xs
xsm
sm
md
lg

เพิ่ม 200หมู่บ้านแดง “เทือก”หวั่นกระแส มท.แจก 5 ล้านต่อแห่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 6 ก.ย.นี้ จะมีการแต่งตั้งข้าราชการเมืองเพิ่มเติม (ล๊อตที่ 3) เช่น นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ แกนนำนปช. รุ่น 2 คณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคเพื่อไทย เป็นที่ปรึกษา รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนายกมล บันไดเพชร เป็นเลขานุการ รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (นายปลอดประสภพ สุรัสวดี)
มีรายงานว่า จะมีการแต่งตั้ง นายศักดา นพสิทธิ์ แกนนำนปช.ชลบุรี ที่เคยไปบุกโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช พัทยา ในช่วงการประชุมอาเซียนซัมมิท เมื่อปี 2551 ลงสมัครส.ส.ชลบุรี เป็นเลขานุการรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข)

** เสื้อแดงเปิดหมู่บ้านอีก 200 แห่ง
รายงานข่าวแจ้งว่า สุดสัปดาห์นี้ ในวันที่ 11 ก.ย.นี้ จะมีพิธีเปิด “หมู่บ้านเสื้อแดง” จำนวน 101 หมู่บ้าน ณ บ้านดำพรินทร์ ต.ช้างเผือก อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด หลังจากที่มีการก่อตั้งที่ จ.อุดรธานี ไปแล้ว รวม 375 หมู่บ้าน ทั้งนี้แกนนำคนเสื้อแดง และแกนนำมูลนิธิ 111 ไทยรักไทย รวมถึงส.ส.เพื่อไทย จะมาร่วมงานกับคนเสื้อแดงจำนวนมาก
ยังมีรายงาสนว่า นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จะเดินทางเป็นประธาน
นอกจากวันดังกล่าวจะมีการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดง 101 หมู่บ้าน ที่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด แล้ววันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน จะมีการเปิดอีก 50 หมู่บ้าน ที่ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี
ขณะที่วันที่ 10 ก.ย. จะมีการจัดหมู่บ้านคนเสื้อแดงหมู่บ้านแรกขึ้นในจ.สงขลา ที่ต.คู อ.จะนะ จ.สงขลา

**“เทือก”เชื่อมีหมู่บ้านแดงใต้ไม่แปลก
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มความแตกแยกว่า ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไร ประเทศชาติ สังคมหรือประชาชน ในประเทศนี้ต่างก็พยายามร้องขอว่าอย่าทำอะไรที่เป็นชนวนให้เกิดความแตกแยกกันต่อไปอีก แต่ขบวนการเสื้อแดงไม่หยุด เขาพยายามที่จะขยายพื้นที่หมู่บ้านเสื้อแดงลงไปในพื้นที่อื่นๆ และที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านตน เขาก็ไปเปิดสำนักงานแล้ว
โดยในวันนั้น นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงและนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการนปช. นั่งเครื่องไปเที่ยวบินเดียวกัน และได้คุยกัน ซึ่งได้เห็นความพยายามของเขาแล้ว แต่ก็ได้เรียนแล้วว่าการที่จะไปเผยแพร่อุดมการณ์ความคิดลัทธิแดงของเขา ก็ทำไปแต่จะไปปลุกระดมให้ประชาชน ลุกขึ้นมาโค่นล้มกันมาแบ่งฝัก แบ่งฝ่ายกัน ถือเป็นผลร้ายกับประเทศชาติ

**ติดตามความรู้สึกคนใต้ต่อ“ลัทธิแดง”
ส่วนจะมองว่าการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงที่พื้นที่ภาคใต้ จะเป็นการบุกฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คาดการณ์อยู่แล้วว่าเขาต้องออกไปทำ ในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ เมื่อถามว่าแกนนำเสื้อแดงบางรายก็เป็นพื้นที่ภาคใต้ ที่ผ่านมาคนเหล่านี้เคยพยายามทำเช่นนี้มาแล้วหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คนเหล่านี้เคยลงสมัครเป็นส.ส.พรรคเพื่อไทย แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง วันนี้เขาคงกลับไปทำการเมืองในรูปแบบใหม่ ในนามของลัทธิแดง เราก็ต้องติดตามต่อไปว่าคนปักษ์ใต้จะรู้สึกอย่างไร
ต่อข้อถามว่า หากเป็นอย่างนี้คิดว่าความปรองดองจะเกิดขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าเขายังทำเหมือนเดิม คือไปจัดตั้งกลุ่มคนเสื้อแดง และอบรม ปลุกระดมให้มีการแบ่งแยกทางชนชั้น แล้วลุกขึ้นมากระทำการที่ให้เกิดปัญหากับบ้านเมือง ก็จะทำให้เกิดความเสียหาย

