“ยุทธศักดิ์” ชี้ยังไม่มีสัญญาณเปลี่ยนโผทหาร โต้ “ไอ้ตู่” มั่วข้อมูลล้มรัฐบาล

“ยุทธศักดิ์” ระบุยังไม่มีสัญญาณเปลี่ยนโผทหาร รับกฎหมายจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ทำการเมืองแทรกแซงโยกย้ายยากขึ้น โต้ “ไอ้ตู่” มั่วข้อมูล ยันไม่มีอำนาจนอกระบบล้มรัฐบาล เผยพร้อมของบฯ รัฐบาลสานต่อโครงการซื้ออาวุธกองทัพบก ส่วนเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ขอดูรายละเอียดก่อน


พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ใหัสัมภาษณ์ระหว่างเดินทางตรวจเยี่ยมกองทัพบก เพื่อมอบนโยบายในการปฏิบัติงานเนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ถึงความคืบหน้าบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารว่า ทุกอย่างเรียบร้อย ขณะนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่เรียก ผบ.เหล่าทัพ พูดคุย จนกระทั่งวันนี้ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง และยังไม่ถึงเวลาที่ปลัดกระทรวงกลาโหมจะส่งมาให้ตน ซึ่งก็ไม่ได้เร่งรัด แต่ก็ขอทำให้เรียบร้อย เมื่อถึงเวลาก็จะส่งมาถึงตน ก็จะใช้เวลาดูแค่วันเดียว จากนั้นก็จะส่งนายกรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งคงไม่มีปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าโผทหารไปอยู่ในมือนายกฯ แล้วจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณจากอะไรเลยทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ยังเงียบสงบเหมือนเดิม

ต่อข้อถามว่า เหล่าทัพเสนอมาอย่างไรก็จะเสนอไปตามนั้นใช่หรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับทราบเหตุผลและดูรายละเอียดต่างๆ ระหว่างการประชุมคณะกรรมการปรับย้ายทหารระดับชั้นนายพล เราก็เห็นทุกอย่างว่าอะไรถูกต้อง และอะไรที่เป็นไปได้ และก็ผ่านมาเรามองถึงผลประโยชน์ส่วนรวม และความถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ

ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม 2551 ทำให้รัฐมนตรีไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ก็มีหลายเรื่องที่จำกัดอำนาจของรัฐมนตรีและอำนาจของนักการเมือง เมื่อถามว่าอยากจะทำแต่กลัวผิดกฎหมายเลยทำไม่ได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า “ไม่มีปัญหา เพราะผมมีความเป็นทหารอยู่ นั่งข้างทหารเราก็แฮปปี้ที่มี พ.ร.บ.ฉบับนี้เกิดขึ้นมา แต่ถ้าเราเป็นนักการเมืองก็อาจจะมีความรู้สึกบ้าง แต่ถ้าเรามีหัวใจทั้งสองอย่างในหัวใจเดียวกัน เราก็ไม่เป็นไร เราก็รู้สึกว่ามีอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน”

ต่อข้อถามว่ามีสองอย่างอยู่ในตัวใช่ไหม พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า “ใช่ครับ” เมื่อถามว่าก็เลยกลางๆ ใช่ไหม พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า “ก็เป็นอย่างนั้น”

พล.อ.ยุทธศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยระบุว่า ในช่วงปลายปีนี้จะมีอำนาจนอกระบบล้มล้างรัฐบาลว่า ไม่มี ยืนยันว่าไม่มี มั่นใจว่าไม่มีอำนาจนอกระบบมาล้มล้างรัฐบาล ทหารทุกคนเป็นทหารของประชาชน ไม่มีมีใครทำแบบนี้ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวยืนยันเช่นเดียวกัน ไม่มีทหารหรืออำนาจนอกระบบที่จะดำเนินการพยายามโค่นล้มรัฐบาล

