“สุทธิพล” เตรียมลาออกเลขาฯ กกต.19 ก.ย.นี้ เตรียมวางกรอบทำงานใน กสทช.ภายใน 15วันภารกิจแรกเร่งทำแผนแม่บท เชื่อกรรมการ กสทช.ไม่มีผลประโยชน์ เตรียมจัดระเบียบวิทยุชุมชนให้เป็นระบบ
วันนี้ (6 ก.ย.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ ว่าที่กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสชท.) กล่าวภายหลังได้รับเลือกโดยวุฒิสภาว่า โดยมีว่าที่ กสทช.บางคนได้มีการประสานอย่างไม่เป็นทางการถึงการนัดประชุมเพื่อเลือกประธานและรองประธาน กสทช.แล้ว ทั้งนี้ ว่าที่ กสทช.ส่วนใหญ่ยังคงรอการแจ้งผลการลงมติสรรหาอย่างเป็นทางการจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาก่อนเพื่อกำหนดวันนัดหมาย ส่วนตัวได้ศึกษาแนวทางและข้อมูลของว่าที่ กสทช.แต่ละท่านเพื่อจะได้ทราบว่ามีท่านใดบ้างประสงค์จะมาเป็นประธานกสทช.
นายสุทธิพลกล่าวอีกว่า สำหรับตำแหน่งประธาน กสทช.ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีผู้ใดเสนอตัวเป็นประธานบ้าง ทั้งนี้ ภายใน 15 วันหลังการได้รับเลือกคงมีการวางแนวทางและกำหนดกรอบการทำงาน รวมถึงมีความชัดเจนในตำแหน่งประธานเพื่อเสนอเรื่องให้นายกรัฐมนตรี
“เข้าใจว่ามีความหวังของสังคมมีมากเราต้องไม่ทำให้สังคมผิดหวัง ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้จุดเด่นของบอร์ดที่แต่ละคนมีความหลากหลายสามารถบูรณาการความชำนาญแต่ละด้านเข้ามาทำงานด้วยกันให้สอดประสานกันเพื่อขับเคลื่อนนโยบายและสิ่งที่ประชาชนคาดหวัง” นายสุทธิพลกล่าว
เมื่อถามว่าได้เตรียมลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการ กกต.อย่างไร นายสุทธิพลกล่าวว่า ตนได้เริ่มวางงานที่รับผิดชอบบางส่วนแล้ว สำหรับการลาออกจะดำเนินการตามกรอบเวลาซึ่งวันสุดท้ายคือวันที่ 19 ก.ย.
ว่าที่ กสทช.กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่อาสามาเป็นประธาน กสทช.คงต้องมีการรับฟังวิสัยทัศน์เพราะ กสทช.ทุกคนมีหนึ่งเสียงเท่ากัน บอร์ด กสทช.มีความสำคัญที่ต้องรับผิดชอบงานและดูแลกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพราะกองทุนมีผลประโยชน์มาก สังคมเองก็คาดหวังให้กองทุนทำประโยชน์ให้กิจการทุกด้าน ดังนั้นการทำงานทุกเรื่องต้องมุ่งให้เกิดประโยชน์สูงสุด และให้เป็นไปภายใต้กรอบของกฎหมาย
เมื่อถามว่าผู้จะมาเป็นประธาน กสทช.ควรมีคุณสมบัติอย่างไร นายสุทธิพลกล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าผู้ที่จะเป็นประธานต้องไม่เป็นเผด็จการโดยต้องรับฟังความคิดเห็นของกรรมการทุกคน ผู้ที่เป็นประธาน กสทช.เป็นปะมุขขององค์กรไม่ได้มีอำนาจมากกว่ากรรมการคนใดเป็นเพียงบุคคลที่ทำหน้าที่เรียกประชุม การทำงานกำกับดูแลด้านต่างๆ บอร์ดทั้งหมดจะต้องร่วมกันทำงาน เมื่อถามถึงกรณีที่ว่าที่กสทช.บางคนอยู่ระหว่างถูกร้องเรียนในกระบวนการยุติธรรมจะเป็นปัจจัยที่ต้องเอามาพิจารณาคนที่จะเป็นประธานหรือไม่ นายสุทธิพลกล่าวว่า ตนไม่ได้มองถึงขั้นนั้น ตนมองแค่การรับฟังความคิดเห็นของกรรมการด้วยกัน การเปิดใจและใจกว้างให้กรรมการทุกคนมีส่วนร่วมเพื่อตัดสินใจร่วมกัน ทิฐิต้องไม่มี อัตตาต้องไม่มี ต้องรับฟังความคิดเห็นกัน