**กังวลกระแสแดงหมู่บ้านละ 5 ล้าน
ถามว่า เกรงว่าจะมีการขยายผลมากไปกว่านี้หรือไม่ เพราะมีรายงานข่าวว่ามีการระดมงบประมาณที่ตกค้างจากกระทรวงมหาดไทย ไปยังท้องถิ่น ท้องถิ่นละ 5 ล้านบาท นายสุเทพ กล่าวว่า ฝ่ายที่ตรวจสอบใช้จ่ายงบประมาณก็ต้องติดตามให้ดี ตนก็เคยรู้สึกกังวล และเคยบอกกับเพื่อนๆแล้วว่า ที่น่าเป็นห่วงคือเขาจะใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน มาเอื้อประโยชน์ในการขยายลัทธิเสื้อแดง ซึ่งจะทำให้เขาทำได้รวดเร็วมาก แต่หลายคนก็มาวิจารณ์ตนว่า พูดเรื่องนี้เพื่อเป็นการปลุกผีคอมมิวนิสต์บ้าง อะไรบ้าง แต่ขอให้ดูต่อไปก็จะเห็นเอง ทั้งนี้มีความเป็นห่วงและไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะให้ อาสาสมัคร มีอาวุธได้ คนพวกนี้พยายามที่จะจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธของตนเองขึ้นมา ที่นี้ก็จะทำให้ชุดดำเป็นชุดที่ถูกกฎหมายขึ้นมา ซึ่งจะเป็นปัญหากับบ้านเมือง เพราะบ้านเมืองมีตำรวจ ทหาร อาสาสมัคร อยู่แล้ว ไม่ต้องการกำลังเฉพาะกิจของคนเสื้อแดง

** “มาร์ค”จี้“ปู”ต้องรีบส่งสัญญาณ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ประเด็นว่าจะเป็นถิ่นใคร หรือฐานเสียงใคร แต่เมื่อรัฐบาลบอกว่ามีนโยบายเรื่องสมานฉันท์ปรองดองน่าจะส่งสัญญาณให้ชัดว่าการแบ่งแยกประชาชนในรูปแบบนี้ไม่เอื้อให้เกิดการปรองดอง รมว.มหาดไทยเคยบอกไว้เหมือนกัน วันนี้ก็คงจะต้องไปติดตามว่ามันสวนทางกับสิ่งที่เคยพูดไว้หรือไม่
ส่วนที่มีข่าวว่าอยากจะให้กลุ่มอาสาสมัครป้องกันภัยของคนเสื้อแดงได้มีการพกอาวุธด้วยนั้น ตนคิดว่ารัฐบาลต้องพยายามทำให้บรรยากาศความปรองดองสมานฉันท์เกิดขึ้น เพราะคือปัญหาเร่งด่วนที่ประชาชนรอคอยให้มีการแก้ไข

**ปชป.อัดแดงหยุดสร้างจินตนาการ
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอให้คนเหล่านี้หยุดใช้จินตนาการ และยืนยันในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ไม่มีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น เราทำทุกอย่างไปตามขั้นตอนของกฏหมายทั้งการตรวจสอบรัฐบาลในการทำงาน แต่ที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่ได้ทำงานให้ประชาชนเลย และในบางกรณียังเอาประชาชนไปเป็นตัวประกัน

**มท.1 ยันไม่มีเสื้อแดงตรวจสอบงบฯ
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวปฏิเสธ กรณีจะมีการตั้งคนเสื้อแดงมาเป็นผู้ตรวจสอบงบประมาณปี 2555ทั่วไป ตนว่าหากมีใครพูดสติสัมปชัญญะคงไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว คำก็เสื้อแดง คงไม่ใช่ ทั้งนี้ร่างแผนบริหารราชการแผ่นดินจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 6 ก.ย.

**“เหลิม” คุย“ตู่”เรื่องกลุ่มล่มรบ.แล้ว
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่าจะมีการเคลื่อนไหวโค่นล้มรัฐบาลหลังจากวันที่ 5 ธ.ค. ว่า ได้คุยกับนายจตุพรแล้ว แต่บอกไม่ได้ อย่างไรก็ตาม อย่างที่เห็นกันคือบรรดาเจ้าเก่าออกมาแล้ว เช่น เขียนหนังสือ 19 ก.ย.ใกล้จะมาถึง ซึ่งคนพวกนี้ล้วนเป็นเจ้าเก่าทั้งนั้น ทีดีอาร์ไอก็เจ้าเดิม นายพลส.ว.ก็เจ้าเก่า โดยคนพวกนี้เคลื่อนไหวมาจนพรรคเพื่อไทยได้มา 265 เสียง ซึ่งหมั่นทำเข้าเถอะพวกเราจะได้ 320 เสียง

