xs
xsm
sm
md
lg

สุดอนาถ สองตายายถูกลูกทิ้งนอนอดข้าว 3 วันกลางบ้านไร้ลูกเหลียวแล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครปฐม - เพื่อนบ้านสุดทน แจ้งเจ้าหน้าที่นำสองตายายชราภาพนอนไร้เรี่ยวแรง เพราะอดอาหารมาไม่น้อยกว่า 3 วันนอนรอความตายสุดรันทด ด้านตาป่วยมะเร็งหลอดเสียง ส่วนยายเป็นอัมพาต ตาบอด ลูกหลานไม่สนทิ้งนอนหมดแรงคาปัสสาวะบนพื้นบ้าน ด้านนายกเทศมนตรีทราบเรื่องรับช่วยเหลือดูแลแล้ว

วันนี้ (25 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์วิทยุมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ให้ช่วยมารับผู้ป่วยสูงอายุ 2 รายไปส่งเพื่อทำการรักษาและปฐมพยาบาลที่ รพ.นครชัยศรี อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ที่บ้านเลขที่ 179 ม.1 ต.นครชัยศรี อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

เมื่อไปถึง พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่ห่างจากถนนราว 20 เมตร มีเพื่อนบ้านหลายคนกำลังยืนรออยู่ และได้นำเข้าไปพบกับนายเหล่ง โตอนันต์ อายุ 62 ปี หรือตาเหล่ง และนางพยงศรี อากาศฤกษ์ หรือยายแต๋ว อายุ 63 ปี สองสามีภรรยาที่นอนหมดแรงอยู่บนพื้นที่กลางบ้านพัก

โดยนายเหล่ง นั้นมีสภาพไม่มีแรง ยืนไม่ไหว ส่วนที่อนาถคือ นางพยงศรี หรือยายแต๋ว ที่เป็นอัมพาต ตาบอด 1 ข้าง และอีก 1 ข้างนั้นมองไม่ชัดเจน นอนอยู่บนผ้าปูที่นอนที่เต็มไปด้วยกลิ่นอับชิ้นจากปัสสาวะ และมีอาการอ่อนแรงไม่ต่างกัน

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนายเหล่ง ขึ้นรถกู้ชีพไปส่งยังโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ดูอาการ และตรวจสอบบาดแผลที่ภายในช่องคอ เนื่องจากป่วยเป็นโรคมะเร็งกล่องเสียง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้กลับมานำตัวนางพยงศรี หรือยายแต๋ว มาตรวจรักษา ซึ่งระหว่างรอรถวนกลับมารับ เพื่อนบ้านได้สอบถามไปยังทั้ง 2 ซึ่งได้บอกว่า ไม่ได้กินข้าวมาแล้วราว 3-4 วันจนหมดแรง จึงได้พยายามนำนมกล่องมาให้ แต่ไม่มีเรี่ยวแรงจะยกจับกล่องจึงได้ช่วยกันป้อนนมให้ก่อนจะถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเดียวกัน ซึ่งแพทย์ได้ทำแผลให้นายเหล่งเรียบร้อย และอยากให้นอนอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว แต่ก็พยายามจะขอกลับบ้านเพื่อไปดูแลภรรยาของตัวเอง

แต่เมื่อทราบว่าทางแพทย์ได้ให้ฝ่ายยายแต๋วนอนโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือเนื่องจากร่างกายอ่อนเพลียมาก และเริ่มมีอาการไข้ขึ้น นายเหล่งจึงได้ยอมที่จะอยู่ดูภรรยาที่โรงพยาบาล เป็นภาพที่เวทนาของเจ้าหน้าที่ และผู้ที่มาทำการรักษาตัวที่อยู่ในเหตุการณ์

โดยนางแดง (นามสมมติ) อายุ 40 ปีเพื่อนบ้าน บอกว่า เดิมทีตาเหล่งมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ส่วนยายแต๋วนั้นมีอาชีพค้าขาย และมีลูก 2 คน เป็นชายและหญิง แต่เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา ตาเหล่งได้ป่วยเป็นโรคมะเร็งกล่องเสียง ต้องไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อรักษาอาการ โดยยายแต๋วนั้นก็มาป่วยเป็นอัมพาตตาบอดมาสักพักแล้ว

แต่ปรากฏว่าเมื่อทั้งสองตายายป่วยลูกทั้งสองคนก็ไม่เคยได้ดูแล แม้กระทั่งข้าวปลาอาหารก็ไม่เคยจะหาให้กิน ก็จะมีเพียงเพื่อนบ้านที่สงสารผลัดเปลี่ยนกันเอาข้าวไปให้กินประทังชีวิต แต่เมื่อราว 2 อาทิตย์ก่อน ลูกชายซึ่งไม่ยอมทำงานและเป็นคนติดเหล้าได้กลับมาบ้านได้ใช้ไม้ตีศีรษะของผู้เป็นแม่ที่นอนเป็นอัมพาต จนศรีษะแตก และมีคนไปแจ้งความให้ตำรวจมาดำเนินคดี จึงได้หยุดพฤติกรรมเนื่องจากกลัวความผิด แต่ก็ยังติดเหล้าไม่สนใจผู้เป็นพ่อเป็นแม่

ส่วนลูกสาวก็ได้อาศัยอยู่ใกล้กันก็ไม่เคยได้สนใจความเป็นอยู่ของผู้บังเกิดเกล้าเช่นกัน ทำให้เพื่อนบ้านต่างต้องคอยอาศัยดูจังหวะที่ลูกทั้งสองคนไม่อยู่แอบเอาข้าวไปให้กิน กระทั่งเห็นว่า 1 อาทิตย์ ทั้งตาเหล่ง และยายแต๋วเงียบผิดปกติ จึงได้แอบเข้าไปดู และพบสภาพว่าทั้งคู่นอนหมดแรงในบ้านเหมือนคนใกล้ตาย ในบ้านมีแต่กลิ่นเหม็นสาบ ปัสสาวะและอุจจาระ จึงได้แจ้งให้มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐมมาช่วยรับตัวไปรักษา และประสานไปยังนายบัญชา ปักษาทอง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนครชัยศรี ให้ทราบเรื่อง และได้เข้ามาช่วยดูการรักษาพยาบาลเบื้องต้นไว้ก่อนแล้ว โดยได้เตรียมจะหาทางช่วยเหลือในระยะยาวต่อไปแต่ต้องรอการตรวจจากแพทย์ก่อน

ทั้งนี้ เพื่อนบ้านบอกว่า อยากให้นำตัวทั้งคู่ไปอาศัยอยู่ที่อื่น เพราะทนเห็นสภาพที่ถูกไร้การเหลียวแลไม่ไหว โดยที่ลูกสาวก็อ้างว่าป่วยเช่นกัน ส่วนลูกชายนั้นเป็นคนอารมณ์น่ากลัวรุนแรงซึ่งเพื่อนบ้านก็มีความเกรงกลัวลูกชายของสองตายายนี้เช่นกัน และอยากให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูแลทั้งสองตายายนี้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีกว่านี้ เพราะหากรักษาตัวเสร็จและต้องกลับมาบ้านพักก็คงไม่พ้นสภาพเดิม และเกรงว่าคราวนี้ลูกชายจะไม่ยอมให้ใครเข้าไปช่วยเหลือส่งข้าวส่งน้ำให้สองตายายเหมือนที่เคยช่วยได้

กำลังโหลดความคิดเห็น