สำหรับการเดินทางมาเยี่ยมกองทัพบกครั้งนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า เพื่อรับทราบการปฏิบัติงาน การดำเนินการและปัญหาต่างๆ ซึ่งถือว่าได้ประโยชน์อย่างยิ่ง เพื่อจะเป็นแนวทางในการทำงานของ รมว.กลาโหม ต่อไป ซึ่งในส่วนของกองทัพบก โดย ผบ.ทบ. และเจ้ากรมยุทธการทหารบก ได้บรรยายสรุปโดยละเอียด พร้อมให้เอกสารมาด้วย สิ่งเหล่านี้จะทำให้ตนมีความเข้าใจในการทำงานมากขึ้นเพราะคลอบคลุมถึงปัญหาต่างๆ ของกองทัพบก และจะต้องนำไปทบทวนดูแล พร้อมทั้งสนับสนุนให้หน่วยสำคัญของประเทศ ได้มีการพัฒนามากยิ่งขึ้นต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า งบประมาณที่กองทัพบกต้องการจะต้องเสนอเข้าให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติอีกหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ได้พูดกับกองทัพบกว่า ต่อไปนี้ตนจะขอมารับทราบรายละเอียดต่อไป ตอนนี้กองทัพบกมีงบประมาณไม่ถึง 20% ที่อยู่ในระดับความต้องการของกองทัพบก ซึ่งขาดไปประมาณ 7% อย่าง น้อยควรจะได้ 2% ของจีดีพี เมื่อขาดไปก็จะกระทบต่อการดำเนินงาน ที่ทำได้ครึ่งๆ กลางๆ หรือดำเนินงานไปแล้วยังขาดอยู่ แต่ถ้าทิ้งงานก็จะเสียโครงการงานไปทั้งหมด จึงต้องหางบประมาณเพิ่ม และต้องมาหารือกันภายหลังอีกครั้ง เรื่องที่จะต้องดูแลสนับสนุนกองทัพมีมาก จึงต้องมีการพูดคุยกันทีละเรื่อง ซึ่งตนก็จะมีโอกาสแวะเข้ามากองทัพ เข้ามาคุย และขอข้าวกลางวันกิน

พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ยัง ได้มีการพูดในภาพกว้างว่าอาวุธยุทโธกรณ์ล้าสมัย มีอายุใช้งานหลายสิบปีแล้วควรจะต้องมีการจัดหา หรือปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้นหรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้น ถ้าเราดูแลแต่เรื่องกำลังพลแต่ไม่ได้จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย ก็จะเป็นปัญหาของกองทัพ ส่วนเรื่องรายละเอียดก็ต้องมาคุยกันอีกที ตนในฐานะที่เป็นรัฐมนตรียินดีที่สนับสนุน เพราะเห็นถึงความจำเป็นของกองทัพ ถ้ามีกำลังพลแต่ไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ดีให้ก็ไม่มีประโยชน์ ต้องประกอบกันทั้งสองอย่าง

เมื่อถามถึงยุทโธปกรณ์ที่ยังเป็นปัญหา เช่น เรือเหาะเพื่อความมั่นคง จีที 200 และที่ยังไม่ได้รับมอบครบตามจำนวนเช่น รถเกราะยูเครน พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกัน สำหรับนโยบายในเรื่องนี้ต้องขอเข้าไปทำงานก่อน และจะเริ่มดูทีละเรื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในช่วงบ่าย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมกองทัพเรือ โดยปิดเผยว่ากองทัพเรือชี้แจงถึงสมรรถนะต่างและ งานที่กองทัพเรือต้องรับผิดชอบ รวมถึงงานที่กองทัพเรือต้องปฏิบัติและสิ่งที่จะต้องพัฒนากองทัพเรือต่อไปในอนาคต กองทัพเรือต้องสร้างความสมดุลในกำลังรบทางทะเลเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยไม่ให้ด้อยกว่าเขาในการป้องกันประเทศ และผลประโยชน์ของประเทศชาติ

ส่วนโครงการจัดหาเรือดำน้ำนั้น ได้รับทราบว่ากองทัพเรือได้ส่งเรื่องไปทางกระทรวงกลาโหมแล้ว แต่เรื่องยังไม่ถึงมือตน จึงตอบไม่ได้ เพราะยังไม่ได้อ่านเรื่อง ถ้าอ่านแล้วจะขอพิจารณาว่าอะไรที่สามารถสนับสนุนได้ ก็จะสนับสนุนเพื่อให้เกิดความสมดุลทางทะเลขึ้น

“คิดว่าคงใช้เวลาไม่นานในการพิจารณา ผมอ่านหนังสือไม่เกิน 7 วัน พรุ่งนี้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี หลังจากนั้นเรื่องก็มาถึงผม ตอนนี้ผมขออ่านรายละเอียดก่อนที่กองทัพเรือเสนอขึ้นมา รวมถึงเหตุผล และอาจจะต้องมีผู้ต้องพิจารณาเรื่องงบประมาณ และกฎหมายพร้อมๆ กันด้วย พูดสั้นๆ ไม่ได้ ตกลงใจไม่ได้”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ควรซื้อเรือดำน้ำจากเยอรมนีตามที่กองทัพเรือเสนอ หรือจากเกาหลีตามที่มีข่าวว่า รมว.กลาโหมคนเก่าเสนอ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ขอดูก่อน เพราะยังไม่เห็นรายการพิจารณาของ รัฐมนตรีคนเก่า ถ้าไปพูดตอนที่เรื่องยังไม่ถึงมือ ก็คงไม่ถูก ส่วนจะซื้อเรือใหม่ หรือเรือเก่านั้นก็ยังตอบไม่ได้ ขอดูรายละเอียดก่อน เรื่องยังไม่ถึง