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่กสทช.มีคนจากกองทัพเป็นกรรมการเกือบครึ่งหนึ่งของบอร์ดทั้งหมด นายสุทธิพลกล่าวว่า ตนคิดว่าควรต้องเคารพดุลยพินิจของวุฒิสภา โดยกรรมการทุกคนมาตามกรอบกติกาและกระบวนการสรรหา แม้จะมีบุคคลในเครื่องแบบหลายคนแต่หลายท่านมีความรู้ความชำนาญพิเศษและมีความสามารถเชิงวิชาการ ตนเห็นว่าควรให้โอกาสรอดูการทำงานของก สทช. เพราะกสทช.คนเดียวไม่สามารถทำงานได้แต่ต้องทำงานร่วมกัน โดยกสทช.จะรับฟังข้อชี้แนะเพื่อส่งเสริมให้เกิดประโยชน์กับทุกภาคส่วน
เมื่อถามว่าการปฏิรูปโครงสร้างคลื่นความถี่จะมีปัญหาหรือไม่เมื่อว่าที่ กสทช.เกือบครึ่งมาจากกองทัพซึ่งมีผลประโยชน์ในเรื่องเหล่านี้ค่อนข้างสูง นายสุทธิพลกล่าวว่า กฎหมายได้กำหนดแนวทางในการจัดสรร กำกับดูแลคลื่นความถี่ไว้ครบหมดแล้ว ตนเชื่อว่ากรรมการทุกคนจะคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก หลายเรื่องกฎหมายได้กำหนดแนวทางและเวลาที่จะแก้ไขไว้หมดแล้วเมื่อมองจากช่องทางของกฎหมายเชื่อว่าทุกอย่างจะเดินหน้าไปได้ ไม่น่าจะมีปัญหา
เมื่อถามถึงกระแสข่าว กสทช.ที่ได้รัเลือกมาจากการล็อบบี้มาก นายสุทธิพลกล่าวว่า ส่วนตัวไม่เคยให้ขั้วอำนาจที่ไหนล็อบบี้ เพียงแต่มีการแนะนำคัวและร่วมกิจกรรมเพื่อแนะนำตัวให้ส.ว.บางคนที่ไม่รู้จักได้รู้จัก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติและอยู่ในกรอบของกฎหมาย การลงมติเป็นเรื่องของดุลยพินิจตนเชื่อว่าไม่มีใครที่ไหนจะไปบังคับ ส.ว.ให้ลงมติเลือก กสทช.ได้ สังคมจึงควรให้โอกาสคนที่ได้รับการสรรหาได้ทำงานแล้วค่อยตรวจสอบประเมินผลให้ข้อชี้แนะเพื่อทำให้ภาระกิจที่รออยู่สามารถขับเคลื่อนไปได้
เมื่อถามว่า คิดว่างานด้านใดบ้างที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนหลังรับตำแหน่ง นายสุทธิพลกล่าวว่า เรื่องเร่งด่วนน่าจะเป็นภารกิจตามกฎหมาย เช่น การทำแผนแม่บทเพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนากิจการด้านต่างๆ และการแก้ไขปัญหาของประเทศเช่นสิ่งที่ทุกคนรอคอยเช่นการประมูลใบอนุญาตให้บริหารเครือข่าย 3 จี ประเด็นสำคัญคือ การกำหนดแนวทางการทำงานของบอร์ดให้ชัดเจนเพราะประชาชนคาดหวังการทำหน้าที่ของ กสทช. โดยบอร์ดต้องสร้างศรัทธาให้เกิดกับประชาชนด้วยการทำงานให้ดีที่สุดเนื่องจาก กสทช.มาจากส่วนต่างๆ จึงต้องร่วมกันสร้างศรัทธาให้เกิดขึ้นให้ได้
เมื่อถามว่าจะดูแลเรื่องวิทยุชุมชนอย่างไร นายสุทธิพลกล่าวว่า ตัววิทยุชุมชนเป็นเรื่องที่ดี แต่การนำมาใช้บางส่วนผิดวัตถุประสงค์ บางคนมองว่าวิทยุชุมชนเป็นผู้ร้ายซึ่งไม่ใช่ความจริง กสทช.คงช่วยกันวางระบบและมีองค์กรที่ดูแลกันเองได้ กสทช.คงไม่เข้าไปควบคุมแต่เป็นผู้สนับสนุนทางเทคนิคมากกว่า ทั้งนี้ กฎหมายมีบทเฉพาะกาลกำหนดถึงช่วงเวลาของการปรับเปลี่ยน ซึ่ง กสทช.ต้องให้เวลากับทุกฝ่าย ขณะเดียวกันต้องรับฟังความคิดเห็น กสทช.ต้องใช้อำนาจควบคู่กับการสนับสนุนโดยต้องจริงใจ ตนเชื่อว่าหากเอาจุดเด่นของ กสทช.ทุกคนมาร่วมกันจะสามารถขับเคลื่อนองค์กรไปได้