อดีตเลขาฯ ปชป.แนะจับตาม็อบไพร่ รุกคืบเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงภาคใต้ หวังขยายลัทธิสร้างความแตกแยก เตรียมจับตาเงินมหาดไทยลงพื้นที่สร้างมวลชน ซัดแก๊งแดงไม่มีสิทธิ์กดดัน ทำบัญชีโยกย้ายทหารและไม่มีกฎหมายรองรับให้มีการจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธ
วันนี้ (5 ก.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มความแตกแยกว่า ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไร ประเทศชาติ สังคมหรือประชาชน ในประเทศนี้ต่างก็พยายามร้องขอว่าอย่าทำอะไรที่เป็นชนวนให้เกิดความแตกแยกกันต่อไปอีก แต่ขบวนการเสื้อแดงไม่หยุด เขาพยายามที่จะขยายพื้นที่หมู่บ้านเสื้อแดง ลงไปในพื้นที่อื่นๆ และที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านตน เขาก็ไปเปิดสำนักงานแล้ว โดยในวันนั้น นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง และนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการ นปช.ก็นั่งเครื่องไปเที่ยวบินเดียวกัน และได้คุยกัน ซึ่งตนก็ได้เห็นความพยายามของเขาแล้ว แต่ก็ได้เรียนแล้วว่าการที่จะไปเผยแพร่อุดมการณ์ความคิดลัทธิแดงของเขา ก็ทำไปแต่จะไปปลุกระดมให้ประชาชนลุกขึ้นมาโค่นล้มกันมาแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกัน ถือเป็นผลร้ายต่อประเทศชาติ
ส่วนจะมองว่าการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงที่พื้นที่ภาคใต้จะเป็นการบุกฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนคาดการณ์อยู่แล้วว่า เขาต้องออกไปทำ ในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ เมื่อถามว่าแกนนำเสื้อแดงบางรายก็เป็นพื้นที่ภาคใต้ ที่ผ่านมาคนเหล่านี้เคยพยายามทำเช่นนี้มาแล้วหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า คนเหล่านี้เคยลงสมัครเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง วันนี้เขาคงกลับไปทำการเมืองในรูปแบบใหม่ ในนามของลัทธิแดง เราก็ต้องติดตามต่อไปว่าคนปักษ์ใต้จะรู้สึกอย่างไร
ต่อข้อถามว่า หากเป็นอย่างนี้คิดว่าความปรองดองจะเกิดขึ้นหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ถ้าเขายังทำเหมือนเดิม คือไปจัดตั้งกลุ่มคนเสื้อแดง และอบรม ปลุกระดม ให้มีการแบ่งแยกทางชนชั้น แล้วลุกขึ้นมากระทำการที่ให้เกิดปัญหากับบ้านเมือง ก็จะทำให้เกิดความเสียหาย
ถามว่าเกรงว่าจะมีการขยายผลมากไปกว่านี้หรือไม่ เพราะมีรายงานข่าวว่ามีการระดมงบประมาณที่ตกค้างจากกระทรวงมหาดไทยไปยังท้องถิ่น ท้องถิ่นละ 5 ล้านบาท นายสุเทพกล่าวว่า ฝ่ายที่ตรวจสอบใช้จ่ายงบประมาณก็ต้องติดตามให้ดี ตนก็เคยรู้สึกกังวล และเคยบอกกับเพื่อนๆ แล้วว่า ที่น่าเป็นห่วงคือเขาจะใช้เงินงบประมาณแผ่นดินมาเอื้อประโยชน์ในการขยายลัทธิเสื้อแดง ซึ่งจะทำให้เขาทำได้รวดเร็วมาก แต่หลายคนก็มาวิจารณ์ตนว่าพูดเรื่องนี้เพื่อเป็นการปลุกผีคอมมิวนิสต์ แต่ขอให้ดูต่อไปก็จะเห็นเอง ทั้งนี้ มีความเป็นห่วงและไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะให้อาสาสมัครมีอาวุธได้ คนพวกนี้พยายามที่จะจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธของตนเองขึ้นมา ทีนี้ก็จะทำให้ชุดดำเป็นชุดที่ถูกกฎหมายขึ้นมา ซึ่งจะเป็นปัญหากับบ้านเมือง เพราะบ้านเมืองมีตำรวจ ทหาร อาสาสมัครอยู่แล้ว ไม่ต้องการกำลังเฉพาะกิจของคนเสื้อแดง
ส่วนกรณีที่คนเสื้อแดงพยายามเข้าไปก้าวล่วงกับการทำบัญชีโยกย้ายนายทหารนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ใช่หน้าที่ของคนเสื้อแดง และไม่มีสิทธิ์ด้วย เพราะไม่มีกฎหมายไหนระบุ รับรอง อำนาจหน้าที่ว่าคนเสื้อแดงจะต้องแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการหรือทหารได้ และถ้า รมว.กลาโหมไปเปลี่ยนแปลงโผบัญชีรายชื่อแต่งตั้งตามแรงกดดันของคนเสื้อแดง ก็ถือว่ารัฐมนตรีทำผิด ยืนยันว่ากองทัพหรือทหารทุกนายในกองทัพไมได้เป็นอริกับคนเสื้อแดงหรือคนเสื้อไหนทั้งสิ้น เขาทำหน้าที่ตามที่ได้รับคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมาย จากผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้น หรือคำสั่งของรัฐบาล การที่จะไปตีตราเหมารวมว่าทหารเป็นศัตรูหรือเป็นอริกับคนเสื้อแดงนั้น มันไม่ใช่ ตนไม่เคยได้ยินว่าทหารเขามองเสื้อแดงเป็นศัตรู ในทางกลับกันทหารเข้าใจมวลชนคนเสื้อแดงทั้งประเทศ เพราะมีเฉพาะคนที่ทำผิดกฎหมายชัดเจนเท่านั้นที่ถูกดำเนินคดี และในการดำเนินคดีทหารก็ไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตำรวจ และกระบวนการยุติธรรม
เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่าหากคนเสื้อแดงเข้ามาวุ่นวายทำให้ทหารเกิดความไม่พอใจ ทำให้เหตุการณ์บ้านเมืองจะวุ่นวายอีกครั้ง นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่คิดถึงขนาดนั้น แต่ตนพยายามพูดว่าอยากเห็นคนไทยทุกกลุ่ม ทุกภาคส่วนได้ตื่นตัวติดตามสถานการณ์ทางการเมือง ถ้าเห็นว่าลัทธิแดงจะทำร้ายบ้านเมือง ทำร้ายประเทศชาติ ก็ต้องช่วยกันระงับยั้บยั้ง หากการโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการไม่ชอบด้วยเหตุผลและเป็นธรรม พวกตนก็มีสิทธิ์ตั้งกระทู้ถามและเสนอญัติอภิปราย แสดงความไม่เห็นด้วยได้ ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิมท้าว่าให้รีบตั้งกระทู้นั้น ตนคิดว่า ร.ต.อ.เฉลิมไม่ต้องท้า เพราะปากกล้าไปเช่นนั้นเอง