**“บิ๊กอ๊อด-บิ๊กตู่ ”ย้ำไร้อำนาจนอกระบบ
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม กล่าวว่า ไม่มี ยืนยันว่า ไม่มี มั่นใจว่า ไม่มีอำนาจนอกระบบมาล้มล้างรัฐบาล ทหารทุกคนเป็นทหารของประชาชน ไม่มีมีใครทำแบบนี้ ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวยืนยันเช่นเดียวกัน ไม่มีทหารหรืออำนาจนอกระบบที่จะดำเนินการพยายามโค่นล้มรัฐบาล

**7 ก.ย.พิจารณา9 นปช.สละเอกสิทธิ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฏรในวันพุธที่ 7 ก.ย.ที่จะเริ่มในเวลา 13.00 น.เป็นต้นไป ได้มีการบรรจุระเบียบวาระพิจารณาเรื่องด่วนการขออนุญาตสภาผู้แทนราษฏรเพื่อพิจารณาสละสิทธิ์ความคุ้มกันของส.ส.จำนวน 9 คน ตามมาตา 131 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตามที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทำหนังสือที่ ยธ.0805/2388 ถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 54 เนื่องด้วยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนกรณี 10 เม.ย.54 มีบุคคลและกลุ่มบุคคลที่บางส่วนเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ได้กล่าวปราศรัยบนเวทีชุมนุมรำลึกครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์สลายการชุมนุม 10 เม.ย. 2553 บริเวณอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ด้วยถ้อยคำที่เข้าข่ายเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาในลักษณะความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงในราชอาณาจักร
โดยบุคคลที่ถูกกล่าวหาในกรณีนี้จำนวน 9 คนปัจจุบันดำรงตำแหน่งส.ส.ประกอบด้วย นพ.เหวง โตจิราการ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายพายัพ ปั้นเกตุ นายวิเชียร ขาวขำ นายการุณ โหสกุล นายประสิทธิ ไชยศรีษะ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2550 มาตรา 131ระบุว่าในสมัยประชุมห้ามมิให้จับ คุมขังหรือมีหมายเรียกตัวส.ส.หรือส.ว.ไปทำการสอบสวน ในฐานะที่สมาชิกผู้นั้นเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาเว้นแต่ในกรณีที่ได้รับอนุญาตจากสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิก หรือในกรณีที่จับในขณะกระทำความผิด ดังนั้นบุคคลทั้ง 9 ย่อมได้รับการคุ้มกันตามรัฐธรรมนูญ
แต่เนื่องจากบุคคลทั้ง 9 ไม่ประสงค์จะใช้สิทธิดังกล่าวและได้ขอสละสิทธิในการได้รับการคุ้มกันตามรัฐธรรมนูญด้วยความสมัครใจต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและเพื่อให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความรวดเร็วจึงใคร่ขอให้ท่านพิจารณาเจตนารมย์สละสิทธิของบุคคลทั้ง 9 คน โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษใคร่ขออนุญาตดำเนินการสอบสวนบุคคลทั้ง 9 คนข้างต้นในฐานะผู้ต้องหาโดยขอให้แจ้งผลการพิจารณาให้กรมสอบสวนคดีพิเศษทราบเพื่อให้ดำเนินการต่อไป

**ศาลอุทธรณ์ให้ประกัน3แนวร่วมนปช.
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เปิดเผยว่า ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวแนวร่วม นปช. จำนวน 3คน ประกอบด้วย นางนฤมล วรุณรุ่งโรจน์ นายสุรชัย นิลโสภา และนายชาตรี ศรีจินดา ที่ตกเป็นจำเลยคดีร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง และใช้เอกสารราชการปลอมในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 โดยศาลได้ตีราคาประกันเป็นวงเงินคนละ 5 แสนบาท และไม่มีการกำหนดเงื่อนไข ซึ่งหลังจากนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จำนวน 3 คน จะเดินทางไปที่ศาลจังหวัดพระโขนง เพื่อเป็นนายประกันให้แก่แนวร่วม นปช.ทั้ง 3 คน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2553 ขณะที่เกิดการปะทะกันระหว่าง แนวร่วม นปช. กับเจ้าหน้าที่รัฐ จำเลยทั้งสามได้ร่วมกันครอบครองอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนโดยผิดกฎหมาย และในวันที่ 10 เม.ย.2553 จำเลยที่ 2 ได้ปลอมและใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถปลอม ในศาลจังหวัดพระโขนง ว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษายกฟ้อง ต่อมาทนายความได้ยื่นขอประกันตัวจำเลยทั้ง 3 ต่อศาลชั้นต้น แต่ศาลพิจารณาส่งคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวดังกล่าวให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาคำร้องดังกล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น