“สุกรี” วิพากษ์กระทรวงศึกษาฯต้นเหตุทำการศึกษาไทยตกต่ำ ซัดความคิดล้าหลัง คนในกระทรวงทำตัวไร้สาระ สร้างเด็กให้เป็นขอทานนั่งรอแต่ของฟรี ได้ปริญญาแต่ทำงานไม่เป็น อีกทั้งผู้นำการศึกษาของประเทศมีแต่พวกไม่รู้ไม่ชี้กับไม่รู้แต่ชี้เพราะมีอำนาจ ด้าน “พิภพ” หนุนสู้ให้ถึงที่สุด ชี้หากชนะจะเป็นจุดเปลี่ยนระบบการศึกษาไทยได้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข” ให้สัมภาษณ์
วันที่ 2 ก.ย. เวลา 20.30 น. รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข คณบดีดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล และนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว” ถึงกรณีการศึกษาของไทย โดย รศ.ดร.สุกรี กล่าวถึงระบบการศึกษาของไทยว่า ถ้าเขมร พม่า ลาว พัฒนาขึ้นมา คนไทยง่อยทันที เพราะคนเขมร พม่า ลาว กลับบ้านหมด คนไทยปัจจุบันถูบ้านก็ไม่ได้ ตอกตะปูก็ไม่เป็น เพราะคนไทยมีใบปริญญาหมด แต่ทำงานไม่เป็น
สิ่งที่น่าเป็นห่วงอีกอย่างหนึ่ง คือ กระทรวงศึกษาธิการกำลังสร้างเด็กให้เป็นขอทาน นั่งคอยนมฟรี หนังสือฟรี เสื้อฟรี อะไรฟรีทั้งหลาย ไม่ได้ก็เรียกร้อง ในที่สุดคนไทยก็เป็นขอทาน นั่งรอหยอดน้ำหยอดข้าว การสร้างคนให้ง่อยเปลี้ยเสียขาเป็นปมด้อยของประเทศไทย ตนคิดว่าการสร้างคนให้เข้าสู่ศักยภาพความเป็นเลิศของมนุษย์ ต้องสร้างคนออกไปสร้างงาน เด็กจะได้ไม่ตกงานอีกต่อไป คือการมองโลกออกไปข้างหน้า 5-10 ปี กระทรวงศึกษาธิการเขาอยู่ในโลกอดีต ล้าหลังตนไปประมาณ 50 ปี เถียงกันยังไงกับ สกอ. (คณะกรรมการอุดมศึกษา) ก็ไม่เข้าใจ เพราะอยู่กันคนละโลก คนละมิติ
การที่ สกอ.ไม่รับรองหลักสูตรหลักสูตรธุรกิจดนตรี และหลักสูตรเทคโนโลยีดนตรี โดยให้เหตุผลว่าไม่มีความเข้มข้นทางวิชาการมากพอ และไม่เชื่อว่าจะมีอาจารย์ที่มีศักยภาพเพียงพอ คิดแบบนี้เป็นวิธีคิดของนักการศึกษา 50 ปีก่อน โบราณมาก อธิบายยังไงก็ไม่ฟัง พวกนี้ปิดหูปิดตา ไม่มีความรู้กับสิ่งเหล่านี้ สำหรับประเทศไทยผู้นำการศึกษา คือไม่รู้ไม่ชี้ และไม่รู้และชี้เพราะมีอำนาจ
“การศึกษาต้องให้ผู้รู้เป็นผู้ชี้ เวลานั่งประชุมกันคนรู้มีจำนวนน้อยกว่าคนไม่รู้ แต่เมื่อยกมือปั๊บ คนฉลาดกับคนโง่ ผลลัพธ์ของการยกมือ คือเฉลี่ยความโง่ ความฉลาด ให้เท่าเทียมกันหมด” รศ.ดร.สุกรี กล่าว
นายพิภพกล่าวว่า สิ่งที่ อ.สุกรีต่อสู้อยู่จะเป็นจุดเปลี่ยนการศึกษาไทย สกอ.ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการศึกษาไทย และไม่เอื้อให้เกิดการศึกษาใหม่ๆ สกอ.ควรมาเรียนรู้จาก อ.สุกรี ว่าทำอะไร ทำไมนานาชาติถึงให้การยอมรับ ไม่ใช่มามองว่าผิดระเบียบที่วางไว้ ได้ถามตัวเองหรือเปล่าว่ากฎที่วางไว้ได้ก่อให้เกิดความเป็นเลิศหรือเปล่า
รศ.ดร.สุกรีกล่าวว่า ถ้าตนเป็นรัฐบาลจะยุบกระทรวงศึกษาธิการ ยุบ สกอ. เหลือแต่ฝ่ายนโยบายกับเสมียนคอยจัดการประสานงาน ส่งคนกระทรวงศึกษากลับบ้านให้หมด ให้ไปอยู่ตามโรงเรียน และส่งเงินไปให้ชุมชนจัดการโรงเรียนเอง เพื่อให้สอดคล้องตามความต้องการของสังคมนั้นๆ
การที่เอาคนตำแหน่งสูงๆ วุฒิสูงๆ มากองอยู่ที่กระทรวงศึกษาธิการ ขับรถแพงๆ สิ้นเปลืองทรัพยากร พวกนี้นั่งเป็นผู้อำนวยการกองกระดาษ คนเหล่านี้ประชุม ดูงาน แล้วก็ทำรายงาน ชีวิตไร้สาระมาก การศึกษาไทยตกต่ำเพราะเหตุผลเช่นนี้
รศ.ดร.สุกรีกล่าวอีกว่า โรงแรมใหญ่ๆในเมืองไทย ถามว่าทำไมเขาจ้างฝรั่งมาเล่นดนตรี เพราะถ้าเลือกคนไทยมาทำงาน ทั้งๆที่คนไทยคนนั้นเก่งมาก แต่พอวันรุ่งขึ้นก็จะมาสาย แม่ยายป่วย ร้องเพลงเดิมๆ เอนเตอร์เทนแขกไม่เป็น แต่ถ้ารับฝรั่งจะมาตรงเวลา เล่นเพลงใหม่ๆ เอนเตอร์เทนแขกได้ คนไทยเก่ง แต่มีปัญหาอยู่ 3 เรื่อง 1.ไม่ศรัทธาในอาชีพ 2.ไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ 3.ไม่ตรงต่อเวลา ซึ่งวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ตนสร้างขึ้นบนแนวคิดนี้ แก้ปัญหา 3 อย่างนี้เป็นเรื่องหลัก
นายพิภพกล่าวว่า สิ่งที่ อ.สุกรีทำวันนี้ ถ้าชนะได้ ฝ่าฟันไปได้ จะเป็นจุดเปลี่ยนระบบการศึกษาของไทย เพราะมันเป็นปัญหาของประเทศ ต้องจัดการตรงนี้ ไม่ได้ทำเพียงเพื่อ อ.สุกรี อยากให้สื่อสนใจนอกจากรายละเอียด แต่ต้องรู้ว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงการจัดระบบการศึกษา กรณี อ.สุกรีเป็นตัวอย่างให้ดู ถ้าแพ้ระบบการศึกษาไทยก็แพ้
