้น ที่หยิบยกประเด็นนี้และมาปล่อยข่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการให้สัมภาษณ์ ร.ต.อ.เฉลิม ได้แจกเอกสารสำเนาพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2550 พร้อมกับอ่านว่า “เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 นับเป็นอภิลักษณ์กฤตการณ์สำคัญ สมควรพระราชทานอภัยโทษแด่ผู้ต้องราชทัณฑ์”

เมื่อถามว่า มีแนวโน้มหรือไม่ว่า วันที่ 5 ธันวาคม จะมีการขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะเรื่องยังไม่มาถึงตน อย่างไรก็ตาม พระราชกฤษฎีกาในแต่ละปี มีความแตกต่างกันออกไป ในเรื่องกฎเกณฑ์ที่จะส่งพิจารณา

**"พายัพ"พร้อมลงชื่อฎีกาช่วย"พี่ชาย"

นายพายัพ ชินวัตร น้องชายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และประธานส.ส.ภาคอีสาน ของพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรมว.ยุติธรรม ระบุว่า ถ้าไม่มีญาติยื่นถวายฎีกาขออภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณด้วย ก็ถือเป็นการยื่นที่ไม่ถูกกฎหมาย เรื่องจะเดินต่อไปไม่ได้ โดยหนึ่งในนั้นมีชื่อนายพายัพ ชินวัตร ที่ไม่มีการยืนยันกลับมาว่า จะยื่นเรื่องดังกล่าว และพร้อมที่ร่วมเข้าชื่อเพื่อถวายฎีกาขออภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีอะไรน่ากลัว และถ้าหากอยากได้ หรือต้องการหลักฐานอะไรเพิ่มเติม ก็พร้อมที่จะมอบให้ อย่างน้อย ตนก็มีสิทธิ์ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง และในฐานะเป็นญาติ ก็สามารถร่วมยื่นได้ ซึ่งญาติทุกๆ คนก็พร้อมจะร่วมลงชื่อด้วย ในส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะร่วมยื่นหรือไม่ ก็เป็นสิทธิ เนื่องจากมีตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่

**"เทือก"จวก"ประชา"บังอาจ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎ์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ปกติจะผู้ที่จะขออภัยโทษต้องรับโทษก่อน แต่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม กลับระบุว่า แล้วแต่กรณีว่า ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะต้องยอมรับว่า เมื่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาเป็นนายกฯ คนไทยจำนวนหนึ่งก็กังวลใจอยู่แล้วว่า เข้ามาจะทำเพื่อประโยชน์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ทำเพื่อญาติ ไม่ได้คิดถึงกฎเกณฑ์ กติกา ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมที่ดีงามของบ้านเมืองหรือไม่ คนไทยก็ตั้งคำถามอยู่แล้ว พอมาเป็นนายกฯ ยังไม่ทันได้ถวายสัตย์ รมว.ต่างประเทศ ก็ไปวิ่งเต้นให้ประเทศญี่ปุ่นออกวีซ่าให้ พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว พอไม่ทันไร ก็แต่งตั้ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่ชายของภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ เป็น ผบ.ตร.อีก ไม่ทันไรก็จะมายื่นถวายฎีกา เพื่อขออภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณอีก อย่างนี้ประชาชนที่ติดตามตามข่าวคงไม่ค่อยชอบใจ

"เป็นการผิดธรรมเนียมปฏิบัติ เพราะคนที่จะได้รับอภัยโทษ ต้องเป็นผู้ที่ต้องโทษ และรับโทษอยู่ เช่น ถูกศาลพิพากษาจำคุก ก็ยอมเข้ารับการจำคุก แล้วก็ปฏิบัติตัวดี ขอทำเรื่องมาตามลำดับจากกรมราชทัณฑ์ มากระทรวงยุติธรรม ขึ้นมาสำนักนายกฯ กราบบังคมทูลว่า ได้สำนึกในความผิดแล้ว ได้ประพฤติตัวดี เคยทำคุณงามความดีอย่างไร ก็ว่าไป ก็ขออภัยโทษเพื่อขอลดโทษลง ก็สุดแล้วแต่จะมีพระราชวินิจฉัย ประเพณีเขาปฏิบัติมาอย่างนั้น การที่อยู่ๆ ไม่ได้ทำตามนั้น เป็นเรื่องที่ไม่สมควร ไม่บังควรที่จะทำอย่างนั้น แต่ร.ต.อ.เฉลิม ก็เป็นคนที่ไม่ค่อยฟังใครอยู่แล้ว เราก็คอยดูว่า เขาจะทำอย่างไรต่อ" นายสุเทพ กล่าว

** นิรโทษกรรมได้ 2 กรณี "ตาย-ติดคุก"

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ สั่งการไปยังเครือข่ายของพรรคเพื่อไทย หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ให้ยุติการกระทำจาบจ้วง ล่วงละเมิด ในกรณีการขอพระราชทานอภัยโทษให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะล่าสุดสำนักพระราชวังออกมาระบุแล้วว่า จะอภัยโทษบุคคลได้ใน 2 กรณี คือ เสียชีวิตหรือติดคุกเท่านั้น ดังนั้น ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการให้ได้รับการอภัยโทษ จะต้องทำ 2 กรณีดังกล่าว

**"บัญญัติ"ชี้การเมืองเริ่มร้อนแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในที่ประชุมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเย็นวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองขณะนี้ว่า เหตุการณ์การเมืองขณะนี้ควรที่ส.ส.ของพรรคทุกคนต้องจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการท้าทายต่อกระแสสังคม หลายกรณีที่เขาไม่ควรทำ เขาก็ทำ รัฐบาลทำทุกเรื่องที่ตั้งเป้าหมายไว้แล้ว โดยไม่รอเวลา ดูเหมือนไม่ต้องไปเกรงใจใครแล้ว ไม่ว่าหน้าไหน มีการใช้อำนาจในด้านต่างๆ ทั้งกรณี ผบ.ตร. เลขาฯ สมช. และล่าสุด คือ กรณีถวายฎีกาช่วยคนบางคน
กำลังโหลดความคิดเห็น